ยิ่งนับวัน ผลงานของเขาก็ยิ่งเป็นที่ประจักษ์ขึ้นเรื่อยๆ และดูแล้ว ก็น่าจะมีผู้คนที่สนใจติดตามผลงานของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยคุณภาพงานที่ไม่มีลด แถมจะยิ่งเพิ่มพูนเพราะประสบการณ์ที่สั่งสม วันนี้ ผมขอนำเสนอสรุปผลงานของชายหนุ่มคนนี้มาฝากกัน เขาคือ ชเวอูชิก (Choi Woo Sik) ไงครับทุกคน
ประวัติคร่าวๆ ของนักแสดงผู้คลั่งรัก ชเวอูชิก
เรามาเริ่มต้นด้วยประวัติคร่าวๆ ของหนุ่มเกาหลีคนนี้กันดีกว่า อูชิกเกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1990 เกิดในกรุงโซล เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องสองคน ก่อนย้ายไปอยู่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ในช่วงที่เรียนอยู่เกรด 5 และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นราว 10 ปี ชื่ออังกฤษของเขาคือ Edward ส่วนชื่อเล่นของเขาคือ Eddie จนมาปี 2011 เขากลับมายังเกาหลีเพื่อออดิชัน ช่วงนั้นเขาก็เข้าศึกษาทางด้านวัฒนธรรมศึกษาที่ Chung Ang University จนจบการศึกษา ทั้งเคยเป็นเด็กฝึกของ JYP Entertainment นานกว่า 6 ปี
เข้าวงการและเปิดตัวด้วยงานชิ้นแรก ซีรีส์เรื่อง Duo ในปี 2011 โด่งดังครั้งแรกจากได้บทนำในหนัง Set Me Free เมื่อปี 2014 ก่อนจะได้ร่วมเล่นหนังจุดเริ่มต้นของเคซอมบี้ ‘Train to Busan’ ในปี 2016 และ ‘Parasite’ ในปี 2019 ซึ่งทั้งสองเรื่องได้รับเสียงตอบรับและทำรายได้สูงทั้งในและต่างประเทศ
ผลงานปังๆ ของชเวอูชิก
เอาเข้าจริงๆ ชเวอูชิกเป็นคนที่มีผลงานมากมายทั้งหนังและซีรีส์ บทความนี้จึงจะขอหยิบยกบางส่วนของผลงานทั้งหมดมาเอ่ยถึงนะครับ
ปึ 2012 – Rooftop Prince | ตามหาหัวใจเจ้าชายหลงยุค
ซีรีส์อารมณ์ดีเรื่องนี้ ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในไทยกันพอสมควรในยุคแรกๆ ที่คนไทยเริ่มหันมาดูซีรีส์เกาหลีกัน ครั้งนี้ถือว่าอูชิกได้รับบทบาทในกลุ่มตัวละครนำของเรื่อง และมันเป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของอีกั๊ก (พัคยูชอน) องค์รัชทายาทที่เกิดข้ามเวลามา 300 ปี มาอยู่ในกรุงโซลยุคศตวรรษที่ 21 พร้อมเหล่าผู้ช่วยยอดฝีมือทั้งสาม และได้มาพบเจอกับพัคฮา (ฮันจีมิน) หญิงสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายองค์หญิงวายง (จองยูมิ) ผู้ล่วงลับ
สำหรับอูชิกนั้น เขาสวมบทบาทเป็นโดจีซาน หนึ่งในผู้ช่วย ทั้งยังได้เล่นประกอบหนุ่มหล่ออย่าง อีมินโฮ และ จองซุกวอน ด้วยนะ
ปี 2014 – Set Me Free
นี่คือผลงานหนังเรื่องแรกที่อูชิกได้รับบทนำ ‘Set Me Free’ เล่าเรื่องราวของยองแจ เด็กชายที่เติบโตขึ้นในบ้านไอแซค เมื่อเขาโตขึ้นถึงวัยก็ถึงเวลาจะออกจากบ้านไป ทว่า เขาไม่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับพ่อที่ไร้ความรับผิดชอบของตน จึงโกหกว่าจะขอเป็นบาทหลวงและเข้าเรียนในโรงเรียนคาทอลิก แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้เชื่อในพระเจ้า ทั้งยังพยายามพึ่งพาตนเองด้วยการลักของบริจาคไปขาย จนเมื่อวันหนึ่ง พ่อของเขาก็กลับมาที่บ้านไอแซคอีกครั้งพร้อมน้องชาย
มันเป็นหนังดราม่าที่ช่วยพิสูจน์ความสามารถในการแสดงของอูชิกให้ปรากฏจริงๆ
รางวัลที่ได้รับ:
- Actor of the Year – Busan International Film Festival
- Best New Actor – 2015 (36th) Blue Dragon Film Awards
- Best New Actor – 2015 (35th) Korean Association of Film Critics Awards
- Best New Actor – Busan Film Critics Association (BCFA)
- Popular Star Award – Korean Film Actor’s Association Awards
ปี 2016 – Train to Busan | ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง
หนังเกาหลีสุดโด่งดังที่สร้างกระแสเคซอมบี้ให้จุดติด ‘ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง’ เล่าเรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มที่แสดงโดย กงยู ผู้เดินทางมากับลูกสาว โดยสารด้วยขบวนรถไฟ KTX มุ่งหน้าสู่ปูซาน ก่อนจะพบว่ามีซอมบี้ที่ติดขบวนมาด้วย เมื่อพวกมันกัดมนุษย์ พวกเขาก็จะติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้ได้รวดเร็วมาก ไม่ช้า เกือบทั้งขบวนก็เต็มไปด้วยซอมบี้ และคนที่เหลืออยู่ก็เลยจำเป็นต้องเอาชีวิตให้รอด
และในหนังเรื่องนี้ ก็มีชเวอูชิกร่วมแสดงเป็นหนึ่งในก๊วนเบสบอลที่โดยสารมากับรถด่วนขบวนนี้ด้วยครับ
ปี 2018 – The Witch: Part 1. The Subversion
หนังที่มีทั้งความไซไฟและทริลเลอร์ระดับเลือดสาด ‘The Witch: Part 1 The Subversion’ เล่าเรื่องของเด็กหญิงคนหนึ่งหลบหนีจากพื้นที่กักกันเพื่อวิจัยอะไรสักอย่าง เธอเอาชีวิตรอดมาได้ราว 10 ปี ตอนนี้เธอมีสองผัวเมียเจ้าของฟาร์มคอยดูแลเป็นเหมือนพ่อแม่ของเธอ แต่แล้วเพราะความอยากเป็นนักร้องจึงเข้าประกวด แต่นั่นก็ทำให้มีด็อกเตอร์มาตามหาตัวเธอจนพบ ไล่เลี่ยกันนั้น ก็คนกลุ่มหนึ่งที่มาตามล่าตัวเธอด้วยกัน
ซึ่งคนกลุ่มนั้นนำโดยหนุ่มหล่อ ชเวอูชิก นั่นเอง
ปี 2019 – Parasite | ชนชั้นปรสิต
หลังได้รับโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับ บงจุนโฮ ใน ‘Okja’ คราวนี้เขาก็ได้ร่วมงานอีกครั้ง ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อของอูซิก เพราะ ‘ชนชั้นปรสิต’ คือหนังเกาหลีที่ไปผงาดคว้ารางวัลออสการ์มาครอบครอง เมื่อเขาได้รับบทลูกชายในครอบครัวยากจนที่อยู่ชั้นกึ่งใต้ดิน ครอบครัวที่ลำบากยากจนต้องหาเงินด้วยการพับกล่องพิซซ่า ที่ต่อมาอูชิกในบท คีอู ได้รับไม้ต่องานสอนพิเศษจากเพื่อน จึงพยายามตะเกียกตะกายแทรกซึมตัวเองไปอยู่ในบ้านคนร่ำรวย
เรื่องนี้ อูชิกได้เล่นรวมกับ พัคโซดัม ในบทพี่น้อง ทำให้ทั้งสองโด่งดังและได้มีโอกาสรับงานหนังและซีรีส์ดีๆ ตามมาอีกมากมาย
ปี 2019 – The Divine Fury | มือนรกพระเจ้าคลั่ง
หนังแนวแอคชันสยองขวัญอย่าง ‘The Divine Fury’ เล่าเรื่องของชายผู้ซึ่งไม่ศรัทธาในพระเจ้า หากกลับได้รับพลังวิเศษฝ่ามือที่ใช้ปราบมารได้ พ่อของยงฮู (พัคซอจุน) เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เขายังเด็ก ยงฮูจึงมีความรู้สึกคลางแคลงใจและขุ่นเคืองต่อผู้คนมาตั้งแต่นั้น เมื่อเขาโตขึ้น ยงฮูกลายเป็นผู้เก่งกาจในวิชาการต่อสู้มือเปล่าและได้พบว่าบาทหลวงอานที่ทำให้เขาได้เห็นอีกด้านของพลังและความเป็นคนดีที่อยู่ในจิตใจของยงฮู เขาได้รับพลังวิเศษและใช้มันเพื่อปราบมาร
เป็นอีกครั้งที่ ชเวอูชิกได้ร่วมงานกับพัคซอจุน (หลังเคยเจอกันมาใน ‘Parasite’) โดยอูชิกเล่นเป็น บาทหลวงชเว ที่เคยช่วยบาทหลวงอานปราบมารมาก่อนนั่นเอง
ปี 2020 – Time to Hunt | ถึงเวลาล่า
ผลงานครั้งนี้ของอูชิกเป็นหนังเกาหลีที่เข้าฉายใน Netflix เล่าเรื่องของโลกในอนาคตอันใกล้ในชุมชนที่เต็มไปด้วยความขัดสนขาดแคลน จุนซอก (อีเจฮุน) ต้องการหนีออกไปจากเมืองนี้เพื่อสร้างชีวิตใหม่ เขาจึงได้คิดแผนการปล้นเงินเพื่อจะได้ลืมตาอ้าปากและหลุดพ้นจากกับดักความจน เขาจึงขอให้เพื่อนทั้งสามที่ประกอบไปด้วย คีฮุน (ชเวอูชิก) จางโฮ (อันแจฮง) และซางซู (พัคจองมิน) เข้ามาช่วยเหลือ แต่แผนการนั้นกลับดึงดูดนักฆ่าสุดโหดอย่างฮัน (พัคแฮซู) เข้ามา
ใครยังไม่เคยดู ลองไปพบกับหนังแอคชันมันโหดได้ในเน็ตฟลิกซ์นะครับ
ปี 2021-2022 – Our Beloved Summer | ร้อนนั้นเรารักกัน
ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมิดี้ที่เล่าเรื่องรักออกมาในแนวชวนหัว พาอารมณ์ดี แต่ก็มีแง่มุมชวนซึ้งเศร้าเคล้าอยู่ในนั้น ด้วยเคมีของคู่พระนางที่เข้ากั๊นเข้ากัน ‘ร้อนนั้นเรารักกัน’ คือเรื่องราวของคู่รักที่เกิดขึ้นจากการถูกจับคู่ในวัยเรียนเพื่อถ่ายทำหนังสารคดี พวกเขาเป็นแฟนกันยาวนาน 5 ปีก่อนจะเลิกรา วันนี้ กุกยอนซู (คิมดามี) เป็นพนักงานฝ่ายการตลาด ส่วน ชเวอง (ชเวอูชิก) เป็นศิลปินอิสระ ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้งพร้อมกับการถ่ายทำสารคดีที่เป็นเหมือนตอนต่อ สองคนที่คบและเลิกกันจะได้โอกาสกลับมาประสานรอยร้าวของวันเก่าอีกครั้ง
เรื่องราวอาจดูเนิบช้า แต่ก็เหมาะกับการซึมซับอารมณ์ ซีรีส์ที่ทำให้เราน้ำตาไหลได้ในเกือบทุกตอน
รางวัลที่ได้รับ:
- Best Actor Selected by Directors – SBS Drama Awards
รายชื่อซีรีส์ทั้งหมด ของ Choi Woo Sik
- ‘The Duo’ (2011)
- ‘Live in Style’ (2011-2012)
- ‘Special Affairs Team TEN’ (2011-2012)
- ‘Rooftop Prince ตามหาหัวใจ เจ้าชายหลงยุค’ (2012)
- ‘Family’ (2012-2013)
- ‘TEN 2’ (2013)
- ‘Who Are You’ (2013) ร่วมแสดงในตอนที่ 10 และ 12
- ‘You’re All Surrounded’ (2014) ร่วมแสดงในตอนที่ 4
- ‘You’re My Destiny’ (2014)
- ‘Pride and Prejudice’ (2014-2015)
- ‘Ho-Gu’s Love’ (2015)
- ‘Fight for My Way สู้เพื่อทางสู่ฝัน’ (2017)
- ‘The Package’ (2017)
- ‘Our Beloved Summer ร้อนนั้นเรารักกัน’ (2021-2022)
- ‘A Killer Paradox หน้ากากความยุติธรรม’ (2024)
บทความนี้ขอปิดท้ายด้วยผลงาน M/V เพลง My old story ของศิลปิน IU ที่ชเวอูชิกได้ร่วมงาน
อ้างอิงข้อมูล: