ยิ่งดูซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ ก็ยิ่งพบแพทเทิร์นบางอย่างที่ถูกใช้กันบ่อยๆ ในการเล่าเรื่อง วิธีการหนึ่งที่ถูกใช้มากมายในหลายเรื่องก็คือ การที่จู่ๆ เรื่องราวที่ถูกเล่ามาอย่างต่อเนื่องกลับกระโดดข้ามไปอีกสองปี สามปี ห้าปี หรือบางทีก็สิบปี พาลพาคิดไปได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นนะ ซีรีส์หลายๆ เรื่องจึงเลือกเล่าด้วยวิธีการหรือสไตล์อะไรแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องผิดหรือเรื่องแปลกอะไรหรอก
ก็แค่สงสัย…เท่านั้นเอง
True Beauty / ความลับของนางฟ้า
‘ความลับของนางฟ้า’ เล่าเรื่องชีวิตของสาวที่ถูกบูลลี่จนต้องแต่งหน้าตลอดเวลาอย่างจูกยอง (มุนกายอง) ผู้คบเป็นแฟนกับซูโฮ (ชาอึนอู) อย่างลับๆ มาเนิ่นนาน ถึงวันที่ประกาศว่าคบกันอย่างเปิดเผย ทั้งสองก็มีอันต้องแยกจากเพราะซูโฮต้องบินไปดูแลพ่อที่ป่วยหนักที่อเมริกา
แล้วเวลาก็ผ่านไป 2 ปี
เรื่องราวของรักสามเส้าก็ยังคงดำเนินไป จูกยองที่ใกล้ชิดกับซอจุน (ฮวังอินยอบ) ทำให้เธอเริ่มมีใจให้ แล้วจู่ๆ ซูโฮก็บินกลับมา ยังไงล่ะทีนี้
Start-Up /สตาร์ทอัพ
‘สตาร์ทอัพ’ เล่าเรื่องราวของหนุ่มสาวในโลกของธุรกิจสตาร์ทอัพที่ผสมเรื่องรักเข้าไปด้วย ซอดัลมี (แบซูจี) ที่ตกอยู่ระหว่างผู้ชายสองคน หนึ่งคือฮันจีพยอง (คิมซอนโฮ) ที่คอยดูแลเหล่านักธุรกิจหนุ่มสาว กับนัมโดซาน (นัมจูฮยอก) ที่เป็นเด็กหนุ่มไฟแรงเจ้าของสตาร์ทอัพที่ดัลมีไปนั่งเป็นประธาน ในวันที่ซัมซานเทคเดินมาถึงทางแยก โดซานต้องไปทำงานอยู่อเมริกา
แล้วเวลาก็ผ่านไป 3 ปี
ปรากฏว่าวันที่นัมโดซานกลับเกาหลี ฮันจีพยองที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับดัลมีเพิ่งจะคิดว่าตัวเองควรทำอะไรเสียที (ตั้งสามปีเนี่ยนะ ทำไรอยู่?) บางทีก็รู้สึกว่าหัวหน้าฮันจะรู้สึกตัวช้าไปนะ
More Than Friends / มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม
‘มากกว่าเพื่อนจะได้ไหม’ บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านเวลาอันยาวนาน 10 ปี จากที่คนหนึ่งแอบรักอีกคนหนึ่ง ตอนนี้ ต่างคนต่างได้คบกัน เป็นแฟนของกันและกันเรียบร้อย แต่บททดสอบใหม่ก็มาถึงอีกครั้ง เมื่อพระเอกต้องการเดินทางตามความฝันของตนเองด้วยการออกเดินทางไกลรอบโลกเป็นเวลาหนึ่งปี และนางเอกที่ตั้งใจไว้ว่าจะออกเดินทางไปด้วยกันไม่ยอมห่างไกล แต่เพราะงานที่ชอบและใฝ่ฝันเข้ามา ทำให้ทั้งสองต้องห่างไกล ติดต่อได้เพียงโทรศัพท์และแชทกัน
หนึ่งปีอาจไม่ยาวนาน
แต่เพราะพื้นเพที่แตกต่างทำให้คนหนึ่งทนโกหกอีกฝ่ายไม่ได้ว่าสบายดีจำใจบอกเลิกรากันไปเสียก่อน ก่อนที่ครบหนึ่งปี พระเอกจะกลับมาอีกครั้ง เขากลับมาหาเธอโดยทันทีโดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่
นี่ก็มานั่งคิดหาเหตุผลของการเขียนบทให้เรื่องราวในซีรีส์เกาหลีมันออกไปทางนั้น ซึ่งก็พอจะนึกเหตุผลออกได้บ้าง ประมาณๆ นี้
- อาจเพราะช่วงเวลาระหว่างนั้นมันไม่มีอะไรน่าสนใจพอจะเล่า แน่นอน ถ้ามันไม่มีอะไรสำคัญให้ต้องเล่า ข้ามไปเสียก็น่าจะดีกว่า ข้ามไปเล่าจุดที่สำคัญเลย คนก็น่าจะอยากติดตามมากว่า
- ต้องการบ่งบอกถึงการรอคอยของตัวละคร เป็นบททดสอบว่า ตัวละครบางตัวจะอดทนได้ไหม ถ้าอะไรๆ จะเปลี่ยนแปลงไปโดยเราทำอะไรไม่ได้เลย
- การจะได้อะไรมาที่ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ต่างจากข้อที่แล้วมากนัก เพราะหลายครั้ง คุณค่าของสิ่งที่สำคัญก็มักต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะ ใช้การพิสูจน์จิตใจว่ามั่นคงพอ รักหรือจริงจังพอหรือไม่ด้วยเช่นกัน
- ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างต้องใช้เวลานานเป็นปี การเล่าข้ามไป แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น
ความจริงมันก็ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่ เล่าๆ ไปแล้วก็ข้ามปีไปเพื่อจะเล่าเรื่องหลังการกลับมาพบเจอกันอีกครั้งของตัวละครหลัก บางทีก็ผ่านตาไปแล้วก็ลืมไปว่า เจอเรื่องไหนบ้าง ก็ไม่แน่นะ วันนึงเกิดจดจำระลึกได้ หรือพบพานซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ที่เป็นแบบนี้ก็อาจจะหยิบมาแปะเพิ่มก็เป็นได้
และความจริงก็อาจพบเจอได้กับหนังและซีรีส์จากประเทศอื่น แค่ช่วงนี้ ดูซีรีส์เกาหลีบ่อยกว่านิดนึง~~