รีวิว The Umbrella Academy | ซีรีส์นี้เล่าเรื่อง…ครอบครัวฮีโร่

ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ชอบซีรีส์ที่มีเรื่องราวในสไตล์แฟนตาซีมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมาพร้อมด้วยการดำเนินเรื่องที่ชักชวนให้ติดตามด้วย ซึ่งผมก็ได้มาค้นพบใน ‘The Umbrella Academy’ เรื่องนี้นี่แหละ

เรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อในวันหนึ่งมีเด็กเกิดขึ้นอย่างผิดธรรมดาขึ้นมากมายพร้อมกันถึง 43 คน และมีตาแก่คนหนึ่งนามเซอร์เรจินาลด์ ฮากรีฟส์ (Colm Feore)​ ที่พยายามรวบรวมเด็กเหล่านั้นเพื่อฟูมฟักขึ้นมาในบ้านที่กลายเป็น ‘ดิ อัมเบรลลา อคาเดมี’ แหล่งเตรียมตัวให้กับเด็กพิเศษเพื่อรองรับเหตุการณ์ในอนาคต เพื่อพิทักษ์โลกในวันที่มีภัยคุกคาม

เขารวบรวมเด็กได้ 7 คน กลายเป็นพ่อของเด็กทุกคน และวันหนึ่งที่ต่างคนต่างห่างหายกันไปคนละทาง ทุกคนก็ได้รับข่าวร้าย เมื่อพ่อของพวกเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาที่ยังหลงเหลือกลับมารวมกัน ค้นหาเงื่อนงำการจากไปของพ่อ ทั้งได้รับรู้เหตุการณ์โลกาวินาศที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ได้เวลาไล่เรียงว่าพวกเขาเป็นใครกันบ้างแล้วล่ะ

แนะนำสมาชิกในบ้าน ‘The Umbrella Academy’

Luther (Tom Hopper)

เขาคือหมายเลขหนึ่งผู้ที่อยู่กับบ้านร่มแห่งนี้เป็นคนท้ายสุด ผู้พ่อส่งไปทำงานอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนดวงจันทร์นานถึง 4 ปี ชายผู้มีร่างกายกำยำล่ำบึ้กยิ่งกว่าชายคนไหนๆ มีปมในใจเรื่องการได้รับการยอมรับจากผู้เป็นพ่อ ทุกข์ระทมมากที่สุดเมื่อได้รับรู้ความจริงชายผู้เป็นพ่อ และยังมีอีกปมหนึ่งในใจ แค่เขายังคงรักอัลลิสันไม่เปลี่ยนแปลง

Five (Aidan Gallagher)

เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไม่เคยได้ถูกระบุชื่อจริงๆ สักที เขาเป็นชายผู้ซึ่งแว้บไปแว้บมาได้ตามใจ ทั้งยังพัฒนาความสามารถตัวเองให้ท่องไปในเวลาได้ วันหนึ่งเขากลับมาเจอพี่น้องในคราบของเด็กทั้งๆ ที่เขาคือชายวัยห้าสิบกว่าและเป็นผู้นำข่าววันโลกาวินาศมาบอกกับทุกคน

Diego (David Castañeda)

หนุ่มผู้ชอบพอกับตำรวจสาวอีกคน ชายผู้สวมใส่ชุดดำที่เต็มไปด้วยอาวุธโลหะแหลมคม มีแรงใจชอบในการเป็นตำรวจค่อยช่วยเหลือผู้คน หากแต่มีความเปราะบางในใจ เมื่อเขาคือคนที่ผูกพันกับ “แม่” ที่เป็นหุ่นแอนดรอยด์ผู้เลี้ยงดูเขามา

Klaus (Robert Sheehan)

ชายผู้มีจิตใจรักร่วมเพศหนึ่งเดียวในกลุ่ม อ่อนไหวยิมยอมให้สารเสพติดเข้ามาทำร้ายร่างกายตน แต่เขามีความสามารถพิเศษในการมองเห็นและพูดคุยกับผีหรือวิญญาณ เคยถูกขังให้อยู่ผีในห้องมืดคนเดียวมาแล้ว

คราวนี้จะเล่าถึงสองคนที่เหลือบ้าง ทั้งคู่เป็นผู้หญิงครับ

Allison (Emmy Raver-Lampman)

เธอดำรงชีพด้วยการเป็นดาราสาว เธอออกจากบ้านไปมีครอบครัวของตัวเอง มีลูกสาว แต่วันนี้เธอต้องกลับมาบ้านที่เธอเติบโตมาอีกครั้ง ความสามารถพิเศษของเธอพลังการชักจูงใจให้ผู้คนคล้อยตาม

Vanya (Ellen Page)

เธอคือหมายเลขเจ็ด เธอเป็นคนที่แสนธรรมดา เป็นสาวที่ดำรงชีพด้วยการเล่นไวโอลินในวงออเคสตร้า ที่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังเป็นเพียงผู้เล่นแถวสามอยู่ดี จนรู้สึกแปลกแยกจากคนในบ้าน พี่น้องต่างทำเหมือนรักใคร่แต่เธอกลับรู้สึกไร้ตัวตน เป็นใครก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอมีพลังพิเศษที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้

จริงๆ ยังมีสมาชิกของบ้านนี้อีกคน แต่เขากลายเป็นผีไปเสียแล้ว นั่นคือ Ben (Justin H. Min) ดูแล้วเขาคนนี้น่าจะค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้นแต่ต้องรอในซีซันสองนะครับ

ความรู้สึกหลังได้รับชม ‘The Umbrella Academy’

เท่าที่ดูด้วยตาตัวเอง ซีรีส์เรื่องนี้ เริ่มตอนแรกด้วยความอืดเนือยพอประมาณนั้น ก่อนจะปิดท้ายได้น่าสนใจ เมื่อดูตอนถัดๆ ไปก็พบว่า มันไม่ได้สุดมันอย่างที่ใครโปรโมต แต่เรื่องราวมันชักชวนตามต่ออย่างไม่อาจหักห้ามใจได้ จบตอนแล้วก็ยังรู้สึกว่าอยากรู้แล้วมันจะเป็นยังไงต่อ

ด้วยการเปิดเผยปมใหม่ที่ทำให้รู้ว่ายังมีบางสิ่งที่ถูกปิดไว้อีกมากมาย บ้างก็ทำให้เกิดความสงสัยในใจคนดูและเฝ้ารอเวลาเปิดโปง

ระหว่างทางจะเป็นดราม่าของเหล่าตัวละครเสียเยอะ จนอาจจะมิได้สุดมันอย่างที่ใครคาดหวัง แต่นั่นก็ทำให้เราได้เข้าใจลึกซึ้งในความรู้สึกและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้มากขึ้นนั่นเอง

มันมิได้เป็นซีรีส์ที่เราจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย เพราะการทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ก็พอจะทำให้คาดเดาได้บ้าง แต่บางอย่างก็ยังคอยให้เซอร์ไพรส์ได้เรื่อยมา

รอซีซั่นสองแล้วนะ

ชื่อภาพยนตร์: The Umbrella Academy / ดิ อัมเบรลลา อคาเดมี่
ผู้สร้าง: Jeremy Slater
นักแสดง: Aidan Gallagher, Ellen Page, Tom Hopper, Colm Feore
จำนวนตอน: ซีซั่น 1 (10 ตอน)
ช่องทาง: Netflix