ช่วงนี้เหมือนผมจะดูหนังดูซีรีส์ไม่ได้หยุดหย่อนเลยแฮะ จบจากเรื่องนั้นทีก็มาต่อที่เรื่องนี้ที หนนี้หันมาชมมินิซีรีส์ที่เพิ่งเริ่มฉายออนไลน์ไปหมาดๆ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 (ก็คือวันนี้นี่เอง) เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่อัจฉริยะในการเล่นเกมกระดานแม้อายุจะยังน้อยแถมเป็นผู้หญิง ผมกำลังหมายถึง ‘The Queen’s Gambit’ หรือ ‘เกมกระดานแห่งชีวิต’ อยู่นั่นเองครับ
เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในหน้าตาของน้องอันยาคนนี้เหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละ ก็ไม่ใช่ทุกผลงานที่เราจะติดตาม เพราะถ้าอันไหนรู้สึกไม่ใช่ก็จะหยุดกองไว้ตรงนั้น แล้วหาอย่างอื่นต่อไป พอมาครั้งนี้นี่แหละ รู้สึกถูกจริตจึงได้ติดตามไปจนจบ
มินิซีรีส์ที่เล่าเรื่องหมากรุก ให้คนที่ไม่เคยเล่นหมากรุกดู…
เรื่องย่อมินิซีรีส์ ‘The Queen’s Gambit’
มันเป็นเรื่องราวของสาวน้อยคนหนึ่งที่กำพร้าแม่ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ เบธ หรือเอลิซาเบธ ฮาร์มอน (Isla Johnston) ถูกส่งไปเลี้ยงดูในบ้านเมธูเอน สถานสงเคราะห์เด็กหญิง ที่นั่นเธอได้รับชุดใหม่ เตียงนอนใหม่ เพื่อนใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่า จะมีเพียงเด็กอายุน้อยๆ เท่านั้นที่จะโชคดีมีคนรับไปเลี้ยงดู
แต่เพราะการอยู่ที่นี่ ทำให้เธอได้รู้จักกับลุงภารโรงที่ชื่อ ไชเบล (Bill Camp จากหนัง ‘Dark Waters’, ‘Red Sparrow’ และ ’12 Years a Slave’) ลุงสอนให้เธอรู้จักกับหมากรุก ด้วยความอัจฉริยะและยาระงับประสาทที่ได้รับทุกวัน เธอสะสมความเก่งกาจจนวันที่ร่างกายเติบโต
วันนี้เธอเป็นสาววัยรุ่น เบธ (Anya Taylor-Joy จากหนัง ‘The Witch’, ‘Morgan’ และ ‘Split’) ที่ความเก่งกาจด้านหมากรุกฉายชัด จนมีคนรับไปเลี้ยง และสนับสนุนเธอจนได้เข้าไปแข่งในยูเอสโอเพน
ชีวิตของเธอดูโลดโผน แม้จะมีความยึดโยงกับหมากรุกอย่างเหนียวแน่น เธอมีความแปลกแยกไม่เหมือนใคร หน้าตาสวย มีแต่ผู้ชายเข้ามาในชีวิตเธอ แต่หมากรุกก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธออยู่ดี
เรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้ Based on the book by Walter Tevis
รีวิวมินิซีรีส์ ‘The Queen’s Gambit เกมกระดานแห่งชีวิต’
วิธีการเล่าตอนเริ่มนี่ไม่ต่างกับหลายๆ เรื่องที่ได้ดูในช่วงหลังๆ นี่ นั่นคือ การหยิบเอาภาพเหตุการณ์หนึ่งที่จะเกิดขึ้น (แต่ยังไม่ใช่ตอนจบ) มาเล่าชักนำความสนใจเอาไว้ก่อน ให้คนเห็นก่อนว่าเธอคือคนดังที่อยู่ในการแข่งขันหมากรุก ก่อนจะย้อนกลับไปเล่าถึงจุดเริ่มต้นของเธอ
เด็กกำพร้า กับหมากรุก กับยาเสพติด
ความเป็นเด็กกำพร้าก็มากพอจะสร้างปมในใจให้กับตัวละครตัวนี้แล้ว เพราะความเป็นเด็กกำพร้าทำให้เธอค้นหาบางสิ่งยึดเหนี่ยว และด้วยความบังเอิญที่เธอลงไปยังห้องใต้ดินทำให้เธอได้เห็นกระดานหมากรุกกับลุงไชเบล ด้วยสายเลือดความเก่งกาจที่ได้จากแม่ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ ทำให้เธอเริ่มสนใจในการเล่นหมากรุก จินตนาการอันล้ำเลิศที่เห็นภาพการเล่นหมากรุกบนเพดานทุกค่ำคืน
แม้ไม่ได้เล่นทุกวันแต่ก็เก่งขึ้นอย่างรวดเร็วและเหลือเชื่อ
แต่เพราะที่สถานสงเคราะห์เด็กหญิง นี่มียาแคปซูลที่ถูกเรียกว่าวิตามินซึ่งถูกแจกจ่ายให้เด็กกินทุกวัน หนึ่งในนั้นเป็นเม็ดสีเขียวซึ่งที่แท้มันคือ ยาระงับประสาท แน่นอน มันทำให้เธอติดยา
ซีรีส์เรื่องนี้จึงมียาเสพติดเข้ามาประกอบด้วยในการเดินทางของชีวิตเธอ
มองๆ ไปนี่ เบธดูคล้ายเด็กเนิร์ดพอสมควร เพราะเธอสนใจอยู่สิ่งเดียวเลยคือ หมากรุก สังเกตได้จากการที่เธอเอาหนังสือที่ลุงไชเบลให้มา ไปอ่านในห้องเรียน ไม่ได้สนใจวิชานั้นสักนิด หรือวันที่เธอได้ปาร์ตี้กับเพื่อน ทุกคนต่างร้องเพลงดังเพลงนั้นกันได้หมด แต่เธอกลับนิ่งเงียบอยู่คนเดียว หากแต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้พบพานหลายสิ่งมากมายและเธอก็ไม่ได้ปิดรับมันเสียทีเดียว หลังๆ เธอก็เปิดทีวีฟังเพลงดังๆ เหมือนกัน
นอกจากนี้ เธอยังมีความแสบอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นวันที่เธอขโมยยาเม็ดสีเขียวมาทั้งโหลในตอนอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิง หรือการซื้อหนังสือพิมพ์แต่สอดไส้นิตยสารหมากรุกไว้ข้างใน
วีรกรรมเด็ดๆ ที่ชวนให้คนดูได้สนุกไปกับการเดินทางของเบธ
มีวันนี้ได้เพราะมีแม่(คนใหม่)
เบธในวัยเด็กนั้นน่ารักมาก ในวันที่เธอค้นพบหมากรุกก่อนจะกลายมาเป็นภาพที่โลกจดจำนั้น เธอเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ฝึกฝนการเล่นหมากรุกด้วยวิธีการของตัวเอง อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเธอต้องตัดผมสั้นซึ่งพอโตขึ้นมา เราเลยได้เห็นอันยาในลุคผมสีบลอนด์และสั้น ดูแปลกตาและไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เธอก็ค่อยๆ สวยขึ้นตามเวลา
แต่เอาเข้าจริง การได้เจอกับแม่คนใหม่ก็คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ชีวิตนักหมากรุกได้บังเกิด ทำให้ความสามารถในการเป็นนักเล่าหมากรุกนั้นได้ฉายแสงให้คนทั่วไปได้เห็น เบธสามารถทำเงินจากการเล่นหมากรุกได้ และทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปมากมายด้วยเช่นกัน
อัลมา วีทลีย์ (Marielle Heller) คือภรรยาของสามีที่เข้ามาอุปถัมภ์เลี้ยงดูเบธ ก่อนที่ชีวิตจะผกผันและการมีเบธทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไป เบธเองก็มีชีวิตที่เปลี่ยนไปไม่น้อย จากเด็กกำพร้าที่แต่งตัวเชยๆ ต่อมาเมื่อเธอเริ่มมีเงิน เธอจึงเริ่มแต่งตัว เริ่มรู้จักเพื่อนฝูงและผู้ชายมากมาย เริ่มปาร์ตี้สังสรรค์ เริ่มรู้จักเหล้าเบียร์
และแน่นอน ยาเสพติดชนิดอื่นๆ
ผู้หญิง-ผู้ชาย ผิวสี ชนชาติ
อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งในเรื่องราวของหญิงสาวสวยที่คลั่งไคล้การเล่นหมากรุก แต่ผมก็พอจะมองเห็นส่วนนั้นของมัน โลกในมินิซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าให้เราได้มองเห็นถึง การลุกขึ้นมาสู้ในโลกที่มีแต่ผู้ชาย โลกของหมากรุกในสมัยนั้นเป็นโลกของผู้ชาย มีแต่ผู้ชายที่เข้าชมรม มีแต่ผู้ชายที่ก้าวขึ้นมาแข่งขันและเป็นแชมป์ และในโลกนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงผู้มีพรสวรรค์คนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาโดดเด่นเทียมเท่าหรืออาจจะสูงกว่าผู้ชาย
หลายครั้งที่สื่อนำไปพูดถึง ก็มักจะสื่อแง่ของความเป็นเด็กผู้หญิง เพราะมันคือความแปลกใหม่ที่ผู้คนสนใจ
ในช่วงที่เธออยู่ในบ้านเมธูเอน เธอมีเพื่อนสนิทเป็นเด็กสาวผิวดำนาม โจลีน (Moses Ingram) หญิงนักสบถที่เธอคบหาโดยไม่สนใจแม้จะต่างสีผิว แม้จะถูกเรียกว่า ยัยเผือก ก็มิได้นำพา ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นโจลีนคือหนึ่งคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
วันหนึ่งที่เธอได้เข้าแข่งขันนอกประเทศ เธอเป็นเหมือนตัวแทนของสหรัฐฯ ที่ก้าวขึ้นไปขันแข่งกับคนเก่งของประเทศอื่น โดยเฉพาะโซเวียต และนั่นทำให้เรามองเห็นความมีน้ำใจนักกีฬา การก้าวข้ามความแตกต่างและขัดแย้งระหว่างชนชาติที่มีระบอบการปกครองที่อยู่กันคนละขั้ว
นอกจากนี้ เกมกระดานแห่งชีวิต ยังเล่าไปถึง เพศชายกระทำสิ่งเลวร้ายต่อเพศหญิง
สิ่งนี้ก่อผลโดยตรงต่อเบธ มันทำให้เธอห่างจากพ่อตั้งแต่ไม่กี่ขวบ เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า แม้เมื่อโตขึ้นมามีพ่อแม่อุปถัมภ์ก็ยังไม่พ้นเรื่องเดิมๆ เธอจึงต้องอยู่กับแม่คนใหม่เพียงลำพัง ก่อนที่เธอต้องมีชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอีกครั้ง และสิ่งที่เธอไขว่คว้าในช่วงถัดมาก็ผู้ชายที่แวะเวียนผ่านเข้ามา
เพราะเส้นทางที่เธอเลือกก้าวนั้นเป็นโลกที่มีผู้ชายมากหน้าเต็มไปหมด
นอกจากเราจะได้พบกับ Anya Taylor-Joy ในบทบาทของนักหมากรุกหญิงตัวแสบแล้ว ก็ยังได้พบกับนักแสดงที่คุ้นหน้าอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น Thomas Brodie-Sangster ผู้เคยแสดงเป็น นิวท์ ใน ‘The Maze Runner’ หรือจะเป็น Harry Melling ชายหนุ่มผู้เคยเล่นบท ดัดสลีย์ ในหนังจากวรรณกรรมชื่อดัง ‘Harry Potter’
เป็นซีรีส์เรื่องหมากรุก ที่คนดูไม่จำเป็นต้องเล่นหมากรุกเป็น
เป็นเรื่องจริงเลย เพราะตัวผมเองก็เล่นหมากรุกไม่เป็น ดูมินิซีรีส์เรื่องนี้เหมือนการได้เรียนรู้จักหมากรุกแบบเบาๆ แม้กระนั้น ซีรีส์ก็ไม่ได้ลงลึกไปมากนัก ส่วนใหญ่เล่นเล่าในส่วนชีวิตของเบธเสียมากกว่า ขณะที่ช่วงเวลาในการแข่งขันนั้น ก็เดินเรื่องให้คนรู้สึกเหมือนดูกีฬาชนิดหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องเล่นเป็นแต่สนุกลุ้นไปกับเกมได้
ในแต่ละครั้งที่เรื่องราวเดินมาถึงช่วงแข่งขัน สถานการณ์นั้นจะแตกต่างกันออกไป นอกจากสถานการณ์แล้ว การเล่า ภาพ เพลง การตัดต่อ เรียกได้ว่า แปลกจากครั้งก่อนหน้าและออกมาน่าประทับใจเสมอ
การเลือกอันยา เทย์เลอร์-จอย นับว่าเข้าที นอกจากเธอจะแสดงได้เข้าถึงแล้ว เสน่ห์ของตัวเธอก็มีมากอย่างร้ายกาจ ผู้ชมอย่างผมได้แต่ชื่นชมในความสวยของเธออย่างไม่เว้นวาย
ในส่วนของเพลงและดนตรีประกอบนั้นถือเป็นองค์ประกอบที่ผมต้องยกนิ้วให้ เรื่องนี้ใช้ทั้งดนตรีออร์เคสตร้า และวงสไตล์บิ๊กแบนด์ที่เล่นเน้นเครื่องเป่า มีทั้งเร็วและช้า ส่งเสริมให้เรื่องราวลื่นไหลและสื่อสารทางอารมณ์ได้ดี
การเป็นนักกีฬาหมากรุกที่มีเบื้องหลังเป็นเด็กกำพร้าและมีความเกี่ยวพันกับสารเสพติดมาตั้งแต่วัยเด็กนั้น ทำให้เรื่องราวดูมีสีสันและน่าติดตาม รวมทั้งทำให้ได้เรื่องเล่าที่น่าสนใจ เธอจะชนะศึกกระดานครั้งใหม่ด้วยวิธีไหน ปัญหาส่วนตัวที่แวะเวียนเข้ามาจะทำให้สภาพจิตใจเธอที่เปราะบางต้องทุลักทุเลอย่างไร และอะไรหรือใครจะพาเธอกลับมาได้บ้าง หลอมรวมเข้ากับบุคลิกในตัวเธอที่มีทั้งความโกรธ ความขบถและความหลงใหล สิ่งเหล่านี้น่าสนใจมากพอจะกลายเป็นเรื่องที่เล่าที่สนุกได้
เป็นมินิซีรีส์ที่เล่าเรื่องหมากรุก ให้คนที่ไม่เคยเล่นและเล่นหมากรุกไม่เป็น แต่ดูได้สนุกเฉย…
ชื่อซีรีส์: The Queen’s Gambit / เกมกระดานแห่งชีวิต
ผู้สร้าง: Scott Frank, Scott Allan, Allan Scott
นักแสดงนำ: Anya Taylor-Joy, Bill Camp, Marielle Heller, Thomas Brodie-Sangster, Jacob Fortune-Lloyd
แนว/ประเภท: Drama
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ปี: 2020
จำนวนตอน: ซีซัน 1 | 7 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: Flitcraft, Wonderful Films, Netflix
เกมกระดานแห่งชีวิต
บทและพล็อต - 9
การแสดง - 8.6
เพลง/ดนตรีประกอบ - 9.5
การดำเนินเรื่อง - 9
งานภาพ - 9.2
9.1
The Queen's Gambit
มินิซีรีส์ 7 ตอนที่เล่าเรื่องของเด็กหญิงกำพร้าที่หมกมุ่นในการเล่นหมากรุก หลงใหลมุ่งมั่นจนกลายเป็นนักหมากรุกอายุน้อยที่เก่งระดับโลก Anya Taylor-Joy สวมบทบาทได้น่าประทับใจ ในการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามตลอดรอดฝั่ง ดูสนุกได้แม้จะไม่ได้เล่นหมากรุกเป็นเลยก็ตาม