ในบรรดาซีรีส์ที่มีฉายบริการของ Netflix ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ยินชื่อมาเนิ่นนานที่ปล่อยผ่านมาหลายเดือนจนกลายเป็นปี ในที่สุด เมื่อมันดำเนินมาจนถึงซีซันที่ 4 ก็คิดว่ามันคงถึงเวลาเสียทีที่จะหยิบมาดู และด้วยหลายเหตุผล การดูของผมก็มีอันต้องหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะได้โอกาสกลับมาเปิดอีกครั้ง การจะเขียนถึงซีรีส์เรื่อง ‘The Crown’ คงต้องเริ่มต้นและดำเนินไปทีละซีซัน
เรื่องที่เกิดขึ้นในสถาบันกษัตริย์ ในราชวงศ์แห่งอังกฤษ นอกจากจะได้รับรู้เรื่องราวภายในสำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษามามากพอแล้ว ก็ยังได้เห็นการดำรงอยู่ ความสัมพันธ์ภายในวังและความเกี่ยวเนื่องกับหลายสิ่งหลายอย่างภายนอกอีกด้วย
เป็นซีรีส์ที่มีความละเอียดอ่อนทั้งในการสร้างและการเล่าเรื่องราวจริงๆ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Crown Season 1’
เรื่องราวที่เล่าย้อนไปตั้งแต่ควีนยังไม่เป็นควีน เอลิซาเบธ (Claire Foy จากหนัง ‘The Girl in the Spider’s Web’, ‘First Man’ และ ‘Breathe’) และ มาร์กาเร็ต (Vanessa Kirby จากหนัง ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’, ‘Mission: Impossible – Fallout’ และ ‘Me Before You’) คือสององค์หญิงพี่น้องผู้เป็นธิดาในพระเจ้าจอร์จที่หก (Jared Harris) ในวาระสุดท้ายที่ไม่มีผู้ใดแจ้งบอกถึงอาการป่วยของพระองค์ องค์หญิงคนโตจำต้องออกไปปฏิบัติภารกิจแทนในการเสด็จเยือนดินแดนในเครือจักรภพอังกฤษ ก่อนจะได้รับรู้ข่าวการสวรรคตและกลับประเทศอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการงานศพและรับตำแหน่งราชินี
นั่นจึงเป็นเวลาการขึ้นครองราชย์ของ ควีนเอลิซาเบธที่สอง ผู้มีศักดิ์และสิทธิ์เหนือกว่าสามีอย่างเจ้าชายฟิลิป (Matt Smith จากหนังเรื่อง ‘His House’, ‘Official Secrets’ และ ‘Pride and Prejudice and Zombies’) ชายผู้มีที่มาจากราชวงศ์อื่นของประเทศอื่น
เรื่องราวในราชวงศ์ที่นำมาจากเรื่องจริง อาจผ่านการปรุงแต่งเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม และหลายครั้งก็ดูมิค่อยประนีประนอมกับบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษสักเท่าไหร่
รีวิวซีรีส์ ‘เดอะ คราวน์ ซีซัน 1’
ในเรื่องนี้ จะทำให้เราได้รู้จักกับชายผู้มาจากที่อื่น ก่อนจะเป็นเจ้าชายฟิลิป หรือ ดยุคแห่งเอดินบะระ ก่อนจะก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์วินเซอร์ ต้องต่อสู้ดิ้นรนในฐานะของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ความไม่ลงรอยกับภรรยาและเหล่าขุนนาง ความพยายามในการสร้างและตกแต่งบ้านของตนเอง ความกะตือรือล้นจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการในงานราชาภิเษกของเอลิซาเบธ ความฝักใฝ่อยากจะเป็นนักบินแม้ชีวิตจะเต็มไปด้วยคนคอยรับใช้ ทำให้เราได้รู้จักกับความสัมพันธ์ระหว่าง มาร์กาเร็ต องค์หญิงคนเล็กกับชายผู้ซึ่งทำงานอยู่ในรั้วในวัง ทำให้เราได้รู้ถึงอาการป่วยด้วยพิษภัยจากโรคปอดที่คร่าชีวิตคิงและควีนพระองค์ไป
ทั้งยังได้เห็นถึงความคิดเห็นและการกระทำของบุคคลต่างๆ ที่เราไม่เคยได้รับรู้มาก่อน
ในแต่ละตอนนี่จะมีความชัดเจนในปมสำคัญของมันเอง สองสามตอนแรกนี่จะเป็นเหมือนการแนะนำตัวละครต่างๆ และเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความสูญเสียพระบิดาของสององค์หญิงและการขึ้นเป็นควีนเอลิซาเบธที่สอง จากนั้นก็เล่าเรื่องในระหว่างการดำรงตนอยู่ภายใต้ เดอะ คราวน์ ของราชินีผู้เยาว์วัยพระองค์ใหม่ กับเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับคนที่รายรอบ
สิ่งที่เราเห็นได้ชัดในช่วงเวลานั้นก็คือ ราชวงศ์อังกฤษนั้นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเชื่อมโยงกับรัฐบาลอย่างแนบแน่น ในช่วงเวลานั้น นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เป็น วินสตัน เชอร์ชิล ชายชราผู้เชื่อมั่นและสนิทสนมกับพระเจ้าจอร์จผู้ล่วงลับ เขายังคงยึดยื้อตำแหน่งของตัวเองและรอจนกว่าราชินีองค์ใหม่จะพร้อมจึงตัดสินใจลงจากตำแหน่ง
ซีรีส์จะเล่าเรื่องราวที่ค่อยๆ เคลื่อนไปยังอนาคต ตามแต่ว่าจะมีเหตุการณ์ใสที่สำคัญจนหยิบจับมาเล่าได้ ทั้งยังหยิบเอาเหตุการณ์ในอดีตมาแทรกใส่ในช่วงแรกเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องมายังปัจจุบันเฉพาะในส่วนที่จะเกี่ยวพันกับปมในตอนนั้นๆ
ตัวละครที่นับว่าโดดเด่นอีกคนหนึ่งก็คงจะเป็น วินสตัน เชอร์ชิล (John Lithgow) ชายชราที่ยังไม่ยอมลงจากเก้าอี้หากยังไม่มั่นใจในเอลิซาเบธ เขาเล่นเป็นชายผู้ดื้อดึงแต่เคารพในพระเจ้าจอร์จที่หกอย่างสูง มองดูแล้วอดนึกเปรียบเทียบกับบ้านเมืองเราไม่ได้
สิ่งที่เป็นคำถามชวนฉุกคิดในใจของผู้ชมนั้นมีแทรกซึมอยู่มากมาย พระราชินีผู้ทรงรู้สึกว่าตนมิได้รับการศึกษาเทียบเท่ากับสามัญชน ได้รับเพียงการศึกษาที่เพียงพอสำหรับการเป็นราชวงศ์ ทำให้รู้สึกเป็นเบี้ยล่างยามปะทะคารมกับรัฐมนตรีหรือแม้แต่ราชเลขาฯ หลายครั้งที่กษัตริย์ทำหน้าที่เชิงทูต เชิงสัญลักษณ์ เพื่อปกครองเครือจักรภพ ถวายคำแนะนำต่อนายกรัฐมนตรี มีอิทธิพลบางส่วนต่อรัฐบาล แต่ทั้งหมดยังต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
อีกมุมหนึ่ง ราชวงศ์นั้นดำรงอยู่ได้ด้วยเปลือกที่ห่อหุ้ม ภายในก็คือมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่มีหัวจิตหัวใจ ความรู้สึกทั้งด้านดีและด้านร้าย มีครอบครัว มีญาติพี่น้อง มิได้แตกต่างไปจากสามัญชน
พระราชินีจำต้องผิดใจไม่ลงรอยกับพระกนิษฐา เธอบอกว่าการเป็นกษัตริย์ต้องไม่ทำตัวให้กลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ทำให้ใครผิดใจ ไม่อาจแสดงความเป็นตัวเองให้โลกเห็น หลายครั้งต้องทำตามที่รัฐบาลบอก ทุกสิ่งที่ส่งออกไปล้วนฉาบทาด้วยภาพลักษณ์ คนที่ยืนอยู่ในจุดนั้นจึงทั้งน่าอิจฉาและน่าสงสารปะปนกัน
ความลำบากใจในฐานะที่เป็นทั้งพระราชินีของคนทั้งประเทศ และเป็นทั้งพี่สาวของน้องที่รักกับสามัญชน เป็นทั้งภรรยาของสามีที่รู้สึกต่ำต้อยกว่า ทำให้ตอนท้ายของซีซัน เหมือนเอลิซาเบธเหมือนตัวคนเดียว ไม่เหลือใครที่ยืนอยู่เคียงข้าง
…ช่างเป็นภาพที่น่าเศร้าใจไม่น้อยเลย
ชื่อซีรีส์: The Crown / เดอะคราวน์
ผู้สร้าง: Peter Morgan
นักแสดงนำ: Claire Foy, Matt Smith, Victoria Hamilton, Vanessa Kirby, John Lithgow, Ben Miles, Jared Harris
แนว/ประเภท: Drama, History
ซีซั่น: 1
จำนวนตอน: 10
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: 4 พฤศจิกายน 2016
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: Left Bank Pictures, Sony Pictures Television Production UK, Netflix, Sony Pictures Home Entertainment
เดอะ คราวน์ ซีซัน 1
บทและพล็อต - 8.5
การแสดง - 8.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
การดำเนินเรื่อง - 8.6
การถ่ายภาพ - 8.3
8.3
The Crown Season 1
เริ่มต้นที่ซีซันแรกของซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวภายในสถาบันกษัตริย์ของสหราชอาณาจักร ย้อนไปในช่วงเวลาแรกเริ่มครองราชย์ของพระราชินีเอลิซาเบธที่สอง ที่ยังทรงพระเยาว์และต้องเติบโตผ่านเรื่องราวต่างๆ นานาทั้งนอกและในครอบครัว ในฐานะพระราชินีของเครือจักรภพ งานสร้างที่ทำได้เนี้ยบ เดินเรื่องได้ไม่สะดุด มีสีสันและชวนติดตาม ซีซันที่ต้องดูให้จบก่อนจะไปต่อในซีซันถัดๆ ไป