รีวิวซีรีส์ The Frog หากไม้ล้มในป่าลึก… | โกมินซี สวยบ้าคลั่งนังโรคจิต!

หลายครั้งหลายคราว ที่คนเราก็มักต้องเลือกทำบางสิ่งเมื่อเจอปัญหาบางอย่าง และการเลือกของเขาก็อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ติดตามมา แม้อาจเป็นสิ่งที่เขาเชื่อว่าเลือกได้ดีแล้ว แต่ก็กลับพบปัญหาพาปวดหัวที่ตามมาเป็นพรวน อย่างเช่นตาลุงใน ‘The Frog’ หรือชื่อไทย ‘หากไม้ล้มในป่าลึก…’ เพราะแกช่วยฆาตกรกลบเกลื่อนร่องรอยฆาตกรรม แต่ปัญหาคือเธอกลับมาอีกครั้ง

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

ซีรีส์เกาหลีความยาว 8 ตอนแนวลึกลับระทึกขวัญ ที่เล่าเรื่องของลุงเจ้าของรีสอร์ตริมทะเลสาบกลางป่า ที่ต้องรับมือกับลูกค้าฆาตกรสาวสวยที่เขาเคยช่วยกลบเกลื่อนร่องรอยให้ แต่เธอดันกลับมาพักอีกครั้งแถมยังจะยึดพื้นที่ของเขาอีก การตัดสินใจพึ่งพาตนเองของลุงพาให้คนดูรู้สึกขัดใจเล็กๆ แต่ก็เอาใจช่วยอยู่หน่อยๆ แม้บางช่วงจะรู้สึกว่า ซีรีส์มันค่อนข้างเดินช้า แต่เอาจริงๆ มันก็มีเรื่องราวที่ชวนให้รู้สึกน่าติดตามอยู่ไม่น้อยนะ

แค่อาจจะขัดใจอยู่บ้างกับเสียงพูดที่ซ้ำไปซ้ำมาทุกตอนหน่อยนึงเท่านั้นเอง

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Frog’

ช่วงเวลาปัจจุบัน จอนยองฮา (Kim Yun Seok/คิมยอนซอก จากหนัง ‘Escape from Mogadishu’) ชายผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ตตากอากาศกลางป่าลึก ที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบและภูเขา ชีวิตที่แสนสงบของเขาผ่านไปอย่างสโลว์ไลฟ์กับรีสอร์ตที่ดำเนินงานด้วยคนเพียงคนเดียว แต่ความสงบนั้นกลับต้องถูกสั่นคลอน เมื่อ ยูซองอา (Go Min Si/โกมินซี จากซีรีส์ ‘Jirisan’) ลูกค้าหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งเดินทางเข้ามาพัก

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2000 คูซังจุน (Yoon Kye Sang/ยุนคเยซัง จากซีรีส์ ‘The Good Wife’) ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว เขากับภรรยาดำเนินกิจการโมเต็ลที่พักในพื้นที่เดียวกันกับยองฮา และเขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในพริบตา หลังรับฆาตกรต่อเนื่องเข้ามาแล้วก่อเหตุฆ่าคนในโมเต็ล เมื่อที่นั่นถูกเรียกว่าเป็นโมเต็ลฆาตกร ลูกค้าหายและต้องเลิกกิจการไปในที่สุด แต่ในช่วงเวลานั้น ก็มีตำรวจหญิงคนใหม่ ยุนโบมิน (Lee Jung Eun/อีจองอึน จากซีรีส์ ‘Miss Night and Day’) ที่ย้ายเข้ามาประจำการยังสถานีที่ใกล้กับโมเต็ลดังกล่าว

20 ปีถัดมา โมเต็ลเดิมถูกทิ้งร้าง ขณะที่รีสอร์ตตากอากาศกำลังดำเนินกิจการ ส่วนยุนโบมินจะย้ายกลับยังสถานีเดิมอีกครั้ง เริ่มทำงานในฐานะหัวหน้าสายสืบ และติดตามสืบหาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในรีสอร์ตของจอนยองฮาอย่างใกล้ชิด

รีวิวซีรีส์ ‘หากไม้ล้มในป่าลึก…’

แรกเริ่มนั้นก็ชวนให้สงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องอะไรกันแน่ จนเมื่อผ่านไป มันก็เริ่มแน่ชัดแล้วว่า บทเล่าสลับไปใน 2 ช่วงเวลา ช่วงอดีตที่สองผัวเมีย คูซังจุน และอึนกยอง ที่มีลูกชายกีโฮ ช่วยกันรันกิจการโมเต็ดเลควิว และรับลูกค้านามจีฮยังชอล ผู้ที่ต่อมาถูกจับกุมในฐานะฆาตกรต่อเนื่อง แต่ผลของการแจ้งตำรวจ ทำให้สังคมรู้กันทั่ว กิจการจึงซบเซาและต้องปิดกิจการไป

อีกช่วงเวลา เรียกว่าเป็นเวลาปัจจุบันก็แล้วกัน พื้นที่ที่เดิมเป็นโมเต็ล ตอนนี้กลายเป็นรีสอร์ตตากอากาศของ จอนยองฮา ที่ดูแลทั้งหมดคนเดียว โดยอาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อน และพ่อหนุ่มกิจการซักรีดที่อยู่ใกล้เคียง

ปีก่อน รีสอร์ตของยองฮาได้ต้อนรับลูกค้า 2 แม่ลูก (ที่จริงๆ ไม่ได้เป็นแม่ลูกกัน) ก่อนที่วันถัดมา เด็กถูกฆ่าแต่ไร้ศพ ยองฮาพบเพียงร่องรอยที่ถูกลบแต่หลงเหลืออยู่ เขารู้อยู่แก่ใจว่าใครฆ่าเด็ก แต่ก็เลือกจะปิดเงียบแล้วดำเนินกิจการต่อไป โดยที่ไม่คาดคิดว่า ฤดูร้อนหน้า ลูกค้าคนเดิมจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งยังคิดจะยึดครองรีสอร์ตนี้ไปเป็นของตนเองอีกต่างหาก ในเมื่อลุงยองฮาไม่ยอมขาย เธอก็จะกลับมาที่นี่ทุกหน้าร้อนเป็นเวลา 1 เดือน ขับรถซูเปอร์คาร์เปิดประทุนมายึดพื้นที่ วาดภาพ ทำตัวเป็นจิตรกร ซื้อต้นไม้มาวาง ยึดพื้นที่จะเอาเป็นของตนให้ได้ ว่างั้น

บทของซีรีส์พยายามจะบอกเราถึงการเลือกกระทำที่แตกต่างกันของสองเจ้าของพื้นที่ คนหนึ่งเลือกจะแจ้งตำรวจแต่ส่งผลให้กิจการซบเซา ขณะที่อีกฝาก เลือกจะปกปิดไม่ให้ตำรวจล่วงรู้แถมยังเช็ดเลือดทุกหยดอีกต่างหาก นึกว่าจะรอดพ้นไปได้ แต่กลับเจอว่าฆาตกรคนสวยกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ลุงยังต้องระวังนังบ้านั่นมาเอาชีวิตลูกสาว อึยซอน (Roh Yoon Seo/โนยุนซอ ที่ได้เล่นรับเชิญในซีรีส์ ‘Love Next Door’) ที่เป็นเภสัชสุดสวยของเขาอีกด้วยนะ

เอาๆ จริง ‘หากไม้ล้มในป่าลึก…’ ก็เป็นซีรีส์ที่ถ่ายภาพสวยดีนะ เปิดฉากต้อนรับคนดูด้วยภาพจากโดรนที่บินเข้าไปในป่าและรีสอร์ต จากนั้นก็เล่าสลับไปมาระหว่างเหตุอดีตกับปัจจุบัน หลายครั้งเลยแหละที่เล่นความฝัน ตัวละครเจ้าของพื้นที่พัก ต่างก็เจอกับเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในกิจการของตน เลยอาจหลอนอยู่กลายๆ ว่าจะต้องเจอกับอะไรเข้าอีก แต่การเล่นหลายครั้งก็อาจจะทำให้ผู้ชมรู้สึกซ้ำซากไปได้เหมือนกันนะ

บทค่อนข้างมีตัวละครเยอะแยะตามรายทาง บางคนก็ไม่ได้มีบทบาทอยู่ในเรื่องนานนัก และบางตัวก็โผล่มาแค่บางช่วงแต่ก็มีบทบาทสำคัญ อย่างเช่น คิมซอนแท และ คูกีโฮ เป็นต้น แต่ตัวละครที่โดดเด่นสูงสุดของเรื่อง ก็คงจะเป็นลุงยองฮาและสาวสวยโรคจิตนามซองอา ที่ฟาดฟันกันอย่างไม่ลดละเลยเชียวล่ะ

สำหรับ โกมินซี เรื่องนี้ ด้วยบท คอสตูมและการแต่งหน้า ส่งให้เธอกลายเป็นหญิงสาวลึกลับที่เล่นได้มีเสน่ห์ เย้ายวนแบบจิตๆ ทั้งใช้ความรุนแรง และมีอารมณ์ศิลปิน เพราะเธอเป็นทั้งฆาตกรและจิตรกรในคนๆ เดียวกัน ลีลาท่าทาง เล่นหูเล่นตา เรียกได้ว่าโปรยเสน่ห์ให้ล้นจนมาถึงคนที่นั่งดูอยู่หน้าจอ

ขณะเดียวกัน คนดูก็อาจจะรู้สึกก้ำๆ กึ่งๆ ว่าจะเอาใจช่วยลุงดีมั้ย ให้ลุงรอดพ้นไปจากบ่วงกรรมที่ต้องมาร่วมชายคากับสาวฆาตกรโรคจิตรายนี้ แต่เพราะพฤติกรรมของลุงเองที่หาเรื่องได้ถูกคนอย่างมาก แถมดันเลือกปกปิดฆาตกรรมเพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็เงียบก็ซาไป หารู้ไม่ว่า เธอดันกลับมาให้ต้องปวดหัวซ้ำอีกหน

ยังไงก็ดี ซีรีส์เขาไม่ลืมที่จะเล่าถึงตัวละครสำคัญอย่างตำรวจสาวมือใหม่ในวันเก่า ที่มีนายตำรวจรุ่นพี่ที่มองเห็นแววจนชักชวนเธอมาทำงานด้านอาชญากรรม และเพราะความที่มีสัญชาตญาณการในมองหาร่องรอยเข้าขั้นเฉียบคม เธอคือได้รับฉายา “ผู้ล่า” มาครอบครอง และครั้งนี้ คนดูก็เชื่อว่า เธอมองเห็นอะไรอยู่แหละ แต่จนแล้วจนรอด คนดูก็รอลุ้นอยู่ว่าเธอจะโผล่มาเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าโผล่มาก็แปลว่า คดีมันใกล้จบแล้วล่ะสิ

ทีนี้มาว่ากันที่ชื่อซีรีส์กันบ้าง แม้จะใช้ชื่อไทยที่เข้ากับคำพูดที่พร่ำอยู่ในทุกตอนเรื่องไม้ใหญ่ล้ม แต่ความหมายในชื่ออังกฤษนั้นแปลว่า “กบ” มันเป็นคำที่ใช้เปรียบเปรยกับคนที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง เอาแต่ยอมโดนปาหินเข้าใส่ และเฝ้าโทษตัวเองซ้ำๆ ว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขา มันก็คงเหมือนกับลุงที่ยอมจะปล่อยเรื่องราวในเลยผ่านไป มีฆาตกรรมในรีสอร์ตก็ช่วยกลบเกลื่อน ฆาตกรกลับมาหมายจะยึดพื้นที่ก็ไม่เคยแจ้งบอกใคร

แต่ถ้าใครที่ดูมาถึงตอนสุดท้าย ก็คงได้เห็นว่า ลุงได้รับบทเรียนอย่างไร และสุดท้ายแล้ว เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจากความเป็นกบได้หรือไม่นั่นเอง

หลายคนว่า ซีรีส์มันเดินอย่างเชื่องช้า บ้างก็ว่ามันสมควรแก่เรื่องราวแล้ว แต่ใดๆ ก็คงต้องบอกว่า ผู้คนสามารถเดินตามจนจบเรื่องได้แน่ เพราะหนึ่งคือเสน่ห์เหลือล้นกับลีลาการแสดงที่เข้าถึงและโดนใจของโกมินซี สองก็คือ แม้จะมันเดินช้าไปบ้าง แต่หลายครั้งมันพลิกผัน บอกเล่าถึงการโต้กลับกันไปมาของตัวละคร ที่ทำให้ผู้คนยังเลือกติดตามต่อเพื่อจะได้ล่วงรู้ผลลัพธ์ในบั้นปลาย

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์