รีวิวซีรีส์ The Book of Boba Fett คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟ็ตต์ | ภาคแยกที่แฟนต้องอิ่มเอม

ยอมรับว่าตัวเองเป็นแฟน Star Wars แต่ไม่ได้ถึงขั้นเข้าเส้นขนาดนั้น เลยอาจไม่ได้ติดตามทุกสิ่งที่เกี่ยวกับมัน กระนั้น ก็ยังพยายามหาเวลาและโอกาสนั่งดูซีรีส์ ‘The Book of Boba Fett’ ชื่อไทย ‘คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟ็ตต์’ อยู่ ในที่สุด ก็ได้ดูเรื่องราวของโบบ้ากันเสียที อีกหนึ่งคาแรกเตอร์ที่แฟนสตาร์วอร์สจดจำ กับนักล่าในชุดเกราะที่ใกล้เคียงกับแมนโด้ในซีรีส์ ‘The Mandalorian’ คนนั้น

ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงเป็น Jon Favreau เจ้าเดิมที่เป็นผู้สร้าง เขาร่วมลงมือเขียนบทเองด้วยในบางตอน อารณ์ในนั้นก็จะมีกลิ่นคล้ายและใกล้เคียงกับที่รู้สึกในแมนโด้ โดยมีนักแสดงหลักอย่าง Temuera Morrison และ Ming-Na Wen รับหน้าที่โบบ้า เฟตต์ และเฟนเนค แชนด์ ตามลำดับ

เอาเป็นว่า เรามาเริ่มกันเลยแล้วกัน

เรื่องย่อซีรีส์ The Book of Boba Fett

โบบ้า เฟตต์ (Temuera Morrison) ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังรักษาตัวอยู่ในแทงก์น้ำ ในระหว่างหลับลึกอยู่ในนั้น เขาฝันถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ผ่านพบ เขารอดตายจากการถูกย่อยในท้องของหนอนทราย และผ่านชีวิตที่ระหกระเหินบนดวงดาวทะเลทรายที่มีชื่อว่า ทาทูอีน ได้พบกับสหายหญิงนาม เฟนเนค แชนด์ (Ming-Na Wen) ที่กลายมาเป็นมือขวา ร่วมกันปกครองมอส เอสปา (Mos Espa) ที่เรียกตำแหน่งนั้นว่า ไดเมียว

การปกครองที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย หลังสิ้น แจ๊บบ้า เดอะ ฮัท เขตแดนนี้ก็มีหลายฝักหลายฝ่ายที่คานอำนาจกันอยู่ อดีตนักล่าค่าหัวที่ผันตัวมาเป็นเจ้าพ่อจำต้องปรับตัวในหลายด้าน เขาไม่ต้องการปกครองด้วยอำนาจและความกลัว ทั้งยังต้องป้องกันตัวจากพวกไพก์ที่รุกรานพร้อมเข้ามาหากินด้วยเม็ดเงินมหาศาลจากการค้าขายผลเสพติดสไปซ์

และนั่นก็คือ เรื่องย่อของซีรีส์ภาคสปินออฟเรื่องนี้

รีวิวซีรีส์ คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์

ซีรีส์เล่าเรื่องของ โบบ้า เฟตต์ [อิงตามซับใน Disney+ แต่ใจจริง เราชอบเรียกว่า โบบา เฟตต์ มากกว่านะ] ว่าเขารอดชีวิตออกมาจากกระเพาะของหนอนทะเลทรายซาแล็กได้อย่างไร และเขามีชีวิตอย่างไรหลังจากนั้น สลับกันไปกับเหตุการณ์ในช่วงที่พวกเขาเข้ามาปกครองเขตมอส เอสปา ขณะยังรักษาตัวอยู่ เรื่องราวในช่วงแรกจึงค่อนข้างอืดเนือยอยู่สักหน่อย อีกทั้ง ถ้าไม่ใช่แฟนของจักรวาล Star Wars ก็อาจมีมึน เพราะซีรีส์ไม่ได้กล่าวย้อนอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมมากพอ ผู้ชมจำเป็นยิ่งที่ต้องเรียนรู้โลกในหัวของจอร์จ ลูคัส มาอย่างน้อยก็ควรผ่านประสบการณ์จาก ‘The Mandalorian’ และ ‘The Mandalorian Season 2’ เพราะเรื่องราวมันเกี่ยวก้อยกันอยู่

ชุดเกราะของโบบ้า เฟตต์ ก็เหมือนจะถูกขัดสีให้ดูดีขึ้นมาแล้ว ขณะที่ความสงสัยในใจแฟนสตาร์วอร์สก็ได้รับการคลี่คลาย เมื่อได้รู้ว่า ร่างโคลนวัยเด็กของแจงโก้ เฟตต์ ผู้นี้ไม่ได้เสียชีวิตใน ‘Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi’ แต่ทว่า เขาเอาตัวรอดออกมาได้ และดำรงอยู่บนดาวทาทูอีนในฐานะไดเมียว

ทว่าการดำรงอยู่ที่นี่ เขาต้องพบเจอกับเหล่าทัสเคนมนุษย์ทรายที่วีรกรรมช่วยให้เขากลายเป็นสหายคนสำคัญ ประสบเหตุหนักหนาจนต้องรักษาตัวให้หายดี ทั้งเขาต้องรับมือและถ่วงดุลอำนาจในเขตที่ปกครองไปพร้อมกัน คนดูก็ด้วย ต้องสลับโหมดตามเรื่องให้ทัน ว่าตอนนี้ อยู่ในช่วงอดีตนะ โบบากำลังฝันอยู่ พอโบบาตื่น เขากำลังอยู่ในปัจจุบัน ที่ต้องรับมือรอบด้านนะ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็คงถึงเวลาที่สองไทม์ไลน์เดินมาบรรจบกัน

เขตแดนมอส เอสปา ถูกปกครองแบบกดขี่มายาวนาน เมื่อผู้ทรงอำนาจคนเก่าสิ้นไป กลุ่มอำนาจรองๆ ย่อมอยากจะเข้ามาแทนที่ อดีตนักล่าค่าหัวผู้เคยรับใช้ดาร์ธเวเดอร์คอยจัดการฮาน โซโล คิดจะผันตัวมาสร้างพระเดชพระคุณโดยไม่ใช้อำนาจและความกลัว ย่อมไม่ใช่หนทางที่ง่ายดาย เรื่องราวในพาร์ทของการเป็นเจ้าพ่อจึงออกแนวการเมืองนั่งโต๊ะเจรจาจนอาจดูเหมือนมีฉากแอคชั่นน้อย ทำให้ดูอืดเนือย ไม่ค่อยตื่นตา แต่ก็นั่นแหละ ผ่านมาถึงตอนที่ห้า กราฟความสนุกก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

เมื่อเรื่องราวเริ่มเชื่อมต่อกับซีรีส์ ‘The Mandalorian’ ผู้คนที่ติดตามมาก่อนก็เหมือนจะรู้สึกสมใจที่การรอคอยเป็นผล โบบา เฟตต์ ประสานมือกับแมนโด้ พร้อมด้วยตัวละครและ Easter Egg ที่แฟนสตาร์วอร์สคุ้นเคยค่อยๆ กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง เรื่องราวในตอน 6-7 จึงกลายเป็นพีคสุดอย่างปฏิเสธไม่ได้

สำหรับแฟนานุแฟนของจักรวาลสตาร์วอร์ส หลังดูโบบา เฟตต์ จบแล้ว ก็คงได้รับข่าวดีกันแล้วสิว่า 25 พฤษภานี้ Disney+ จะพาลิมิเต็ดซีรีส์เรื่องใหม่ของคาแรกเตอร์ที่รักและรอคอย Obi-Wan Kanobi ว่าแล้วก็ตั้งตารอกันได้ตั้งแต่บัดนี้เลยท่านผู้อ่านทุกคน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์