รวม 10 หนังสายสัมพันธ์พ่อลูก…ที่สุดแสนประทับใจ

ผมรู้ว่าในวันนี้ หลายคนก็คงยังรู้สึกโศกเศร้าและเสียใจเมื่อต้องสูญเสีย “พ่อของแผ่นดิน” ไป น้ำตาที่ไหลเป็นสายอย่างไม่ยอมแห้งเหือดสิ้น แต่ก็ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลที่จะหยิบรวบรวมหนังที่เกี่ยวกับพ่อและลูกมาเขียนถึงในวันนี้ ‘รวม 10 หนังสายสัมพันธ์พ่อลูก…ที่สุดแสนประทับใจ’ เลือกมาเฉพาะหนังที่พูดเรื่องของพ่อกับลูก

มันอาจจะไม่ใช่ลิสต์หนังที่ตรงกับใจของคนอ่านทุกคนหรอก บางเรื่องอาจถูกกังขาว่าทำไมไม่เขียนถึง จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มีแต่ 10 เรื่องนี้ซะหน่อยที่เล่าเรื่องพ่อกับลูกได้กินใจ ต้องขอบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในจำนวนมากมายที่อยากหยิบมาเขียนถึงเท่านั้น

และไม่แน่ว่าอาจจะมีอีกลิสต์ในอีกวันของชีวิตนี้ก็ได้

I Am Sam (2009)

มันเป็นหนังที่แสนสะเทือนใจของใครหลายๆ คน ขณะเดียวกัน มันก็เป็นหนังที่ทรงพลังพอให้ฉุกคิดในปมปัญหาที่ตัวละครหลักของเรื่องได้พบเธอ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นปัญหาที่จะเจอะเจอกันบ่อยๆ การแสดงอันเยี่ยมยอดของ Sean Penn ร่วมด้วย Michelle Pfeiffer และ Dakota Fanning ไม่ต้องบอกเลยก็รู้ว่ามันเป็นหนังที่น่าดูขนาดไหน

มันคือเรื่องราวของพ่อคนหนึ่งที่เป็นคนปัญญาอ่อน มีสติปัญญาเท่ากับเด็กเจ็ดขวบ และถูกหนังตั้งคำถามว่า เขาจะมีความสามารถในการเป็นพ่ออยู่ไหม เมื่อลูกของเขาโตขึ้นมาจนมีสติปัญญาสูงกว่าผู้เป็นพ่อ ใครกันที่จะเป็นคนเลี้ยงดูสั่งสอนใครกันแน่ แล้วความเป็นพ่อล่ะ ยังมีอยู่ หรือจะลดน้อยลงไปหรือเปล่า

การต่อสู้สิทธิในการเลี้ยงดูลูกของแซมเป็นอะไรที่ชวนน้ำตาไหลพราก

The Pursuit of Happyness (2006)

ดูเหมือนจะเป็นรายชื่อแรกๆ ไปแล้ว ถ้าจะพูดหนังสายสัมพันธ์พ่อลูก เรื่องราวที่สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงของพ่อที่เป็นชายหนุ่มผิวดำที่ต่อสู้ชีวิตมามากมายกว่าจะมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ โดยมีลูกชายเป็นเหมือนหัวใจของเขา

ผลงานการแสดงของพ่อจริงลูกจริงอย่าง Will Smith และ Jaden Smith ร่วมเล่นในบทพ่อที่ชีวิตของเขามีทั้งขึ้นและลง ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวยแต่แล้วก็ดิ่งลงเหว มีหนี้สินมากมายจ่ายไม่ไหว ธุรกิจที่เริ่มไว้กลายเป็นปัญหา ไร้ที่ซุกหัวนอน ไม่มีเงินจะซื้อหาอาหารกิน แถมยังเจอเรื่องสาหัสอย่างการถูกภรรยาทิ้งให้เขาเผชิญอุปสรรคอยู่เพียงผู้เดียว

และกำลังใจที่ทำให้เขายังสู้อยู่นั่นคือ ลูกชายคนเดียวของเขา

เขาต้องสู้ทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายได้มีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็น…ให้ได้

John Q (2002)

พล็อตหนังเรื่องนี้อาจจะดูแปลกกว่าเรื่องอื่นนิดหน่อย ตรงที่แทนที่มันจะเป็นหนังดราม่าของพ่อที่ทำเพื่อลูกเหมือนเรื่องอื่น มันกลับกลายเป็นหนังอาชญากรรมไปเสียนี่  ‘John Q’ ภาพยนตร์ที่กำกับโดย Nick Cassavetes และนำแสดงโดย Denzel Washington สมทบด้วยดารารุ่นเก๋า Robert Duvall

เรื่องราวของครอบครัวผิวสีที่พ่อแม่ไม่ค่อยมีเงินถึงจะมีงาน ต้องเจอกับเหตุการณ์สะเทือนใจเมื่อลูกชายหัวใจวายกะทันหัน พาลูกเข้าโรงพยาบาลเจอกับค่ารักษาและผ่าตัดมหาโหด เงินมีไม่พอ หมอไล่คนไข้ สุดท้ายถูกบีบคั้นหนักเข้าจึงก่อการขังทุกคนในตึก ER ไว้เป็นตัวประกัน จนกว่าหมอจะผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้ลูกชายของเขา

หนังชวนฉงนในช่วงต้น ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพระเอก แต่มาซึ้งเอาตอนท้าย หนังดูมีความบังเอิญอยู่พอสมควร บังเอิญมากจนเกินไปด้วยซ้ำ

แต่บังเอิญว่าดราม่าระหว่างพ่อลูกมันโคตรดี

The Impossible / 2004 สึนามิ ภูเก็ต (2012)

อาจเป็นหนังที่เชื่อมติดกับคนไทยมากที่สุดแล้วก็เป็นไปได้ เรื่องราวที่สร้างด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงในเหตุสึนามิถล่มชายฝั่งในแถบภาคใต้ของไทยช่วงคริสต์มาสปี 2004 ครั้งนั้นที่คร่าชีวิตไปมากมาย หนังสเปนที่ได้ Ewan McGregor และ Naomi Watts มาแสดงนำ และเป็นดั่งหนังแจ้งเกิดของเจ้าหนุ่ม Tom Holland

‘The Impossible’ แสดงให้เห็นถึงครอบครัวที่ถูกน้ำพัดพรากกันไปคนละทิศละทาง และผู้เป็นแม่บาดเจ็บสาหัส การตามหาของคนในครอบครัวจึงเกิดขึ้น ความรันทดหดหู่ปรากฏอยู่ตลอดเวลา ด้วยเพราะเมืองไทยคือดินแดนที่เขาไม่รู้จักใคร สื่อสารกับใครไม่ได้ ไม่รู้จักพื้นที่ แถมยังอยู่ในช่วงอลหม่านหลังคลื่นน้ำซัดทุกอย่างพังสิ้น

ความเป็นไปไม่ได้ของการตามหากันเพื่อรวมครอบครัวเป็นหนึ่งอีกครั้ง ทำให้ต้องเสียน้ำตาให้กับพ่อผู้ตามหาลูกทั้งสองในความมืดมน ความสิ้นหวังอบอวล แต่พลังแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น

ที่จะพาพวกเขาให้กลับมาพบกัน

Big Fish / จินตนาการรัก ลิขิตชีวิต (2003)

หนึ่งในหนังสายสัมพันธ์พ่อลูกที่แสนประทับใจ เรื่องราวที่มันดูเป็นแฟนตาซี เมื่อลูกชายซึ่งหงุดหงิดกับการที่พ่อชอบเอาเรื่องเล่า “ตำนานปลาใหญ่’ มาเล่าซ้ำๆ อยู่เสมอ รวมทั้งอีกหลายต่อหลายเรื่องที่มันดูไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พ่อเล่าเหล่านั้น พอเขาแต่งงานไปก็เลยไม่เคยติดต่อกับพ่อของตนอีก จนวันที่รู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งและอาการทรุดลง จึงได้กลับมาดูแลพ่อ

ได้รู้ว่าเรื่องเล่าต่างๆ ของพ่อนั้นมีคุณค่าที่แฝงอยู่

บางครั้งบางที เราก็อาจมีอคติบังตาจนไม่ยอมเปิดใจรับฟังสิ่งที่พ่อสั่งสอน สร้างกำแพงให้ตัวเองจนมองไม่เห็นสิ่งดีๆ ที่อยู่ในคำพูดของผู้เป็นพ่อ ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยที่ลุงทิม Tim Burton ก็สามารถจะสร้างหนังแบบนี้ได้ อบอุ่น และดีพอจะตกหลุมรักมัน

จนน่าจะเก็บมันมาดูซ้ำได้อีกหลายๆ หน

Real Steel (2011)

ภาพลักษณ์ที่ฉาบข้างหน้าอาจเป็นหนังสำหรับเด็กผู้ชอบการต่อสู้ด้วยหุ่นยนต์ หนังอาจมีฉากขายความรุนแรง และใช้ CG มาช่วยสร้างสรรค์เรื่อง แต่หัวใจหลักของ ‘Real Steel’ คือเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก

พ่อนักมวยเก่าที่ค่อนข้างห่างเหินเกินไปสำหรับลูกชายตัวน้อย เมื่อเขาต้องเสียแม่กะทันหัน เขาจึงกลายเป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวที่ดูเข้ากันไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ปัญหาใหญ่ก็คือการที่เด็กไม่ยอมรับเขานั่นแหละ ในที่สุด เขาก็พบหนทางเอาชนะใจลูกชายด้วยการที่สองพ่อลูกช่วยกันฟูมฟักหุ่นต่อยมวยตัวเก่าๆ ที่เก็บมา เพื่อทำให้มันชนะในการแข่งขัน

ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาอาจทำให้น้ำตาซึมได้โดยคุณไม่ทันรู้ตัว

Armageddon (1998)

นี่คือหนังแอคชั่นไซไฟเกี่ยวกับเหตุอุกกาบาตที่กำลังจะพุ่งชนโลก อันจะหมายถึงวันโลกาวินาศกำลังจะมาถึงในไม่กี่วัน และมนุษยชาติอาจถึงกาลล่มสลาย มีเพียงทีมขุดเจาะน้ำมันมือฉมังเท่านั้นที่เป็นความหวังของชาวโลก พวกเขามีเวลาไม่มากนักที่จะขึ้นไปขุด ฝังหัวระเบิดนิวเคลียร์ ก่อนจะกดปุ่มทำลายมัน

ภาพยนตร์ของ Michael Bay ที่ทำใครหลายคนต้องนั่งร้องไห้ มันอาจจะไม่ใช่หนังคุณภาพดีในสไตล์ที่นักวิจารณ์ชื่นชอบ แต่มันหนังแมสที่โดนใจคนดู เมื่อพ่อผู้ไม่ค่อยจะลงรอยกับลูกมากนัก ยินดีที่จะเสียสละตัวเองเพื่อให้คนรักของลูกสาวได้รอดกลับไป

ฉากของการพูดคุยร่ำลากันครั้งสุดท้ายเรียกน้ำตาคนดูได้อยู่หมัด

Miracle in Cell No.7 (2013)

อาจจะเป็นหนังสัญชาติเกาหลีเรื่องเดียวในลิสต์นี้ แต่นี่ก็น่าจะหนังที่หลายคนเห็นด้วยว่าควรจะอยู่ เรื่องราวของพ่อที่เป็นออทิสติกกับลูกสาว เล่าเรื่องราวออกไปในทางคอมิดี้ มีชื่อไทยว่า “ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7”

มันเป็นเรื่องของพ่อกับเยซึง วันที่พ่อไปซื้อกระเป๋าเซเลอร์มูนให้ลูกสาวเป็นวันเปลี่ยนแปลงชีวิต พ่อตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืนทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดจนต้องไปอยู่ในห้องขังหมายเลข 7 รอวันโดนประหาร

หนังดำเนินเรื่องด้วยหลายรสชาติระคนกัน ทั้งตลก น่ารัก ซึ้ง และเศร้า

เยซึงเองก็เป็นเด็กฉลาดเกินวัย ในที่สุด ด้วยการช่วยเหลือของหลายๆ คนในคุก เธอสามารถลอบมาพบพ่อได้หลายหนอยู่ ทำให้คนดูได้ทั้งหัวเราะและเสียน้ำตาในเวลาเดียวกัน หนังมีแง่มุมเล่าถึงความชั่วช้าของพวกผู้มีอิทธิพล การยอมรับผิดทั้งที่ไม่ได้กระทำของผู้เป็นพ่อ และการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพ่อของเยซึง

ด้วยการตัดสลับเรื่องราว หยิบเหตุการณ์ในอดีตมาเล่าสลับกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ ‘Miracle in cell No.7’ สร้างโลกของหนังที่ลงตัว

About Time (2013)

หน้าหนังมันดูมีความเป็นหนังรักโรแมนติก เมื่อดูไปถึงพล็อตมันมีความเป็นหนังไซไฟท่องเวลาแบบเบาๆ ทว่ามันยังมีอีกปมหนึ่งซึ่งผมประทับใจในปมนั้น ปมของพ่อกับลูกที่นึกถึงทีไร น้ำตามันก็พาลจะไหลออกมาซะทุกที

‘About Time’ คือเรื่องของทิมที่โตเป็นหนุ่มและเริ่มจะมีความสามารถในการเดินทางย้อนเวลา ความสามารถที่เป็นมรดกตกทอดประจำตระกูล ใช่แล้ว พลังนี้เขาได้รับเพราะเขาเป็นลูกของพ่อ ทำให้เขาได้มีโอกาสกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก หนังดูสนุกมากกับการเล่าเรื่องพวกนี้ เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนอดีต ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ก่อนที่หนังจะกลับมาเล่าเรื่องของทิมกับพ่อ

และนั่นแหละ ช่วงเวลาที่ต่อมน้ำตาทำงานหนักที่สุดล่ะ

Life is Beautiful (1997)

หนังเรื่องเป็นหนังสัญชาติอิตาลี ที่ Roberto Benigni เหมาทั้งเขียนบท กำกับ และแสดงนำเอง เรื่องราวที่แบ่งเป็นสองครึ่งอย่างชัดเจน หลักใหญ่มันเป็นเรื่องของพ่อกับลูกชายชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก่อนหน้านั้น มันคือ ชีวิตของชายหนุ่มบริกรชาวยิวที่ได้พบรักกับสาวสวย เขาแสนจะร่ำรวยความมองโลกในแง่ดี ขี้เล่น และช่างแต่งสันปั้นเรื่อง

โลกและชีวิตของเขาช่างสวยงามเสมอ

ครึ่งที่เหลือของชายผู้นี้ คือชีวิตที่เปลี่ยนราวหน้าเป็นหลังมือ เมื่อทั้งเขา ภรรยา และลูกชายตัวน้อย ต้องไปอยู่ในค่ายกักกันที่กักตัวชาวยิวทั้งหลายไว้ใช้งานและบ้างก็ถูกสังหารด้วยการรมควัน เขาคือพ่อที่ใช้มุมมองที่แปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใครเพื่อให้ลูกไม่รู้สึกถึงความโหดร้ายที่อยู่รายรอบ แต่ก็ไม่วายหนังพาให้เศร้าน้ำตาซึมตอนท้ายเรื่อง…อีกแล้ว

เริ่มต้นอาจจะดูหนังไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ท้ายเรื่องกลับมีของแฮะ

ไปๆ มาๆ มันอาจจะมีมากกว่า 10 เรื่องที่อยากจะเขียนถึง แต่เมื่อปล่อยให้ทุกเรื่องมันอยู่ในหน้านี้หมด ท่าทางว่าคงจะไม่ได้อ่านกันในเร็ววันแน่ๆ ขอหยุดไว้ที่สิบเรื่องนี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ

ส่วนใครอยากจะเสนอเรื่องอะไรก็สามารถพิมพ์เข้ามาในคอมเมนต์ได้เลย เผื่อผมยังไม่ได้ดูจะได้ตามไปดูบ้าง