รีวิวซีรีส์ The White Lotus 3 | พักรีสอร์ตหรูที่ไทย บำบัดยังไงก็มีคนตาย

และแล้วซีรีส์ล็อกดาวน์โควิดก็กลายเป็นซีรีส์ดังด้านท่องเที่ยว แถมคว้ารางวัลเป็นว่าเล่น และตอนนี้มาถึง ‘The White Lotus 3‘ ซีซันที่สามของ ‘เดอะไวท์โลตัส’ ที่ย้ายมาเล่าเรื่องของสาขาประเทศไทย สาขาที่ขึ้นชื่อในเรื่องโปรแกรมทรีตเมนต์ด้านสุขภาพ รีสอร์ตหรูสำหรับลูกค้ารวยๆ ที่รอบล้อมด้วยป่า ไม่เหมือนที่ไหนเพราะที่นี่มีฝูงลิงมาให้เยี่ยมชม ว่าแล้วก็เริ่มเขียนถึงกันดีกว่าเนอะ

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เรื่องนี้?

ซีรีส์ท่องเที่ยวบวกอาชญากรรมที่เดินมาถึงซีซันสาม หันมาเล่าเรื่องรีสอร์ตหรูสำหรับคนรวยที่ตั้งอยู่บนเกาะสวยเมืองไทย ใส่ความสงบงามที่ขัดแย้งกับความยุ่งเหยิง ผ่านเรื่องราวของลูกค้าหลายกลุ่มที่เข้าพัก พนักงานที่หลากหลายในรีสอร์ตที่เน้นบำบัด และคนใกล้เคียงที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซีซันนี้ใส่ ‘ความไทย’ เข้ามาอย่างเต็มเปี่ยม ฉายภาพของการพักผ่อนหย่อนใจกลางรีสอร์ตที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ แต่ก็ยังคนตาย คนดูอย่างเราก็ได้ลุ้นกันไปว่าศพนั้นเป็นของใคร

ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นซีรีส์ที่ถ่ายเมืองไทยได้สวยดี แถมยังเสียดสีสังคมได้อย่างคมคาย

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The White Lotus’ ซีซัน 3

ครั้งนี้ ย้ายมาเล่าเรื่องของไวท์โลตัสสาขาบ้านเรากันบ้าง ทำเลงดงามของรีสอร์ตบนเนินเขาชายทะเล ที่หนึ่งในเจ้าของเป็น คุณศรีตลา (เล็ก ภัทราวดี) ที่แตกต่างกับสามีชาวอเมริกัน และในครั้งนี้ก็มีลูกค้ามาเยือนรีสอร์ตแห่งนี้เช่นกัน

เริ่มกันที่สองผัวเมียต่างวัย ริค/ริชาร์ด (Walton Goggins จากซีรีส์ ‘Fallout’) กับเชลซี (Aimee Lou Wood จากซีรีส์ ‘Sex Education’) ฝ่ายผัวมีจุดประสงค์บางอย่างกับสามีของเจ้าของรีสอร์ต ส่วนเมียสาวคนแมนเชสเตอร์ก็ตั้งใจใช้ทริปนี้ดึงความสุขของผัวกลับมา

ถัดมาเป็นครอบครัวรัทท์ลิฟต์ ที่ประกอบด้วย ทิโมธี (Jason Isaacs) คุณพ่อนักธุรกิจที่มาพักผ่อนกับครอบครัว วิคตอเรีย (Parker Posey) ภรรยากับลูกๆ สามคน แซกซอน (Patrick Schwarzenegger จากซีรีส์ ‘Gen V’) ลูกคนโตที่ทำงานกับพ่อแต่ค่อนข้างบ้ากาม ไพเพอร์ (Sarah Catherine Hook จากซีรีส์ ‘Cruel Intentions’) นักศึกษาสาวปีสุดท้ายที่สนใจพุทธ กำลังเขียนธีสิสวิจัยศาสนาและต้องการมาสัมภาษณ์พระที่นี่ และล็อคกี้ (Sam Nivola จากซีรีส์ ‘The Perfect Couple’) หนุ่มผมยุ่งผู้กำลังเลือกที่เรียน

อีกกลุ่มเป็นสามสาวใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต นำโดย แจ็กลิน เลมอน (Michelle Monaghan จากหนังเรื่อง ‘Mission: Impossible – Fallout’) คนดังเจ้าของรายการ เคท (Leslie Bibb จากซีรีส์ ‘Jupiter’s Legacy’) ผมสั้นตรง และ ลอรี (Carrie Coon จากหนังเรื่อง ‘Ghostbusters: Afterlife’) ผมสั้นหยิก ลอรี่ที่กำลังเจอมรสุมชีวิต

ส่วน เบลินดา (Natasha Rothwell จากซีรีส์ ‘The White Lotus 1’) เธอหมดไฟจึงจากเกาะมาวอิมาเพื่อเรียนรู้วิถี หวังจะเอาไปพัฒนาตนเอง และเธอจะอยู่ที่นี่ตลอด 3 เดือน

จะเห็นว่า เดอะไวท์โลตัส สาขาประเทศนี้ มีตัวละครเยอะมาก นี่ยังไม่รวมพนักงานอย่าง ฟาเบียน (Christian Friedel จากหนังเรื่อง ‘The Zone of Interest’) เป็นผู้จัดการทั่วไป วาเลนติน (Arnas Fedaravicius) หนุ่มรัสเซียพนักงานดูแลด้านพลังงานบำบัด อมริตา (Shalini Peiris) โดยมีพนักงานคนไทยอย่าง พรชัย (ดอม เหตระกูล) มุก (ลิซ่า ลลิษา มโนบาล) และต๊อก (เทม ทับทิมทอง)

รีวิวซีรีส์ ‘เดอะไวท์โลตัส’ ซีซัน 3

รีสอร์ทสาขาบ้านเรานี่จะเน้นไปทางเรื่องการมาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายเป็นหลักแฮะ ทำให้มีบางสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่น อย่างเช่นการขอเก็บอุปกรณ์ดิจิทัลทั้งหลายเพื่อให้ลูกค้าใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและมนุษย์ด้วยกันให้มากที่สุด นอกจากนี้ ก็ยังมีการทดสอบไบโอเมตริกซ์ เพื่อนำมาจัดตารางส่วนบุคคลอีกด้วย ซึ่งก็แน่นอนว่า มีลูกค้าบางคนไม่ชอบใจและเลือกที่จะเก็บมือถือไว้กับตน

เหมือนเช่นกับ 2 ชีซันแรก ครั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ามาพักแต่ละคนต่างก็พกพาปัญหาส่วนตัว พร้อมกับพฤติกรรมความคิดแปลก ๆ เข้ามาด้วยเช่นเคย ลูกค้าบางคนก็มีจุดประสงค์แอบแฝง อย่างริค เขาต้องการมาเพื่อพบกับ จิม ฮอนลิงเจอร์ (Scott Glenn) สามีของศรีตลา หรือครอบครัวร่ำรวยของทิโมธีที่อ้างว่า มาพักที่นี่เพื่อให้ลูกสาวได้ทำธีสิส ทั้งที่ตัวเองก็กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ที่อาจสั่นสะเทือนฐานะทางการเงิน หรือจะเป็นสามสาวที่คบหากันมานาน แม้ต่อหน้าจะบอกว่ารักกันมากมาย แต่ดูจะมีความริษยาเจืออยู่ในใจ ขณะเบลิดา เธอเข้ามาในฐานะแขกพิเศษ และรอไซออน (Nicholas Duvernay) ลูกชายที่จบบริหาร ม.ฮาวาย ที่กำลังเดินทางมาสมทบ

นอกเหนือไปจากลูกค้าที่เข้าพัก ก็ยังบางตัวละครที่อยู่แถวนั้น แต่ก็มักจะมาใช้เวลาทานอาหารในเดอะไวท์โลตัสเป็นประจำ อย่างเช่น ส่วนแฟนนางแบบคนสวยนาม โคลอี้ (Charlotte Le Bon) ที่คบหาอยู่กับชายสูงวัยอย่าง แกรี่ ซึ่งที่จริงเขาคือเกร็ก (Jon Gries) ใน 2 ซีซันก่อนนั่นเอง

นอกจากนี้ ก็ยังมีนักแสดงไทยที่เพิ่มเข้ามาอีก ไม่ว่าจะเป็น ปู ไปรยา หรืออีกชื่อ Praya Lundberg เธอได้บทพอสมควรด้วย อีกคนก็คือ สุทธิชัย หยุ่น ที่เล่นเป็นพระโดยไม่ต้องโกนหัวซึ่งเราจะได้พบกันในตอนท้าย ๆ

อ่านรีวิวของซีรีส์ดอกบัวขาว 2 ซีซันแรกได้ที่นี่ครับ

• รีวิวซีรีส์ ‘The White Lotus 1’
• รีวิวซีรีส์ ‘The White Lotus 2’

ดูเหมือนเรื่องวุ่นวายน่าปวดหัวเกิดขึ้นไม่เว้นวันกับครอบครัวแรทริฟต์ วิคตอเรียผู้จมไม่ลงแถมไม่เคยรู้ระแคะระคายเพราะทิโมธีไม่เคยปริปากบอกเรื่องธุรกิจฟอกเงินที่กำลังเจอตอ ส่วนแซกซอน ลูกชายคนโตก็หมกมุ่นอยู่กับเรื่องกาม ๆ สนใจแต่เรื่องจีบสาว หาความสนุกใส่ตัว ด้านล็อคกี้ แม้นิสัยจะดีกว่าพี่ชาย แต่ก็หัวอ่อนพร้อมจะโอนเอนได้ทุกเมื่อ ขณะที่ไพเพอร์กลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเลือกจะใฝ่หาความสงบกับพุทธศาสนาที่แม่ของเธอมองว่ามันเป็นแค่ลัทธิ

ซีซันนี้ นอกจากรีสอร์ตสาขานี้จะเน้นด้านสุขภาพและจิตแล้ว ก็ยังเน้นเรื่องเสรีภาพทางเพศอีกต่างหาก ตัวละครมีอะไรกันในแบบอิสระไม่ต้องมีกฎมีเกณฑ์ และนอกจากเรื่องเซ็กซ์ที่เกิดจากแรงขับภายในของแต่ละตัวละครแล้วนั้น เรื่องอาชญากรรมก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในซีซันนี้เช่นกัน นัยว่าถ้าเล่าเรื่องเมืองไทยก็ต้องหนีไม่พ้นมัน บ้านเราเป็นดินแดนที่เปิดรับคนให้เข้ามาได้ง่าย คนพวกที่หลบหนีอะไรมา ก็สามารถจะพักพิงอยู่ที่นี่ได้ ก่อเรื่องก่อราวให้เกิดขึ้นได้ อะไรประมาณนั้น

ยังคงเหมือนๆ กับซีซันที่ผ่าน ๆ มา ‘เดอะไวท์โลตัส’ คือซีรีส์ที่มีกลิ่นของความไม่น่าไว้วางใจ แต่ยังอบอวลไปด้วยความรื่นรมย์ของการพักผ่อนหย่อนใจ แต่สิ่งที่มีมากกว่าซีซันก่อนๆ ก็คงเป็นการใส่บทให้ลูกค้าได้มีอะไรกับพนักงานรีสอร์ต

ดูเป็นซีซันที่ใส่ทุกกลิ่นของประเทศไทยลงไปเท่าที่จะใส่ได้ ทั้งเรื่องยาเสพติด (ซึ่งอันที่จริงมันก็มีกันทุกประเทศ) เสรีทางเพศ (ที่เข้ากันดีกับประเทศที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม) อาชญากรรมที่ดูตัดกับภาพความสงบแห่งพุทธศาสนา มีฉากเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน มีมวยไทย แล้วก็มีลิงที่แทรกอยู่ในทุกตอน ราวกับจะส่งกลิ่นความไม่น่าไว้ใจ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์

ซีซันนี้ ใส่ ‘ความไทย’ เข้ามาในทุกอณู ไม่ว่าจะอินโทรของซีรีส์ที่เป็นภาพฝาผนัง วางเพลงไทยเก่าๆ ที่คุ้นหูมากมายมาประกอบเรื่องราว (แต่บางทีก็ไม่ใช่เพลงไทย แต่เป็นเพลงจากเพื่อนบ้าน) แม้การแสดงร้องรำต่างๆ จะถูกปรับให้เป็นร่วมสมัยไปแล้วก็ตาม

สุดท้ายและท้ายสุด ซีรีส์ซีซันนี้ถ่ายภาพเมืองไทยออกมาได้สวยงามมาก ฉายภาพความขัดแย้งของสังคมที่ร่ำรวยวัฒนธรรม แต่ก็แทรกซึมไปด้วยความยุ่งเหยิง ศาสนาที่คนนับถือกันอย่างฉาบฉวย ผู้คนนับถือความร่ำรวย กับบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและความล้ำเหลื่อม

เหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนยังเมืองไทยด้วยหลากหลายจุดประสงค์ บางคนได้ความคิดกลับไป แต่บางคนก็ไม่เหลือแม้แต่ชีวิต

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์