รีวิวซีรีส์ The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ | ขอต้อนรับสู่ป่า ล่าธุรกิจสีเทา

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยผ่านตากับเวอร์ชันภาพยนตร์มาแล้ว แต่ในปีนี้ กาย ริทชี่ นำเรื่องดังของตนเองมาสร้างใหม่ในฉบับซีรีส์ โดยมีตัวเขาเองเป็นผู้สร้าง ร่วมเขียนบทและกำกับในบางตอนด้วย และไม่ว่าคุณจะเคยติดตามในแบบภาพยนตร์หรือไม่ ครั้งนี้ คุณจะได้พบกับ ‘The Gentlemen’ ชื่อไทย ‘สุภาพบุรุษมาหากัญ’ แบบเต็มอิ่มกันซะที

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

ซีรีส์ที่ชื่อเดียวกับหนังดังของ กาย ริทชี่ ถูกนำมาปัดฝุ่นด้วยเรื่องราวและตัวละครกลุ่มใหม่ แต่ไม่ทิ้งความเป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยธุรกิจสีเทา เมื่อดยุคคนใหม่รับมรดกเป็นคฤหาสน์หลังงามที่ซ่อนธุรกิจกัญชาอยู่ใต้ดินที่บริหารงานด้วยลูกสาวของตัวเอ้ที่ติดคุกแบบอภิสิทธิ์ชนอยู่ ซีรีส์ใส่ตัวละครมามากมายแต่ทุกตัวก็ล้วนชั่ว เสียดสีความเป็นชนชั้นสูงที่หากินกับสิ่งผิดกฎหมาย และตัวละครที่เลวร้ายแต่อยู่ในคราบของนักบวช เรื่องราวที่เดินไปในแนวทางยียวนกวนบาทา เล่าถึงคนรวยที่ต้องการหาทางออกจากธุรกิจนี้ แต่ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งพบว่าตนกำลังถลำลึก

เรื่องเดินสนุกในทุกตอน จนกลายเป็นผลงานน่าจดจำของชายที่ชื่อกาย ริทชี่

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Gentlemen’

มันเป็นเรื่องราวของ เอ็ดเวิร์ด ‘เอ็ดดี้’ ฮอร์นิมันน์ (Theo James จากหนังเรื่อง ‘Divergent’ และซีรีส์ ‘The White Lotus’) อดีตทหารยศผู้กอง ที่ได้รับมรดกเป็นที่ดินและคฤหาสน์หลังงามจากผู้เป็นพ่อ ปาดหน้าพี่ชายขี้ยาไม่เอาถ่านอย่าง เฟดริก ‘เฟรดดี้’ ฮอร์นิมันน์ (Daniel Ings จากซีรีส์ ‘The Crown’ และ ‘Sex Education’) ซึ่งแน่นอนว่า มันทำให้พี่ชายไม่พอใจอย่างมาก แต่หลังได้รับมรดก เขาก็เพิ่งได้รู้ว่า พ่อของเขาปล่อยให้นักธุรกิจใช้พื้นที่ใต้ดินทำกัญชา อีกอย่าง เขาจำเป็นต้องใช้หนี้ให้กับพี่ชายที่ดันไปติดหนี้กับเหล่าโคตรโจร

น่าเสียดายนิดหน่อย ที่เอ็ดดี้มีพี่ชายจอมหาเรื่องใส่ตัว เพราะเฟรดดี้มักหาโจทย์รายใหม่มาให้น้องชายต้องปวดหัวแก้ไขปัญหาเก็บกวาดให้ไม่รู้จักหยุดหย่อน

ธุรกิจกัญชาที่เอื้อประโยชน์ให้กับเอ็ดดี้นั้นดำเนินการโดย ซูซาน ‘ซูซี่’ กลาส (Kaya Scodelario จากหนังเรื่อง ‘The Maze Runner’ และ ‘Crawl’) เธอทั้งเชี่ยวชาญและมีพ่อคอยเป็นที่ปรึกษาอย่างดีแม้เขาจะเป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่ในคุกก็ตาม

ในขณะที่เอ็ดดี้กำลังหาทางถอนตัวออกจากธุรกิจกัญชานี้ ก็มีเศรษฐีผู้มั่งคั่งอย่าง สแตนลี่ย์ จอห์นสตัน (Giancarlo Esposito จากซีรีส์ ‘Breaking Bad’ และ ‘The Mandalorian 2’) ที่สนใจอยากซื้อคฤหาสน์ของเขา สแตนลี่ย์เป็นพวกชอบตีสนิทกับชนชั้นสูง นั่นทำให้เขารู้จักกับเจ้าหญิงโรซานน์ (Gaia Weiss จากซีรีส์ ‘Vikings’ และ ‘Marie Antoinette’) ที่รู้จักมักจี่กับเอ็ดดี้มาก่อน

กลุ่มคนที่เอ็ดดี้จะเผชิญก็คืออาชญากรข้ามชาติที่เอาพระเยซูมาบังหน้า นำโดย ‘เดอะ กอสเปล’ จอห์น ดิกสัน (Pearce Quigley) และมันก็ไม่ใช่แค่นั้น ยิ่งเอ็ดดี้พยายามจะถอนตัวเท่าไหร่ แต่ก็ดูเหมือนเขาจะยิ่งถลำลึกลงไปทุกที

รีวิวซีรีส์ ‘สุภาพบุรุษมาหากัญ’

ซีรีส์เรื่องนี้ใช้ชื่อเดียวกันเป๊ะกับเมื่อตอนที่เป็นเวอร์ชันภาพยนตร์ ‘The Gentlemen สุภาพบุรุษมหากัญ’ ผลงานการกำกับของ Guy Ritchie มาหนนี้ กายก็หยิบงานเก่าของตนเองมาปัดฝุ่นใหม่ โดยใช้ตัวละครชุดใหม่ทั้งหมด พร้อมด้วยเรื่องราวใหม่ๆ สิ่งเดียวที่ยังไม่หลุดกรอบไปนั่นคือมันต้องวนเวียนเล่าเรื่องธุรกิจกัญชา

ศูนย์กลางเป็นตัวนำคู่ชาย-หญิง ที่หนึ่งเป็นราชนิกูล เอ็ดดี้ ดยุคคนใหม่แห่งคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ยอมให้ใช้ใต้ดินเป็นพื้นที่เพาะปลูกกัญชาซึ่งดูแลโดยซูซี่ กลาส ท่ามกลางความคิดจะถอนตัวออกจากธุรกิจนี้ แต่เขาก็ได้รับการติดต่อจากสแตนลีย์ผู้ต้องการซื้อคฤหาสน์ชาลสเตทพร้อมที่ดิน ความจริงในใจมหาเศรษฐีผู้นี้ อาจสนใจในธุรกิจสีเทาของเอ็ดดี้ซะมากกว่า

แม้เอ็ดดี้มุ่งหวังจะเอาพื้นที่เพาะปลูกสิ่งเสพติดออกไปจากใต้ดินบ้านตนเอง ทว่าในแต่ละวันของเขา เอาแต่ผูกติดอยู่กับซูซี่ กลาส รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดมาจากเฟรดดี้พี่ชายที่หามาให้ตลอดเวลา ทำให้เหมือนว่า การถอนตัวยิ่งยากขึ้นทุกที

ซีรีส์มีความเป็น กาย ริทชี่ อยู่อย่างเต็มเปี่ยม เป็นเรื่องที่เขาคิดถูกที่หยิบมันมาเขียนใหม่และสร้างให้มันเป็นซีรีส์ความยาว 8 ตอน มันมีกวนตีนอยู่ประมาณหนึ่ง ซึ่งพาให้คนดูอย่างเราๆ ได้หัวเราะหึ ๆ อยู่หลายช็อต พาให้ลุ้นได้เป็นระยะ ๆ และก็ต้องมีคนแล้วคนเล่าที่ถูกฆ่าจนกลายเป็นศพ

ซีรีส์ที่ตั้งใจจะเล่าเรื่องล้อเลียนเสียดสีชนชั้นสูงที่ครอบครองที่ดินและเงินส่วนใหญ่ของประเทศเรื่องนี้ เขียนบทให้มีตัวละครที่เลวร้ายแต่อยู่ในคราบของนักบวช ซึ่งบางคนก็ชอบเด็กหนุ่ม และบางส่วนก็หากินกับความรุนแรงและการปล้น ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้นายแพทรู้สึกชอบที่บทมักอวดความคลั่งไคล้รู้ลึกรู้เยอะในหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไวน์ รถยนต์ อาหารจีน แม้แต่อาหารฟาสต์ฟู้ดก็ตาม และใช่ ซีรีส์บอกเล่าถึงกระบวนการปลูกกัญชามาอย่างเบาๆ

มันเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยตัวละครที่สร้างสีสันให้กับเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลอตต์ ‘ชาร์ลี’ ฮอร์นิมันน์ (Jasmine Blackborow จากซีรีส์ ‘Shadow and Bone’) น้องสาวที่ชวนสงสัยของคุณแม่ซาบริน่า (Joely Richardson), เจฟฟ์ (Harry Goodwins) พ่อบ้านคนสำคัญของเอ็ดดี้, เฟลิกซ์ (Dar Salim) คนเก็บศพที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการกับศพได้อย่างเนี้ยบสุดๆ, เฮนรี่ คอลลินส์ (Max Beesley)​ เจ้าพ่อมวยผู้ชักชวนไปทำเรื่องที่เขาเชื่ยวชาญนั่นคือการฟอกเงิน, ริค (Gary Beadle) นักตกแต่งบัญชีที่เคยเป็นตำรวจ, จิมมี่ ชาง (Michael Vu) ลูกน้องของซูซี่ที่หัวใจอ่อนไหวและไร้เดียวสาต่อสาวสวยจนทำให้งานเสียหายตลอดๆ, กาเบรียล (Ruby Sear) สาวสวยคนที่จิมมี่คลั่งไคล้ เธอเป็นใครกันนะ กับ เมอร์ซี (Martha Millan) คนที่เอ็ดดี้แฝงตัวเพื่อจะไปขโมยรถนั่นแหละ

แล้วก็ยังมี แจ็ค กลาส (Harry Goodwins) น้องชายของซูซี่ที่เป็นนักมวยอะไรนั่น ก็สร้างเรื่องให้เอ็ดดี้ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งก็ส่งผลทำให้เอ็ดดี้ไม่สามารถจะออกไปจากวังวนธุรกิจสีเทาๆ นี่ได้สักที, บ็อบบี้ กลาส (Ray Winstone เพิ่งเจอเขาจากหนัง ‘Damsel’ ไปหมาดๆ) คุณพ่อนักวางแผนและจอมบงการที่ลูกสาวมักจะขอคำปรึกษาอยู่บ่อยๆ อ้อ ต้องไม่ลืมเหล่านักเดินทางที่เข้ามาทำให้พระเอกของเราต้องปวดหัวไปมิใช่น้อย

นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายต่อหลายตัวเลย ใส่เข้ามาในเรื่องจนทำให้มันเดินไปได้อย่างหลากหลายและสบายใจเฉิบ

เพื่อจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากพวกวายร้าย แต่เอ็ดดี้กลับต้องกลายเป็นผู้ร้ายซะเอง จากการช่วยสะสางเรื่องเล็กๆ และการเข้าไปยุ่งเรื่องที่ไม่ควรจะยุ่งก็กลับทำให้มันบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่

ต้องบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้ดูจะเข้ามือดีกับสไตล์การเล่าเรื่องแบบ กาย ริทชี่ แม้เขาจะต้องร่วมงานกับคนอีกมากมาย แต่ก็ไม่ทิ้งสไตล์การเล่าเรื่องกวนๆ ที่สร้างความอึ้งให้คนดูได้ตลอดๆ กับตัวละครเป็นสิบๆ ตัวที่ประโคมใส่เข้ามา ล้วนไม่ได้เป็นคนดีมีความเลวในตัว บทพูดที่มีความยียวน ดนตรีประกอบที่เข้ากันดีกับแนวทางการเล่า ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้พาคนดูสนุกได้มากมายทีเดียว และอาจเป็นอะไรแบบนี้แหละที่ผู้คนต้องการเห็นจาก กาย ริทชี่!

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์