แอนิเมชัน

รีวิวแอนิเมชัน Ice Age: Collision Course ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง | ขำขัน อารมณ์ดี

สนุกสนานขำฮากับพล็อตหลุดโลกของแอนิเมชั่นอารมณ์ดี

ได้เวลาของหนังแอนิเมชั่นภาคต่ออีกเรื่อง ที่อยู่มานานจนถึงภาคที่ห้ากันแล้วนะ จากภาคแรก ‘Ice Age’ (2002) ตามมาด้วย ‘Ice Age: The Meltdown’ (2006), ‘Ice Age: Dawn of the Dinosaurs’ (2009) จนมาถึงภาคที่แล้วอย่าง ‘Ice Age: Continental Drift’ (2012) แล้วปีนี้ก็ได้เวลาของ ‘Ice Age: Collision Course’ (2016)

ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาต
ภาพจากหนังแอนิเมชัน ‘Ice Age: Collision Course’

เมื่อเจ้าสแครท ที่เป็นสัตว์โลกผู้สร้างสีสันขโมยซีนตัวเอกของแฟรนไชส์กลายเป็นผู้สร้างจักรวาล (จริงๆ ก็ดูเหมือนจะแค่ระบบสุริยะนะ) โดยไม่ทันได้รู้ตัว ส่งผลให้โลกต้องประสบชะตากรรมถูกอุกกาบาตพุ่งชนจนอลหม่าน

สัตว์โลกล้านปีพากันหนีตายจนไปเจอตัวละครใหม่


เรื่องย่อหนัง ‘Ice Age: Collision Course’

อย่างที่ว่าไปข้างต้น เจ้าสแครทยังคงไขว่คว้าล่าลูกโอ๊คของมันจนเกิดจับพลัดจับผลูจู่ๆ ก็ขับยานออกไปนอกโลกแล้วสร้างระบบสุริยะขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องราวมันดูมั่วๆ แต่มันฮาได้ใจ แต่ไม่แค่นั้น…

มันยังพาเศษดาวเคราะห์ลอยมายังโลกด้วยนี่สิ

ตัวอย่าง ‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง’ [ซับไทย]

มันกลายเป็นดาวตกและอุกกาบาตพุ่งชนโลก โลกล้านปีที่มีเจ้าพวก แมนนี่ แอลลี่ ดีเอโก้ ชีร่า ซิด รวมไปถึงมี พีชเชส และจูเลียน แฟนของพีชเชส ที่แมนนี่กับแอลลี่รู้สึกเป็นห่วง หรืออาจจะกลัววันที่ลูกจะผละจากอ้อมอก แถมยังได้กลับมาเจอบัค ที่หนีการตามล่าของครอบครัวตัวไดโนนก เพราะดันไม่ขโมยไข่ที่ครอบครัวไดโนนกพวกนั้นขโมยมานั่นเอง

ทั้งหมดต้องทำภารกิจเอาตัวรอดจากอุกกาบาต แถมยังไปเจอกับดินแดนใหม่ ‘จีโอโทเปีย’ ที่สัตว์ทุกตัวที่นั่นจะไม่มีวันแก่อีกต่างหาก

เรื่องราวมันดูเยอะไปหมดเนอะ


รีวิวหนัง ‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง’

จริงๆ ต้องบอกว่า ไปดูหนังเรื่องนี้เพราะความตลกป่วนๆ ของมันเท่านั้นเลยนะ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่านั้นเลย ส่วนตัวก็ไม่นึกว่ามันจะมาไกลถึงภาคที่ห้าเลยด้วยซ้ำ ภาคนี้เล่นออกไปไกลถึงในอวกาศอีกต่างหาก ภาคหน้าจะไปไหนต่อก็ยังไม่รู้

สแครท คือตัวขโมยซีน พาขำที่สุดแล้ว

ถ้ามองกันแบบตามจริงแล้ว การเขียนบทให้ตัวละครทำตัวหลุดโลก มีภารกิจเดียวในชีวิตและไม่เคยวางแผนหรือคิดอะไรอย่างอื่น แต่พาให้ตัวเองกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญให้จักรวาลเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราได้ฮาก๊ากไปกับการกระทำของตัวละครตัวนี้

โปสเตอร์ ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาต
โปสเตอร์แอนิเมชัน ‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตอลเวง’

‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตอลเวง’ เปิดเผยเรื่องราวของมันสลับไปกับเรื่องบนโลกของสัตว์ตัวอื่นๆ แต่เราฮาที่สุดกับความบ้าบอของสแครท บอกได้เลยว่านี่คือเรื่องจริง

พล็อตมั่วได้ใจ ดราม่าไม่ซึ้งพอ

เรื่องราวที่สัตว์โลกในยุคน้ำแข็งต้องมาเจอกับอุกกาบาตอันเกิดจากความขโมยซีนของสแครทคงไม่ได้อะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อมันไหลไปไกลถึงขั้นมีน้ำพุเยาว์วัย อุกกาบาตที่มีผลึกอยู่ข้างใน แถมยังมีสัตว์ไปอาศัยอยู่ข้างในไม่แก่ไม่ตายอีกด้วยนี่เรียกได้ว่ามั่วได้ใจเอามากเลยเชียว

ไม่พอ ‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตอลเวง’ ยังเอาเรื่องราวของโลกไดโนเสาร์ที่อยู่ใต้พิภพมาเล่าอีกครั้ง แต่เหลือเพียงสามนกไดโนเท่านั้นที่จะถูกเล่า

ภาพจากหนังแอนิเมชัน ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง
ภาพจากหนังแอนิเมชัน ‘ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง’

เราไม่ถือสาอะไรหรอก เพราะมันคือแอนิเมชั่นสำหรับเด็ก ไม่มีอะไรที่ตรงกับความเป็นจริงอยู่แล้ว แค่จับแพะชนแกะเพื่อสร้างเรื่องราวใหม่นั่นเอง แต่สิ่งที่เราพบก็คือ หนังให้ความสนุกฮาได้มากสุดที่พฤติกรรมของสแครท ส่วนเรื่องราวบนโลกของสัตว์ตัวอื่นทำได้เพียงเสียงหัวเราะคิกคักๆ เท่านั้น

พล็อตดราม่าของสองพ่อแม่ แมนนี่-แอลลี่ ที่ลูกของพวกเขาเติบโตจนมีแฟน ก็ดูจะไม่ชวนอินเท่าไหร่ แถมไม่มีมุมอะไรน่าประทับใจ เพราะมันก็คือมุมเดิมๆ ของยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวตนของคนอื่น การปล่อยพื้นที่ให้ลูกได้มีอิสระที่จะเลือกคนที่ใช่

สรุปว่า ขำกันได้พอเพลินๆ น่ารักพอกรุบกริบๆ ล่ะครับเรื่องนี้


ชื่อภาพยนตร์: Ice Age: Collision Course / ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Galen T. Chu, Mike Thurmeier
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Michael J. Wilson (screenplay), Michael Berg (screenplay)
นักแสดงนำ: Stephanie Beatriz, Robert Cardone, Neil deGrasse Tyson, Jessie J, Adam Devine
ความยาว: 94 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Comedy, Family, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 กรกฎาคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Blue Sky Studios, Twentieth Century Fox Animation

ไอซ์เอจ ผจญอุกกาบาตสุดอลเวง

Ice Age: Collision Course - 4.1

4.1

Ice Age: Collision Course

พล็อตดราม่าของสองพ่อแม่ แมนนี่-แอลลี่ ที่ลูกของพวกเขาเติบโตจนมีแฟน ก็ดูจะไม่ชวนอินเท่าไหร่ แถมไม่มีมุมอะไรน่าประทับใจ เพราะมันก็คือมุมเดิมๆ ของยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวตนของคนอื่น การปล่อยพื้นที่ให้ลูกได้มีอิสระที่จะเลือกคนที่ใช่ สรุปว่า ขำกันได้พอเพลินๆ น่ารักพอกรุบกริบๆ ล่ะครับเรื่องนี้

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ