รีวิวหนัง Ditto ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา | รักแรกในสองเวลา

หนังดังหลายต่อเรื่อง มักจะถูกหยิบมาสร้างใหม่ รีเมกออกมาให้เข้ากับยุคสมัย ไม่ก็ปรับแต่งให้แตกต่างของเวอร์ชันดั้งเดิม ทั้งนี้ก็คงเพื่อดึงดูดคอหนังยุคใหม่ให้เข้าไปดู พร้อมกับอาจจะดึงคนที่เคยดูเวอร์ชันเก่าเข้าไปพบเจอมันอีกครั้ง อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Ditto’ หนังรักจากเกาหลีใต้ที่มีชื่อไทยว่า ‘ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา’

ครั้งหนึ่งในปี 2000 เกาหลีใต้เคยสร้างหนังในชื่อไทย ‘รักต่างมิติ’ จนมันขึ้นแท่นเป็นหนังโรแมนติกดราม่าสุดคลาสสิกมาแล้ว อีกทั้งยังเป็นหนังแจ้งเกิดของ คิมฮานึล และ ยูจีแท มาครั้งนี้ ภาพยนตร์รักที่อยู่ในความทรงจำเรื่องเดิมถูกนำกลับมารีเมกอีกครั้ง

สร้างใหม่ด้วยการเปลี่ยนแปลงบางอย่างนิดหน่อย

เรื่องย่อหนัง ‘Ditto’

คิมยง (Yeo Jin Goo/ยอจินกู จากซีรีส์เรื่อง ‘Beyond Evil’ และ ‘Hotel Del Luna รอรักโรงแรมพันปี’) เป็นนักศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลมาตั้งแต่ปี 1995 แต่เขาพักการเรียนเพื่อไปเกณฑ์ทหาร หลังปลดประจำการในปี 1999 เขาก็กลับมาเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ในวันที่เขาอยู่ปี 3 เขาได้รู้จักกับ ซอฮันซอล (Kim Hye Yoon/คิมฮเยยุน จากซีรีส์เรื่อง ‘Snowdrop’ และ ‘Extraordinary You’) น้องใหม่ที่สอบเข้ามาเป็นที่หนึ่งปีนี้และเธอกลายเป็นรักแรกของเขา

ในระหว่างที่ความรักกำลังดำเนินไปนั้น เขาก็พบว่าตัวเองสามารถติดต่อกับหญิงสาวอีกคนที่อยู่คนละเวลาได้ เธอคือ คิมมูนี (Cho Yi Hyun/โจอีฮยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Hospital Playlist’ และ ‘All of Us Are Dead’) ผ่านเครื่องรับส่งวิทยุสมัครเล่นที่ได้มาจากเพื่อนสนิท มูนีเป็นนักศึกษาเอกสังคมมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เธออยู่ในปี 2022 การติดต่อสื่อสารกันคนละช่วงเวลาของคนทั้งสองนำพาบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้ให้บังเกิดขึ้น

รีวิวหนัง ‘ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา’

ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ามันเป็นหนังรีเมกก็อาจจะคิดว่าทำไมพล็อตมันช่างเคยคุ้นเหลือเกิน ต่อเมื่อได้รู้ว่า มันคือการนำหนังในเวอร์ชันปี 2000 มาสร้างใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนบางอย่าง จึงเลิกสงสัยไปในข้อนั้น ‘Ditto’ ในเวอร์ชันนี้ สลับให้คนที่อยู่ในอดีตเป็นฝ่ายชาย และให้คนที่อยู่ในปัจจุบันเป็นฝ่ายหญิงแทน

เรื่องของคิมยงที่ติดต่อสื่อสารกับมูนีได้ผ่านเครื่องวิทยุสมัครเล่น กับเวลาของทั้งสองคนที่ห่างกัน 20 ปี ทำให้ได้เห็นแง่มุมชีวิตที่แตกต่างระหว่าง 2 ช่วงเวลา คิมยงที่ยังอยู่ในปี 1999 เขาอยู่ช่วงเวลาที่เกาหลีกำลังเผชิญกับวิกฤติไอเอ็มเอฟ ความเชื่อเรื่องโลกแตก และยังเป็นเด็กหนุ่มที่หัวใจยังวกวนอยู่กับการหาแฟนสักคนด้วยอุปนิสัยส่วนตัวที่ไม่ค่อยประสากับการจีบสาว การได้พูดคุยกับมูนีทำให้เกิดแรงผลักดันที่จะทำให้ขอฮันซอลเป็นแฟน

ด้านมูนีนั้น เธอเป็นหญิงสาวที่อยู่ในปี 2022 ภาษาและความคิดอ่านจึงแตกต่างออกไปจากช่วงเวลาของคิมยง เธอเองก็ไปไหนมาไหนแต่กับเพื่อนสนิทอย่าง โอยองจี (Na In Woo/นาอินอู จากซีรีส์เรื่อง ‘Jinxed at First’ และ ‘Mr. Queen’) มา 7 ปีแล้วแต่เขาก็ยังเป็นคนที่เธอแอบรักตลอดมา และก็เป็นแบบนี้แหละ ตัวเองเก่งเหลือเกินเรื่องให้คำแนะนำคนอื่น แต่พอเป็นเรื่องตัวเองก็กลับทำไม่ได้

ในหนังเรื่องยังมีตัวละครอีกตัวที่ต้องพูดถึง เขาคือ คิมอึนซอง (Bae In Hyuk/แบอินฮยอก จากซีรีส์เรื่อง ‘Under The Queen’s Umbrella’ และ ‘Cheer Up’) เขาคือเพื่อนสนิทของคิมยง บทบาทของเขามีไปทั่วทั้งเรื่อง พร้อมมีช็อตฮาๆ ในช่วงที่เขาบาดเจ็บต้องเข้าเฝือกที่ขาด้วย

หนังมีช็อตที่พาอินซึ้งเศร้าไปกับอารมณ์ของแต่ละตัวละคร ซึ่งก็พบว่า เขาเลือกวิธีการเล่า มุมกล้อง ดนตรีประกอบ ทั้งหมดผสานกันออกมาได้ค่อนข้างดี พาต่อมน้ำตาให้ออกมาทำงานได้เรื่อยๆ แม้จะไม่มีเพลงประกอบที่ชวนจดจำเลยก็ตาม

ด้านทีมนักแสดงก็เรียกได้ว่าเล่นกันดีทุกคน โดยเฉพาะยอจินกูที่ยังคงเล่นซีนดราม่าได้ชวนอินเช่นเคย ขณะที่นางเอกทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็น โอจีฮยอน ในบทนักศึกษาปี 2022 และ คิมฮเยยุน ในบทรักแรกของคิมยง น่ารักจนเลือกไม่ถูกว่าใครกันดีที่เด่นกว่า

ด้วยเพราะบทหนังมันเล่าแค่เพียงสองเวลา จึงไม่ได้เป็นท่าที่ยากจนเกินไป หนังใช้พระจันทร์ได้ถูกจุด บวกกับเนื้อหาที่พาผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปยุค Y2K อีกครั้ง ทั้งยังสามารถจะเล่าออกมาให้คนดูได้ทั้งยิ้ม หัวเราะ อึ้ง และสะเทือนใจได้อย่างที่ต้องการ ก็อาจจะมีติดอยู่บ้างที่บางช็อตในหนังยังชวนกังขาในความเม้กเซ้นส์

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง