บางที หนังที่เราประทับใจก็ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังใหญ่ มีผู้กำกับฯ ระดับพระกาฬ มีมือเขียนบทระดับรางวัล แต่อาจเป็นแค่หนังฟอร์มเล็กๆ ทุนน้อยๆ ที่ผุดขึ้นมาฉายแทรกตัวอยู่ในท่ามกลางหนังฟอร์มใหญ่ๆ สร้างความประทับใจและทำให้เรารู้สึกอิ่มกับมันได้อย่างที่หนังฟอร์มยักษ์บางเรื่องยังทำไม่ได้ ผมกำลังพูดถึง ‘Everybody Wants Some!!’ หนังเรื่องใหม่ของ Richard Linklater ผู้ที่เคยทำหนังฟอร์มเล็กให้ประทับใจคนมาแล้วมากมาย
บางคนน่าจะเคยผ่านผลงานของเขามาบ้าง งานอย่าง ‘Before Sunrise’, ‘Before Sunset’, ‘Before Midnight’ และ ‘Boyhood’ ก็คงจะพอรู้ดีว่าหนังของเขาจะเป็นยังไง และก็น่าจะรู้สึกสนใจใคร่อยากจะดูหนังเรื่องนี้กันมากขึ้น
แล้วคุณก็จะพบว่า… ไม่ผิดหวังเลย
เรื่องย่อหนัง ‘Everybody Wants Some!!’
มันเป็นหนังที่แทบจะไม่มีเส้นเรื่องอะไร แต่พอพูดได้คร่าวๆ ว่า มันเป็นเรื่องของกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นนักเบสบอลเหมือนกัน และได้เข้ามาอยู่ร่วมกันในบ้านเดียวกัน ความสนิทสนม ความตลกโปกฮา บ้าบอคอแตกในแบบผู้ชายๆ ปรากฏออกมาในทุกคำพูดและการกระทำของพวกเขา
คุณจะได้พบเห็นว่า พวกเขามีความคิดและการกระทำยังไงในช่วงเวลายุค 80’s เช่นนั้น
ถ้าจะพูดว่าหนังมีพระเอกนางเอกเป็นคนไหน ก็คงจะพอพูดได้ว่า คือ เจค็อบ (Blake Jenner) นักศึกษาน้องใหม่ที่เพิ่งมาในมหา’ลัยและในบ้านนักเบสบอลแห่งนี้ และวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับสาวน่ารักอย่าง เบเวอร์ลี (Zoey Deutch จาก ‘Beautiful Creatures’, ‘Dirty Grandpa’ และ ‘Vampire Academy’) เรื่องราวแบบผู้ชายห่ามๆ แมนๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นโรแมนติกกุ๊กกิ๊กผสมเข้ามา
รีวิวหนัง ‘อยากได้มั้ย…ใครสักคน’
Richard Linklater เขาช่างเป็นคนที่ทำหนังเล็กๆ ได้น่าสนใจและไม่เหมือนใครจริงๆ เขาเลือกทำหนังไตรภาคของคู่รักที่ห่างกันภาคละ 9 ปีอย่าง ‘Before Trilogy’ แล้วก็ยังทำหนังที่ถ่ายทำนานถึง 12 ปีเพื่อรอให้เด็กคนหนึ่งโตขึ้นมาตามเวลาจริงในหนังเรื่อง ‘Boyhood’ ที่ไปไกลถึงระดับรางวัลออสการ์เสียด้วย ครั้งนี้เขาทำหนังวัยรุ่นยุคเก่าราว 80’s มันอาจจะเป็นหนังที่เล่าต่อมาจาก ‘Dazed and Confused’ นั่นแล
คือกลุ่มเพื่อนที่ทำให้นึกย้อนวัน
ว่ากันว่า ช่วงที่สนุกที่สุดของมนุษย์ทุกคนคือช่วงวัยเรียน เราต่างมีเพื่อนที่สามารถพูดคุย เล่น สนุกเฮฮาไปได้ทั้งวัน เราจะมีกลุ่มคนที่มองตาก็รู้ใจ เปิดปากมาก็แซวและรับมุกกันได้ไม่เดดแอร์ เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวเพื่อนที่แบ่งปันประสบการณ์/ความชอบ ทุกๆ อย่าง ร่วมทุกข์ร่วมสุข ให้คำปรึกษาแม้ว่าเพื่อนมันก็ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากไปกว่าเราก็ตาม
แต่นั่นแหละ ช่วงเวลาที่เราทุกคนต่างเฝ้านึกถึง
หนังเล่าย้อนไปในช่วงที่ดิสโก้เฟื่องฟู คันทรีกำลังมา แต่หนังก็ไม่ลืมที่จะเล่าถึงพังก์ร็อกไปด้วย ‘อยากได้มั้ย…ใครสักคน’ เป็นหนังที่เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องการพล็อตใดๆ ให้มากเรื่อง เริ่มจากกลุ่มผู้ชายที่มาอาศัยในบ้านเดียวกัน เฮไหนเฮนั่นก่อนวันเปิดเทอม ตะลอนเที่ยวกันหลายผับต่างแนวเพลง ปะปนไปด้วยเรื่องทะเล้นทะลึ่งตึงตังตามประสาผู้ชาย ซึ่งหลายครั้งก็ไม่พ้นเรื่องผู้หญิง
ทุกอย่างคือการเรียนรู้ คือการสรรหา กีฬาและดนตรีคือสิ่งที่แวดล้อมอยู่ในชีวิตวัยรุ่นยุคนั้น นอกจากเหนือดนตรีที่พวกเขาเข้าไปสนุกสนานแล้ว ก็ยังมีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งที่สังคมเราอยากให้เยาวชนห่างไกล แต่ดูเหมือนวัยรุ่นอเมริกันจะเสรีกันมากทีเดียวในเรื่องพวกนี้
เบสบอลเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบร่วมกัน หนังไม่เล่าเข้าไปลึกอะไรเกี่ยวกับเบสบอล แต่นั่นก็คงเป็นเรื่องดีเพราะผู้คนทั่วโลกไม่ได้รู้จักกีฬาเบสบอลมากนัก มันจึงถูกเก็บไว้หลังๆ จนเราคิดว่า
“นี่พวกมันเล่นเบสบอลกันจริงๆ น่ะเหรอ”
เล่ากลมกล่อมพอดี นักแสดงเข้าขา เล่นได้ฮาเข้าฝัก
ในช่วงวัยรุ่น ชีวิตมันก็คือการค้นหา ค้นหาตัวตนว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร หนังสร้างแรงผลักดันในคนดูรู้สึกว่าควรใช้เวลาช่วงนั้นทำในสิ่งที่รักให้มากที่สุด ทำให้มันไปได้ไกลที่สุด เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง เมื่อวันที่ตายเราอาจมานั่งเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง เราอาจจะต้องเจอความผิดหวังบ้าง แต่ก็ต้องกล้าจะเดินต่อเพราะชีวิตวัยรุ่นมันเป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตข้างหน้าของเรา
เป็นข้อคิดจางๆ ที่แฝงอยู่ในหนังไร้พล็อตเรื่องนี้
ระหว่างนั้น เราได้แต่ขำกลิ้งกับมุกต่างๆ ที่พวกเหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องในบ้านเอาแต่พ่นใส่กัน ซึ่งมันดูเป็นธรรมชาติมากเสียจนไม่คิดว่านั่นคือการแสดง แต่กลับทำให้รู้สึกว่าพวกเขามีตัวตนจริงๆ และกำลังแสดงตัวตนของพวกเขาให้เราได้ชมกัน ไม่รู้หรอกว่า Richard Linklater มีวิธีในการคัดเลือกนักแสดงยังไงถึงได้คนกลุ่มนี้มา กับเขามีวิธีในการสื่อสารและกำกับคนกลุ่มนี้ยังไง มันถึงได้เข้าขากันอย่างมากมาย โดยคนที่ขโมยซีนได้มากที่สุดน่าจะไม่มีใครเกิน Glen Powell กระทาชายนายหนวดที่พูดมากและกวนตีนอย่างเหลือเชื่อ
บทสนทนาที่ดูไม่มีอะไร ดูไร้สาระ ดูมีแต่การอำ ดูสีหน้าท่าทางที่เป็นธรรมชาติสูง แต่ก็ทำให้เราสนุกมากกับการฟังพวกมันคุยอะไรเพี้ยนๆ กันแบบนี้ แล้วหนังก็พาเราไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้เลยว่ามันจะไปไหนกันต่อ แต่หนังก็ไม่ได้ไปไกลมากนัก เวลาในหนังเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเอง
เราได้หัวเราะจนน้ำตาเล็ดโดยที่หนังไม่ต้องพยายามอะไร
นางเอกน่ารักมากมาย ไม่อาจวัดได้หรอกความรักนี้
ถ้าจะไม่ให้พูดถึงก็จะมิได้ นางเอกของหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ปรากฏตัวมากมายนัก แต่เธอคือตัวละครที่น่าจะเป็นนางเอกได้ เพราะเธอน่ารักมาก ผมชอบตั้งแต่แรกเห็นทีเดียวแหละ แม้เธอจะเคยแสดงหนังเรื่องอื่นที่ผ่านตาผมบ้างแต่ก็ถือว่าน้อยครั้งและห่างจนแทบจะลืมเลือน Zoey Deutch มียิ้มที่น่ารัก เวลาแต่งหน้าน้อยๆ ก็น่ารักอยู่แล้ว พอแต่งหน้าเข้าไปอีกงิ แทบดิ้นตายกันเลยเชียว
ฉากที่ทำให้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นฉากที่โรแมนติกชวนจิกหมอนมากๆ คือฉากคุยกับทางโทรศัพท์นี่แหละ เป็นฉากธรรมดาที่น่ารักมาก อยากให้คุณได้ลองไปดู
หลังจากหัวเราะมาทั้งเรื่องด้วยความสุข หนังก็จบลงอย่างดื้อๆ โดยไม่ต้องสรุปอะไรมาก ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมฉากแถมที่โผล่มาในช่วง End Credit ซึ่งก็เรียกเสียงฮาได้ไม่ต่างกัน นี่แหละ หนังเล็กๆ ที่สร้างความประทับใจใหญ่ๆ ได้มาก หนังทำได้กลมกล่อมพอดีไม่มีล้น
จนรู้สึกว่า น่าเสียดายที่หนังจะมีรอบฉายน้อยมากในบ้านเรา
ชื่อภาพยนตร์: Everybody Wants Some!! / อยากได้มั้ย…ใครสักคน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Richard Linklater
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Richard Linklater
นักแสดงนำ: Blake Jenner, Tyler Hoechlin, Ryan Guzman, Tyler Hoechlin, Wyatt Russell, Glen Powell, Temple Baker, Zoey Deutch
ความยาว: 117 นาที
แนว/ประเภท: Comedy
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 19 กรกฎาคม 2559
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Annapurna Pictures, Detour Filmproduction, Paramount Pictures, Mono Film
อยากได้มั้ย...ใครสักคน
Everybody Wants Some!! - 10
10
Everybody Wants Some!!
ในช่วงวัยรุ่น ชีวิตมันก็คือการค้นหา ค้นหาตัวตนว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร หนังสร้างแรงผลักดันในคนดูรู้สึกว่าควรใช้เวลาช่วงนั้นทำในสิ่งที่รักให้มากที่สุด ทำให้มันไปได้ไกลที่สุด เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง เมื่อวันที่ตายเราอาจมานั่งเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง เราอาจจะต้องเจอความผิดหวังบ้าง แต่ก็ต้องกล้าจะเดินต่อเพราะชีวิตวัยรุ่นมันเป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตข้างหน้าของเรา เป็นข้อคิดจางๆ ที่แฝงอยู่ในหนังไร้พล็อตเรื่องนี้
1 คอมเมนต์