สำหรับคนที่ชื่นชอบเสียงเพลง การได้ดูซีรีส์ที่เล่าเรื่องรักที่เดินไปพร้อมๆ กับพล็อตเกี่ยวกับเพลง มันคงเป็นสุขอีกรูปแบบหนึ่ง วันนี้ นายแพทจะเขียนถึงมินิซีรีส์จำนวน 6 ตอนที่พูดถึงตัวละครที่ผูกพันกันไว้ด้วยเสียงของเปียโน ซีรีส์เกาหลีเรื่อง ‘Soundtrack #2’ ที่สตรีมอยู่ทาง Disney+ Hotstar นั่นเอง
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ส่วนตัวแล้ว ชอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเพลงและดนตรีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เรื่องนี้เขาเล่าเรื่องของแฟนเก่าๆ ที่เคยจนมาด้วยกัน ก่อนจะเลิกราด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ได้กลับมากันอีกครั้งในสถานะที่แตกต่างไป ฝ่ายชายร่ำรวย แต่ฝ่ายหญิงยังคงสิ้นหวังกับสิ่งที่รัก แถมยังมีนักแต่งเพลงมือดีอีกคนเข้ามาเป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ มันมีความอบอุ่นมากกว่าความเจ็บปวดหน่อยๆ แม้สองตัวละครต่างมีปมในใจ
แต่เพลงที่พวกเขาทำร่วมกัน ดนตรีที่ประกอบเรื่อง ทุกอย่างดูอบอวลกำลังดีเลยแหละ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Soundtrack #2’
มันเป็นเรื่องของ โดฮยอนซอ (Keum Sae Rok/กึมแซรก จากซีรีส์ ‘Youth of May ในความทรงจำที่ควังจู’ และ ‘The Interest of Love เมื่อเราเข้าใจรัก’) หญิงสาวที่ทั้งชื่นชอบและเก่งกาจในเรื่องการเล่นเปียโน เธอเคยเปิดสอนเปียโนให้กับเด็กๆ แต่ก็มีความคิดที่จะเลิกสอนเพราะรู้สึกว่า “สอนไปก็ไม่เห็นจะรวยขึ้นมาเลย” เธอหาเงินด้วยการเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ส่งอาหารและมีความคิดที่จะเปิดร้านตอกบกกี แต่ชีวิตเธอกำลังพลิกผันอีกครั้ง
จีซูโฮ (Noh Sang Hyun/โนซังฮยอน จากซีรีส์ ‘Pachinko’ และ ‘Behind Every Star ผู้จัดการซุปตาร์ว้าวุ่น’) เขากำลังรุ่งกับการทำธุรกิจ เขาเปิดบริษัทชื่อเพลย์อิงที่ดูแลบรรดายูทูบเบอร์ แต่ร่างกายเขากำลังเกิดอาการเบิร์นเอาต์ มีเสียงวิ้งๆ ในหู หมอแนะนำให้เขาพักผ่อน ไม่ก็หาทางเรียนดนตรี เพื่อนตัวดีของเขานั่นแหละที่ชักนำให้เขากลับมาเจอกับ ฮยอนซอ ครูสอนเปียโนที่เคยบังเอิญเป็นแฟนเก่าของซูโฮ
ทั้งสองคนเคยพบกันระหว่างเล่นดนตรีด้วยกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย คนหนึ่งเป็นนักร้องและอีกคนเป็นมือคีย์บอร์ด สองคนตกหลุมรักกัน และเป็นแฟนกันนานหลายปี แต่หลังจบการศึกษา ความกดดันในชีวิตจริงพัดพาทั้งสองสู่ความยุ่งยากและก็ถึงวันเลิกรา หลายปีต่อมา ทั้งสองจึงได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
แต่คราวนี้มีอีกคนมาเป็นบททดสอบ เขาคือ เค (Sohn Jeong Hyuck/ซอนจองฮยอก นี่คือผลงานซีรีส์เรื่องแรกของเขา) หนุ่มนักดนตรียูทูบเบอร์ที่ซูโฮสนใจอยากร่วมงานด้วย เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ ขอเชิญเปิดดูตามอัธยาศัย
รีวิวซีรีส์ ‘Soundtrack #2’
แว้บแรกของซีรีส์ 6 ตอนเรื่องนี้ คือ มองเห็นว่าความยากจนนั่นเองที่ทำให้ความรักมันพังไปในวันเก่า สองพระนางต่างก็เคยลำบากมาด้วยกัน แต่เพราะการถูกฝ่ายหญิงบอกเลิกในวันนั้น ทำให้ฝ่ายชายวาดหวังให้เธอมีชีวิตที่ยากลำบาก วันนี้ สถานะของสองคนแตกต่างไป คนหนึ่งร่ำรวยแล้ว แต่อีกคนยังคงยากจน
ความฝัน ความสำเร็จ และสถานะทางการเงิน
ซูโฮกลายเป็นเจ้าของบริษัทที่เป็นความฝันของเหล่ายูทูบเบอร์ ร่ำรวยมีซูเปอร์คาร์ใช้ตั้งหลายคัน ขณะที่ฮยอนซอ เธอใกล้จะเลิกสอนเปียโนให้กับเด็กๆ สิ้นหวังกับดนตรีที่เคยหลงรัก เน้นทำงานพาร์ทไทม์ขี่มอไซค์ส่งของ กับช่วยพี่สาวอีกคนทำร้านอาหาร และวาดหวังจะมีร้านตอกบกกีเป็นของตนเอง
ในความรู้สึกของซูโฮ เขาบอกว่าฮยอนซอดูถูกความฝันของเขา ขณะที่ต่อมา ฮยอนซอสิ้นหวังกับความฝัน ก่อนที่โชคชะตาจะพาให้สองคนกลับมาเจอกัน เหตุเพราะอาการได้ยินเสียงในหูทำให้ซูโอต้องพึ่งพาหมอเพื่อช่วยแก้ไข หมอแนะนำให้เขาพักผ่อน ไม่ฟังเพลงร็อกหนักๆ และหนทางหนึ่งก็คือการเรียนดนตรี ที่มาของการเจอกันอีกครั้งแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่การกลับมาเจอกันครั้งนี้ ก็มีอีกคนที่เข้ามาแทรกกลางด้วย เขาคือ เค ชายหนุ่มที่เป็นทั้งนักดนตรี นักร้อง และนักแต่งเพลง เขาทำได้ทุกอย่างและมีช่องทางนำเสนอตัวเองเป็นรายการให้ยูทูบ เมื่อซูโฮเห็นก็ชอบใจอยากทำโปรเจกต์ด้วย จึงชักชวนมาโดยไม่ทันคาดคิดว่า เคก็สนใจจะทำโปรเจกต์นี้กับฮยอนซอด้วยเช่นกัน
สำหรับเค เขาก็มีความฝันนะ แต่เขามีชีวิตที่ดีพอแล้ว เขาไม่ได้ต้องการเงิน เขาต้องการอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งก็คงจะพอกันใช่มั้ยว่า เขาต้องการอะไร ฮยอนซอ นั่นยังไงล่ะครับ!
เปียโน และกีตาร์ สองเครื่องดนตรีที่สอดประสาน
ซีรีส์นี้เล่าเรื่องความฝัน การดิ้นรนและไลฟ์สไตล์ของคนหนุ่มสาวในเกาหลี แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ มันหยิบเอาเครื่องดนตรีที่เหมาะจะใช้สองคนเล่นพร้อมกันอย่าง เปียโนคลาสิก ที่ต้องเล่นสอดประสานไปด้วยกันระหว่างมือซ้ายและขวา มันจึงจะกลายเป็นเพลงที่ไพเราะได้ และถ้าใช้สองคนเล่น มันก็ไม่ต่างจากชีวิตคู่เลย ที่ต้องสอดประสานกันไปอย่างพอเหมาะพอดี มันจึงอยู่ด้วยกันอย่างตลอดรอดฝั่ง
แต่ในเรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีแค่เปียโนที่บอกเล่าเรื่องราวของคนสองคน แต่ยังมีโปรเจกต์ของเค ที่เริ่มต้นด้วยเสียงกีตาร์และรู้สึกอยากได้เสียงเปียโนมาประสาน ทำให้เห็นว่า การทำเพลงให้เพราะก็เหมือนชีวิตคู่ที่เข้ากันดี สองคนเหมือนเครื่องดนตรี ที่อาจให้เสียงที่แตกต่าง แต่เมื่อเล่นไปพร้อมกัน ก็ทำให้เพลงมันเพราะยิ่งขึ้น
และก็ไม่ใช่แค่นั้นนะ สองเสียงแตกต่าง สามารถผลัดกันเป็นเสียงนำได้ด้วย มีบางช่วงเวลาที่เสียงกีตาร์จะขอให้เสียงเปียโนนำขึ้นมาก่อน แล้วตนจะเป็นคนตาม ซึ่งก็รู้สึกได้ถึงความเพราะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
ความสัมพันธ์ที่เคยจบไป กำลังจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรา?
การเริ่มต้นครั้งใหม่ของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญหลายๆ อย่าง บังเอิญว่าเพื่อนของพระเอกหาครูสอนเปียโนแล้วได้นางเอกมา บังเอิญว่านางเอกก็กำลังต้องการเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ร่างกายที่ต้องการการฟื้นฟูจากหญิงที่เขารักไม่เคยลืม ชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน แม้สิ้นหวังกับอาชีพสอนเปียโนและจำเป็นต้องได้งานนี้เพื่ออยู่รอด แต่ทั้งหมดมันคือ ‘การเริ่มต้นครั้งใหม่’ ของเขาและเธอ
ต่างคนเหมือนจะต่างปากแข็งนะ ว่า ต่างไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกันแล้ว แต่เหมือนว่ายิ่งเจอกันบ่อยครั้งเข้า ความรู้สึกที่ปิดซ่อนไว้ก็เริ่มจะเผยตัวออกมาเรื่อยๆ
เยื่อใยที่ยังคงเหลืออยู่ ทำให้ต่างฝ่ายต่างเลือกจะตอบรับมัน แต่ตัวแปรอย่างนักทำเพลงหนุ่มที่กะมาอยู่เกาหลีแค่ 6 เดือนก่อนไปเซ็นสัญญาที่อเมริกา ก็เข้ามาแทรกระหว่างกลาง เขาอาจเป็นได้ทั้งมือที่สามที่แย่งชิงเธอไปจากเขา หรือเป็นคนที่ทำให้เธอรู้ใจตัวเอง แบบไหนก็เป็นได้ทั้งนั้น
ความที่ซูโฮเลือกจะชวนเคมาทำงานที่บ้านตัวเอง แต่เคอยากจะชวนฮยอนซอมาร่วมโปรเจกต์ด้วย ก็ทำให้ซูโฮต้องมาทนเห็นฮยอนซอกับเคทำงานด้วยกันและกลายเป็นดูโอ้ที่เหมาะสมกัน และมันก็ไปปลุกความหึงขึ้นมาทำงาน ด้านฮยอนซอ เธอคิดว่าความรักในการเล่นเปียโนนั้นลดน้อยลงไป แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ลดน้อยลงเลย มันเป็นเพียงแค่ความไม่มั่นใจว่าตัวเองเก่งเท่านั้นเอง
เธอจะเลือกคนไหน ระหว่างซูโฮกับเค?
สำหรับฮยอนซอ เปียโนคือสิ่งที่เธอรัก คงเป็นเรื่องยากที่จะสลัดและเลิกทำในสิ่งที่รักไป เพียงแต่เธอล้มเลิกที่จะทำตามความฝัน เพราะรู้สึกไปว่าไม่อาจทำมันให้สำเร็จ เธอหวังจะให้จ็อบล่าสุดนี้เป็นการบอกลาเปียโนครั้งสุดท้าย แต่เมื่อถึงเวลา เธอก็ได้พบว่ามีคนที่ชื่นชอบฝีมือการเล่นเปียโนของตนเอง มันอาจเป็นเสียงที่ไม่ได้ยินมานานเกินไปจึงแรงใจมันถดถอย และนี่อาจเป็นช่วงเวลาดีดีที่จะปลุกพลังให้แข็งแกร่งขึ้นมาก็เป็นได้
ระหว่างที่ดูไป ผู้ชมอย่างเราๆ จะสังเกตและนึกสงสัยถึงที่มาของรอยแผลที่ข้อมือของฮยอนซอ มันคือหนึ่งร่องรอยที่ฮยอนซอต้องเผชิญ เช่นเดียวกับความรักครั้งเก่าที่ยังไม่เลือนหายแถมยังกลับมาให้ว้าวุ่นใจ กับคนใหม่ที่บอกชอบเธออย่างจริงใจแถมชื่นชมในฝีมือการเล่นเปียโนของเธออีก สุดท้าย คงต้องเป็นฮยอนซอที่จะตัดสินใจเลือกนั่นเอง
ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น เรื่องราวมันไม่ได้มีด้านมืด มีแต่ชีวิตของหนุ่มสาวที่อาจพลาดไปบ้างแต่ก็ยังมีโอกาสครั้งใหม่ เพลงที่ใช้เล่าเรื่องก็เพราะดี ดนตรีประกอบก็ฟังเพลินมาก ประกอบด้วยเสียงเปียโนเป็นหลักและมีเสียงอื่นเคล้าคลอไป มีความกรุ๊งกริ๊งในท่วงทำนองที่น่ารัก และให้ความรู้สึกเหงาและเศร้าศร้อยในเพลงที่ขมขื่น
แล้วมันก็กลายเป็นซีรีส์เล่าเรื่องเพลงและดนตรีที่เรารู้สึกอินไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนคิดว่าเดี๋ยวคงต้องตามกลับไปดู ‘Soundtrack #1’ ซะแล้วล่ะมั้งเรา
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Soundtrack #2 / 사운드트랙 #2 |
ผู้กำกับ | Kim Hee-Won/คิมฮีวอน (เจ้าของผลงาน ‘Little Women’ และ ‘Vincenzo’), Choi Jung Kyu |
ผู้เขียนบท | Jung Hye Seung, Song Woon Jung |
นักแสดง | Keum Sae Rok/กึมแซรก, Sohn Jeong Hyuck/ซอนจองฮยอก, Noh Sang Hyun/โนซังฮยอน |
แนว/ประเภท | โรแมนติก, เพลง |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 6 ตอน |
ช่องทางรับชม | Disney+ Hotstar |
เริ่มออกอากาศ | 6 ธันวาคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Disney+ Hotstar |
คะแนนรีวิวซีรีส์ Soundtrack #2
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.2
การดำเนินเรื่อง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.3
7.4
사운드트랙 #2
ส่วนตัวแล้ว ชอบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเพลงและดนตรีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว เรื่องนี้เขาเล่าเรื่องของแฟนเก่าๆ ที่เคยจนมาด้วยกัน ก่อนจะเลิกราด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ได้กลับมากันอีกครั้งในสถานะที่แตกต่างไป ฝ่ายชายร่ำรวย แต่ฝ่ายหญิงยังคงสิ้นหวังกับสิ่งที่รัก แถมยังมีนักแต่งเพลงมือดีอีกคนเข้ามาเป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ มันมีความอบอุ่นมากกว่าความเจ็บปวดหน่อยๆ แม้สองตัวละครต่างมีปมในใจ แต่เพลงที่พวกเขาทำร่วมกัน ดนตรีที่ประกอบเรื่อง ทุกอย่างดูอบอวลกำลังดีเลยแหละ