
ช่วงนี้ เหมือนนายแพทจะดูซีรีส์เกาหลีมากเป็นพิเศษ ก็คงไม่ใช่อะไร เพราะเริ่มกลับไปเป็นสมาชิกของ VIU ใหม่นั่นเอง ทำให้ชีวิตช่วงนี้ ต้องบาลานซ์กันดีระหว่างแต่ละบริการสตรีมมิ่ง เอาล่ะ มาว่ากันถึงซีรีส์เรื่องนี้กันดี ‘Youth of May’ เรื่องราวที่เล่าย้อนยุคไปไกลราวปี 1980 ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนักศึกษาออกมาประท้วงที่ถูกตำรวจจับขังกันเป็นว่าเล่น เหตุการณ์นั้นเคยเกิดขึ้นมานานแล้วในเกาหลี แต่ดูเหมือนในไทยยังมีเรื่องแบบนี้อยู่นะครับ
ครั้งนี้ พวกเราจะได้พบกับ อีโดฮยอน และ โกมินซี ในซีรีส์เรื่องเดียวกันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยสวมบทบาทเป็นพี่น้องกันในซีรีส์ Sweet Home แต่คราวนี้ พวกเขาจะต้องกลายเป็นคู่รักกัน ผลงานซีรีส์ที่เขียนบทโดย อีคัง และกำกับโดย ซงมินยอบ จาก Doctor Prisoner
แล้วก็ได้เวลาเริ่มคุยกันเรื่องซีรีส์เสียที
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Youth of May’
ย้อนกลับไปในราวเดือนพฤษภาคม ปี 1980 ในเกาหลีใต้ ช่วงนั้น เหตุการณ์ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นในแถบควังจู เกิดการประท้วงของนักศึกษาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่นั่น
ฮวังฮีแท (Lee Do Hyun/อีโดฮยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Sweet Home’, ’18 Again’ และ ‘Hotel Del Luna’) นักศึกษาแพทย์ผู้สอบเข้าด้วยคะแนนสูงสุด และน่าจะได้กลายเป็นแพทย์ฝึกหัดอย่างง่ายดาย แต่เขากลับมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ยอมจบการศึกษา จู่ๆ เขาก็ออกจากกรุงโซลมายังควังจูเพื่อพาคนไข้บาดเจ็บหนักรายหนึ่งมาโรงพยาบาลที่นี่ ซึ่งก็ดันเป็นสถานที่ทำงานของพยาบาล คิมมยองฮี (Go Min Si/โกมินซี จากหนังเรื่อง ‘The Witch: Part 1. The Subversion’ ซีรีส์เรื่อง ‘Sweet Home’ และ ‘Love Alarm’)
แต่นั่นไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ
ด้วยความที่มยองฮีมุ่งหมายอยากไปเรียนที่เมืองนอกเมืองนา แต่ค่าใช้จ่ายมันสูงไปหมด ข่าวดีคือเธอจะได้รับทุน แต่ข่าวร้ายคือเธอจะต้องเดินทางไปภายใน 1 เดือน ความยากจนทำให้เธอมุ่งมั่นขยันทำงานเพื่อเก็บเงินเป็นค่าเครื่องบิน ก่อนที่จะได้รับข้อเสนอจากเพื่อนรัก อีซูรยอน (Keum Sae Rok/กึมแซรก จากซีรีส์เรื่อง ‘Joseon Exorcist’ และ ‘The Fiery Priest‘) นักศึกษาด้านกฎหมาย ลูกสาวเจ้าของโรงงาน ให้ช่วยไปนัดบอดแทนและหาทางให้ฝ่ายชายปฏิเสธ แลกกับค่าตั๋วเครื่องบินที่เธอจะออกให้
และชายผู้ที่เธอเจอในตอนนัดบอดก็คือ… ฮีแทนั่นเอง
นอกจากนี้ อีซูรยอน ก็ยังมีพี่ชายอยู่อีกคน เขาคือ อีซูชาน (Lee Sang Yi/อีซังอี จากซีรีส์เรื่อง ‘Once Again’, ‘When the Camellia Blooms’ และ ‘Prison Playbook’) ที่เพิ่งกลับมาจากการไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เขากลับมาเพื่อช่วยกิจการที่บ้าน [จริงๆ เขาตั้งบริษํทเภสัขภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมาแหละ] และดูเหมือนจะชอบ มยองฮี เข้าอีกคน
รักสามเส้าในซีรีส์ย้อนอดีตแหละ ว่างั้นเถอะ!
รีวิวซีรีส์ ‘ในความทรงจำที่ควังจู’
รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่า ช่วงหลังๆ มานี่ ผลงานซีรีส์ของ อีโดฮยอน มีให้ชมอย่างต่อเนื่อง น่าจะถือได้ว่าเป็นดาราดาวรุ่งที่งานชุกงานเข้ามากคนหนึ่งของเกาหลี แถมเรื่องนี้ ยังดึงเอาสองพี่น้องในซีรีส์ Sweet Home มาจับเป็นคู่พระนางกันเสียด้วย แถมเรื่องราวยังเล่าย้อนไปยังเกาหลียุควุ่นวายที่มีความเคลื่อนไหวของเยาวชนเรียกร้องประชาธิปไตยกันด้วยอีก น่าสนใจไม่น้อยเลยต้องเปิดดู
ย้อนยุคสู่ปี 1980 ที่มีการประท้วงของนักศึกษา
เหตุการณ์ในซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าย้อนไปในเวลาที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์เกาหลี ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ที่มีการประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน และเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของเหล่านักศึกษาในแถบควังจู แน่นอนว่า มีหลายตัวละครทั้งหลักและสมทบที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย สำหรับตัวหลักนั้น ตัวที่เด่นชัดที่สุดก็คงจะเป็น อีซูรยอน [ที่แสดงโดย กึมแซรก]
อาจเรียกได้ว่า เธอคือหนึ่งในแกนนำเลยก็ว่าได้ เธอจำเป็นต้องแอบใช้ทรัพยากรของกิจการครอบครัวตัวเองเพื่อร่วมขับเคลื่อนปฏิบัติการ และเกิดปัญหาติดตามมา แม้เพื่อนของเธออย่าง คิมมยองฮี จะมีฐานะไม่ค่อยดี จึงไม่ได้ร่วมด้วยเพราะต้องทำงานเป็นพยาบาลทันทีเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ก็มีเพื่อนฝูงของซูรยอนหลายคนที่รวมอยู่ในกลุ่มนักศึกษาผู้ประท้วง
ขณะที่ฝ่าย ฮวังฮีแท เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยในกรุงโซล เมื่อเพื่อนหลายคนจะเข้าร่วมประท้วงรัฐบาล แต่เขากลับไม่ได้สนใจในการประท้วง แถมยังขับรถคันสวยผ่ากลางกลุ่มนักศึกษาอีกต่างหาก บางคนคงตราหน้าเขาเป็นพวกอิกนอแรนซ์ไปเรียบร้อย [แต่เขามีเพื่อนเป็นทหารที่กลายเป็นผู้รักสถาบันอีกด้วยนะ]
ฮวังฮีแท เป็นลูกของแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้มาอยู่ใต้ชายคาของ ฮวังคีนัม (Oh Man Seok/โอมันซอก) พ่อบุญธรรมที่เป็นหัวหน้าแผนกสืบสวนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ ฮีแทกลายเป็นความหวังในการสร้างคอนเน็คชันของคีนัม ทว่าทั้งสองไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน คีนัมคาดหวังเพียงเรื่องการเมืองและความมั่งคั่งเท่านั้น ฮีแทมีบุคลิกเกเรทำตัวเจ้าปัญหา ขณะเดียวกันก็มีความเป็นศิลปิน ไม่ยอมสอบใบประกอบวิชาชีพให้ผ่าน จะได้ยังดำรงสถานะนักศึกษาเพื่อจะได้ประกวดดนตรีได้นั่นเอง
อารมณ์ศิลปินไม่เบาเลยล่ะ นายคนนี้
ความแตกต่างระหว่างคนมั่งมีและคนยากจน
ความแตกต่างกันด้านฐานะนั้นนับว่าส่งผลอย่างสูงต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจของแต่ละตัวละครอย่างยิ่ง สังเกตได้จากการที่ มยองฮี ที่อยากไปเรียนต่อเมืองนอกเหลือเกิน แต่เพราะครอบครัวยากจน ประกอบกับเธอออกมามาใช้ชีวิตแยกจากครอบครัว ทำให้ต้องทำงานทั้งกะกลางวันและกลางคืนเพื่อเร่งเก็บเงินให้เพียงพอจะซื้อตั๋วเครื่องบินราคาแพงให้ได้ ทั้งยังต้องพึ่งพาอาศัยทุน ซึ่งถ้าเกิดมาบ้านรวย คงไม่ต้องปากกัดตีนถีบขนาดนี้
ขณะที่คนรวยทั้งหลาย ดูจะมีชีวิตที่ดีกว่ามาก พวกเขาไม่ต้องคิดเรื่องปากท้อง แต่กลับหมกมุ่นเรื่องการรักษาหน้าตา รักษาระดับฐานะและความมั่งคั่งอย่างการสร้างคอนเน็กชันผ่านการมีทายาทไว้เพื่อจับคู่แต่งงาน
ในเรื่องนี้ พระเอกคือคนรวยที่สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง เลือกจะยืดการจบออกไปเพื่อจะได้เข้าร่วมประกวดร้องเพลง ขณะที่นางเอกต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานดูแลคนไข้ (ที่บางรายก็ชอบมาลวนลามพยาบาล) หามรุ่งหามค่ำ และต้องยอมทำบางอย่างที่ดูไร้ศักดิ์ศรี ยอมปลอมตัวเป็นเพื่อนไปนัดบอดกับผู้ชาย หาเงินเป็นค่าเครื่องบินเพื่อไปเรียนต่อเมืองนอก
ชีวิตของคนรวยกับคนจนช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
ขยี้ปมปัญหาเรื่องครอบครัว
มยองฮีเป็นพยาบาลสาวมา 3 ปี เธอเป็นคนฉลาด จิตใจดี แต่มีนิสัยแข็งกระด้าง ไม่เป็นมิตร เธอแยกตัวออกมาเช่าบ้านอยู่กับคนอื่น บางทีก็ต้องอาศัยติวหนังสือเพื่อลดภาระค่าผ่อนลง แต่ก็ยังไม่ค่อยมีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ ขนาดรองเท้าพยาบาลก็ยังเก่าจนใกล้จะขาด ไม่ต้องพูดถึงค่าตั๋วเครื่องบินไปเรียนเมืองนอกหรอกเธอ
คิมมยองฮี เธอมีครอบครัวที่ยากจน มีทั้งพ่อ แม่และน้องชาย ก็เหมือนจะมีปมปัญหากับผู้เป็นพ่อ ทำให้เธอไม่ยอมพูดจากับพ่อแม้ในใจจะรักและผูกพันอย่างมากมาย
แต่วันที่เธอต้องแต่งหน้าแต่งตัวเพื่อไปนัดบอด [โดยที่ไม่รู้ว่าฝ่ายชายคือ ฮวังฮีแท นักศึกษาแพทย์ที่เจอกันแบบบังเอิญเพียงแว้บเดียว!] เธอกลายเป็นสาวสวยสะดุดหัวใจ ต่างกับวันเธอไม่แต่งหน้าและง่วนอยู่กับงานดูแลคนป่วยอย่างผิดหูผิดตา
เชื่อว่า ซีรีส์เรื่องนี้คงขยี้ปมความไม่เข้าใจกันระหว่างสองพ่อลูกนี้เป็นแน่ ต้องติดกันต่อไปว่า เหตุใดสองคนจึงหมางเมิน และเมื่อใดพวกเขาจะกลับมาแสดงออกอย่างจริงใจต่อความรู้สึกของตนเองได้อีกครั้งเมื่อ
งานย้อนวันทำได้ดี เล่าเรื่องคอมิดี้-โรแมนติกผสมกับเหตุการณ์บ้านเมือง
เรียกได้ว่าทีมงานทำการบ้านมาเยอะมากเลยล่ะ กับการที่ต้องพยายามสร้างฉากภายนอกให้ดูเหมือนบ้านเมืองเกาหลีในช่วงปี 1980 ภาพใหญ่ใช้ซีจี ส่วนภาพในฉากย่อย อาจใช้การสร้างฉาก ไม่ก็หาพื้นที่เก่ามาเซ็ต ผสมกับสิ่งของประกอบฉาก เสื้อผ้า รถรา ที่ต้องย้อนวันไปทั้งหมด รวมทั้งยังย้อมสีภาพให้ดูเข้ากันกับช่วงเวลาของเหตุการณ์ ทำได้ค่อนข้างสมจริงเลยแหละ
หนังเล่าแบบคนอารมณ์ดี บวกมีอุดมการณ์ประชาธิปไตย หลายฉากแทรกช็อตฮาๆ ฟุ้งๆ เข้ามา กลายเป็นหนังที่ได้หลายอารมณ์ หนึ่งก็เล่าเรื่องรักหลายเส้าของตัวเอกตัวรอง สองก็ได้ความรู้สึกย้อนยุควินเทจในเกาหลีใต้ สาม ผนวกเข้ากับเรื่องของการประท้วงรัฐบาลเผด็จการในสมัยนั้น ผสานความจริงหลายๆ แง่มุมของการเรียกร้องประชาธิปไตย
และยังได้ปรับสมองตัวเองเมื่อได้เจอพี่น้องใน ‘Sweet Home’ กลายเป็นคู่รักกันในซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย
ซีรีส์เรื่อง: Youth of May / ในความทรงจำที่ควังจู / กาลครั้งนั้น ณ ควังจู / 오월의 청춘
ผู้กำกับการแสดง: Song Min Yeop/ซงมินยอบ (เจ้าของผลงานซีรีส์เรื่อง Doctor Prisoner )
ผู้เขียนบท: Lee Kang/อีคัง (เจ้าของผลงานซีรีส์เรื่อง Spy )
นักแสดง: Lee Do Hyun/อีโดฮยอน, Go Min Si/โกมินซี, Lee Sang Yi/อีซังอี, Keum Sae Rok/กึมแซรก, Oh Man Seok/โอมันซอก
แนว/ประเภท: Drama, History, Romance
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 12 ตอน
ช่องทางรับชม: Viu, Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: May 3 – June 8, 2021
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: KBS
ในความทรงจำที่ควังจู
บทและพล็อต - 7.5
การแสดง - 7.6
การดำเนินเรื่อง - 7.4
งานภาพและเทคนิคภาพ - 8.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.8
7.7
Youth of May
ซีรีส์แนวๆ ดราม่าโรแมนซ์ ที่หยิบเอาเหตุบ้านการเมืองในช่วงปี 1980 ที่เกาหลีใต้ปั่นป่วนไปด้วยเรื่องการประท้วงของนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย ทีมงานสร้างเซ็ตเกาหลีย้อนยุคได้ดูสมจริง ใส่เรื่องราวความรักของพระเอกนักศึกษาแพทย์หัวใจดนตรีผู้ร่ำรวย กับหญิงสาวพยาบาลผู้มีปมครอบครัวและยากจน มีช็อตหลุดๆ ฮาๆ มาทำให้ดูแล้วบันเทิงไปกับความรักหลายเส้า กับการนำอีโดฮยอนและโกมินซี พี่ชายน้องสาวในซีรีส์ Sweet Home มาปรับให้กลายเป็นคู่รักกัน