ช่วงชีวิตหนึ่งของมนุษย์แต่ละคนนั้น จะว่าไป ก็ไม่ได้ยืนยาวมากนัก อายุขัยเฉลี่ยที่ 70-80 ปีของเราสร้างข้อจำกัดหลายอย่าง เราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน ร่างกายก็หยุดการเจริญเติบโตและเริ่มเข้าสู่ช่วงถดถอย เมื่ออายุเข้าใกล้ขึ้นต้นด้วยเลข 4 ก็เริ่มครุ่นคิดว่ากำลังจะแก่ หลายคนก็เริ่มจะเครียดมากขึ้นเมื่อชาตินี้ยังไม่อาจหาคู่ครองได้กับเขาสักที ยิ่งเป็นผู้หญิง สังคมก็เหมือนจะกดดันพวกเธอมากขึ้น คนเขียนบทซีรีส์คงมองเห็น จึงหยิบมาเป็นประเด็นในซีรีส์เรื่องใหม่ ‘Thirty Nine’ ชื่อไทย ‘สามสิบเก้า’ ที่สตรีมให้ชมกันแล้วบน Netflix
ซีรีส์เกาหลีความยาว 12 ตอนจาก JTBC ที่มีนักแสดงนำเป็นสามสาวที่คุ้นเคยหน้าตาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ซนเยจิน, จอนมีโด และ คิมจีฮยอน ก็เรียกความสนใจให้ใคร่ดูได้มากพอแล้ว เมื่อได้รู้ว่า คนเขียนบทยังเป็น ยูยองอา ที่เคยเขียนบทหนัง ‘Kim Ji-Young: Born 1982’ และซีรีส์ ‘Encounter’ ด้วย คนที่เคยผ่านตาผลงานของเธอก็น่าจะยิ่งอยากดูเข้าไปใหญ่ เมื่อซีรีส์ที่ฉายตอนใหม่ทุกพุธ-พฤหัสเริ่มฉายออนไลน์
แล้วจะไม่เริ่มดูได้ยังไงกันเล่า!
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Thirty Nine’
มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเพื่อนหญิงที่อยู่ในวัย 39 ทั้งสามคนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน สาวคนแรกคือ ชามีโจ (Son Ye Jin/ซนเยจิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Crash Landing on You’, ‘Something in the Rain’ และหนังเรื่อง ‘The Last Princess’) หมอและผู้อำนวยการคลินิกผิวหนังแถวกังนัม ที่กำลังครุ่นคิดว่าจะขอพักสักหนึ่งปีเพื่อไปอยู่อเมริกา แต่ดันมาเจอคุณหมอสุดหล่อที่สะดุดใจเธอเข้าอย่างจังเสียก่อน
อีกคนเป็น จองชานยอง (Jeon Mi Do/จอนมีโด จากซีรีส์เรื่อง ‘Hospital Playlist’, ‘Hospital Playlist 2’ และหนังเรื่อง ‘Metamorphosis’) สาวผมสั้นที่เปิดกิจการแอ็คติ้งโค้ชอยู่ เธอทนเจ็บปวดอยู่กับความรักที่มีให้กับพี่ชายคนหนึ่งผู้แต่งงานมีลูกไปแล้ว
และคนสุดท้าย จางจูฮี (Kim Ji Hyun/คิมจีฮยอน จากซีรีส์ ‘Hometown Cha-Cha-Cha’ และ ‘Backstreet Rookie’) หญิงสาวผู้จัดการเคาน์เตอร์ขายเครื่องสำอางในห้าง เธอได้พบกับหนุ่มผู้(น่าจะ)อ่อนวัยกว่าอย่างเชฟเจ้าของร้านอาหารจีนเปิดใหม่ที่เธอต้องเดินผ่านทุกวัน
รีวิวซีรีส์ ‘สามสิบเก้า’
วัยสามสิบเก้าไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็มักอยู่ในช่วงที่ถูกสังคมรอบข้างบีบคั้นไถ่ถาม ว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน เมื่อไหร่จะแต่งงาน ผู้ชายอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะกดดันกว่า ซีรีส์เรื่องนี้ก็เลยเล่าเรื่องของเพื่อนสาวสามคนที่อยู่ในวัย 39 ขวบเหมือนกัน ที่ต่างก็ยังไม่ได้แต่งงาน แม้ต่างจะมีหน้าที่การงานที่ค่อนข้างโอเคไปจนถึงดีเยี่ยม แต่อายุและช่วงวัยก็ทำให้พวกเธอต้องดิ้นรน และต่างคนต่างก็มีปัญหาของตัวเอง
ที่หลายครั้งมันก็กระทบไปถึงเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย…
ชามีโจ หมอผู้อำนวยการคลินิกที่อยากพัก
เบื้องลึกเบื้องหลังนั้น ชามีโจ คนที่เป็นผู้อำนวยการคนสวยแห่งคลินิกผิวหนัง J Dermatology Clinic ที่ตั้งอยู่ในคังนัม คาแรกเตอร์ที่รับบทโดย ซนเยจิน ตัวนี้ เดิมทีเคยเป็นเด็กกำพร้าที่อินนูรีมาก่อน ก่อนที่จะมีพ่อแม่คู่หนึ่งมารับเธอไปเป็นบุตรบุญธรรม และนั่นทำให้เธอมีพี่สาวเป็นชามีฮยอน (Kang Mal Geum/คังมัลกึม) ในวันที่เธอเยี่ยมอินนูรี เธอก็ได้พบกับครูหนุ่มสอนภาษาอังกฤษที่นั้น ก่อนความสัมพันธ์จะรุดหน้าเกินคาดคิด แถมเขายังเป็นหมอหนุ่มที่เข้ามาช่วยบริหารคลินิก มีโจคงหวังให้เขาช่วยดูแลระหว่างที่เธอไปพักผ่อนที่อเมริกาสักหนึ่งปี แต่ดูก็เหมือนเขาจะมีแรงดึงดูดที่มากพอให้เธอเปลี่ยนใจ
เมื่อพูดถึงหมอหนุ่มหน้าตาใจดีคนนั้น เขาคือ คิมซอนอู (Yeon Woo Jin/ยอนอูจิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Undercover’ และหนังเรื่อง ‘Special Delivery’) คนที่กลายมาเป็นแฟนของชามีโจในเวลาถัดมา
จองชานยอง แอ็กติ้งโค้ชที่อยากเลิก
จอนมีโด จากซีรีส์คุณหมอขอตั้งวง ‘Hospital Playlist’ มาเรื่องนี้เล่นเป็นจองชานยอง ตัดผมสั้นลงไปอีก แถมได้แต่งหน้ามากขึ้น แม้จะเคยแคสต์แล้วไม่ผ่าน ไม่อาจสมหวังในความฝัน ที่สุดเธอก็ได้เป็นแอ็คติ้งโค้ช มีอาชีพเป็นครูสอนการแสดง ชีวิตที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความปวดร้าวใจ เคยคบกับพี่จินซอก แต่เพราะเหตุพี่เขาแต่งงานกับคนใหม่และมีลูกด้วยกัน ขนาดนั้น ทั้งเธอและพี่จินซอกยังไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อยๆ จนถึงวันที่หัวใจตกอยู่ท่ามกลางสองทางเลือก จะเลิกรากันไปเสียทีเพื่อยุติความเจ็บช้ำในจางไปโดยไว หรือจะดึงเขามากอดไว้แม้ต้องทำให้ใครต้องบ้านแตก
พูดถึงพี่จินซอกบ้าง เขามีชื่อว่า คิมจินซอก (Lee Moo Saeng/อีมูแซง จากซีรีส์ ‘The Silent Sea’ และหนังเรื่อง ‘Fabricated City’) เป็นซีอีโอแห่ง Champ Entertainment เป็นคนเงียบขรึมและใจดีเสมอมา
จางจูฮี พนักงานห้างที่อยากลองกินเด็ก
สาวคนที่สามเธอคือจางจูฮี คนที่เล่นบทนี้คือ คิมจีฮยอน ในเรื่องนี้ เธอสวมบทบาทเป็นสาววัยสามสิบเก้าที่มีอาชีพเป็นผู้จัดการเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้าง ชีวิตในแต่ละวันของเธอทำให้ต้องกลับบ้านดึกทุกคืน ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเสียดายที่ร้านโปรดต้องปิดไป แต่ไม่นาน เธอก็พบว่า ที่ตรงนั้นกลายเป็นร้านใหม่ ร้านอาหารจีนชื่อไซน่าทาวน์ที่มีเจ้าของร้านเป็นหนุ่มหล่อโดนใจ ท่าทางเธอจะได้เป็นขาประจำร้านนี้ ยิ่งเมื่อได้ฟังจากมีโจว่า อยู่ห่างกันไม่เกินสิบปีไม่ถือว่ากินเด็ก ทุกอย่างจึงดูเหมือนไม่มีอะไรมาขีดคั่น
พูดถึงหนุ่มคนนั้น เขาคือ พัคฮยอนจุน (Lee Tae Hwan/อีแทฮวาน จากซีรีส์เรื่อง ‘What’s Wrong With Secretary Kim’ และ ‘W: Two Worlds Apart’) หนุ่มอดีตเชฟโรงแรมที่ลาออกมาทำร้านของตัวเอง แต่ติดอยู่หน่อยตรงที่ดูเหมือนเขาจะมีแฟนอยู่แล้วนี่แหละ
ต่างคนต่างมีปัญหาของตน
ความสัมพันธ์ของทุกตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ช่างวุ่นวาย พอๆ กับปัญหาที่มีมาไม่รู้จบ สั่นสะเทือนใจให้ผู้ชมอย่างเราๆ ต้องหวั่นไหวน้ำตาไหลนองกันแทบทุกตอน มาไล่เรียงกันดูซิว่า แต่ละคนมีปัญหาอันใดกันบ้าง
เป็นมีโจเองที่แนะนำให้เพื่อนสนิทอย่างชานยองได้รู้จักกับพี่จินซอก จนทั้งสองคนรักกัน แต่เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้พี่จินซอกเลือกจะแต่งงานอยู่กินกับอีกคน และเพราะความไม่ยอมตัดใจ ทั้งชานยองและจินซอกจึงยังคบหาแต่ไม่ยอมเกินเลยตลอดมา ทว่าเกิดเหตุไม่คาดคิด ข่าวร้าย! ชานยองเป็นมะเร็งระยะที่สี่ และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ระหว่างที่ยังปิดบังพ่อแม่อยู่ ของชานยองก็ตั้งใจทำบางอย่างในชีวิตที่เหลือ นั่นคือ การทำให้พี่จินซอกกลับไปอยู่กับครอบครัว และการทำให้จูฮีได้กับเชฟ
พูดถึงเชฟฮยอนจุน เขาคือเจ้าของร้านอาหารจีนที่จูฮีแอบชอบ แม้รู้ว่าเชฟจะอ่อนวัยกว่าก็ตาม แต่ความเรียบร้อยของจูฮี ก็ทำให้ทุกอย่างดูเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะเดียวกัน อาชีพบริการอย่างผู้จัดการเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในห้างก็ทำให้จูฮีต้องแบกรับความกดดันจากลูกค้าขี้เอาแต่ใจ ไม่นานความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็บังเกิดขึ้น
มีโจเป็นคนที่ใส่ใจเพื่อนตลอดเวลา เมื่อเพื่อนมีปัญหา เธอจะรีบเข้าไปปกป้อง ทำให้เธอค่อนข้างเหลือเวลากับซอนอูน้อย
ขณะที่หมอซอนอูเองก็มีปัญหาของตน เมื่อเขาได้พบว่าน้องสาวที่ห่างหายอย่าง โซวอน (Ahn So Hee/อันโซฮี อดีตสมาชิก Wonder Girls ที่เคยมีผลงานซีรีส์เรื่อง ‘Welcome to Waikiki 2’ และหนังเรื่อง ‘Train To Busan’) ที่เคยเป็นลูกกำพร้ามาด้วยกันนั้นทำงานอยู่ในบาร์โฮตส์ ทั้งยังถูกพ่อบุญธรรมดูแคลน ปัญหาเรื่องครอบครัวจึงน่าปวดหัวสำหรับหมอซอนอูอยู่ไม่น้อย
ยังมีรายละเอียดปลีกย่อย เรื่องเล็กเรื่องน้อย ที่อยู่ในซีรีส์ ซึ่งคงต้องลองไปติดตามเอาเองแหละครับ
สิ่งที่สัมผัสได้จากซีรีส์ ‘สามสิบเก้า’ เรื่องนี้
เท่าที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ พอจะจับความรู้สึกบางอย่างได้บ้าง เลยจะหยิบมาเขียนเป็นข้อๆ เท่าที่พอนึกได้ ตามนี้
- เรื่องราวค่อนข้างเน้นดราม่า น้ำตาจะไหลบ่อย ซีรีส์เล่าเรื่องราวของสามสาวที่วัยล่วงเลยมาใกล้เลข 4 ที่ยังไม่มีแฟน จึงค่อนข้างจะมีแต่ปัญหาชีวิตที่พวกเธอต้องพานพบ ทำให้แทบทุกตอนจะมีแต่เรื่องดราม่า เรื่องเศร้าๆ พาให้ผู้ชมต้องน้ำตาไหล ในบางช่วงแม้ไม่ถึงขั้นนั้น ก็ยังมีความหม่นเศร้า สะเทือนใจในชะตากรรม
- เคมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน แต่ในความหม่นเศร้าก็ยังดีที่มีความสุขแทรกมาเป็นช่วงๆ สามสาว ซนเยจิน จอนมีโด และคิมจีฮยอน เล่นเป็นสามเพื่อนซี้ได้เข้าขาจนอินในความซี้นั้น รับส่งมุกกันได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด แสดงออกให้เรามองเห็นว่า เพื่อนสนิทมันต้องรู้ใจกันแบบนี้สิ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องชมว่าเขียนบนมาได้ค่อนข้างดี
- เป็นซีรีส์ที่รวมเอาปัญหาชีวิตคนวัยทำงาน คนที่อยู่ในวัยทำงานมาสักระยะหนึ่งแล้ว เข้าสู่วัยกลางคน จะเริ่มมีปัญหาหลายหลายผ่านเข้ามา ทั้งปัญหาสุขภาพ เรื่องการหาแฟน เรื่องครอบครัว รวมทั้งยังมีการเริ่มต้นใหม่ในวัย 39 และการจากลาที่มาอย่างไม่คาดคิดอีกด้วย
โดยรวมแล้ว ก็เป็นซีรีส์ที่มีเจตนาดีในการหยิบเอาชีวิตของหญิงชายในช่วงวันกลางคนมาบอกเล่า แม้ว่ามันจะค่อนข้างตึงอยู่หน่อยๆ แต่ก็เพิ่มมาด้วยเคมีที่ดีระหว่างเพื่อนสนิท รวมทั้งเรื่องราวที่น่าจะรีเลทกับคนดูได้ในหลายๆ ส่วน ความยาว 12 ตอนก็ถือว่าไม่มากไปไม่น้อยไป และน่าจะพอให้ติดตามไปได้จนจบ
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Thirty Nine / สามสิบเก้า / 서른, 아홉 |
ผู้กำกับ | Kim Sang Ho/คิมซางโฮ (เจ้าของผลงาน ‘2018 JTBC Drama Festa : Ping Pong Ball’) |
ผู้เขียนบท | Yoo Young A/ยูยองอา (เจ้าของผลงาน ‘Kim Ji-Young: Born 1982’ และ ‘Encounter’ ) |
นักแสดง | Son Ye Jin/ซนเยจิน, Jeon Mi Do/จอนมีโด, Kim Ji Hyun/คิมจีฮยอน, Yeon Woo Jin/ยอนอูจิน, Lee Moo Saeng/อีมูแซง, Lee Tae Hwan/อีแทฮวาน, Ahn So Hee/อันโซฮี |
แนว/ประเภท | Romance, Drama |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 16 กุมภาพันธ์ – 24 มีนาคม 2022 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | JTBC |
สามสิบเก้า
พล็อตและบท - 6.8
การดำเนินเรื่อง - 6.3
การแสดง - 7.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.5
งานถ่ายภาพและโปรดักชัน - 7
6.8
Thirty Nine
โดยรวมแล้ว ก็เป็นซีรีส์ที่มีเจตนาดีในการหยิบเอาชีวิตของหญิงชายในช่วงวันกลางคนมาบอกเล่า แม้ว่ามันจะค่อนข้างตึงอยู่หน่อยๆ แต่ก็เพิ่มมาด้วยเคมีที่ดีระหว่างเพื่อนสนิท รวมทั้งเรื่องราวที่น่าจะรีเลทกับคนดูได้ในหลายๆ ส่วน ความยาว 12 ตอนก็ถือว่าไม่มากไปไม่น้อยไป และน่าจะพอให้ติดตามไปได้จนจบ