รีวิวซีรีส์ Sisyphus รหัสลับข้ามเวลา | 2 คน 2 เวลาไขปริศนาไทม์แมชชีน

ซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องของการเดินทางข้ามเวลายังคงมีกันออกมาให้เราได้ชมกันอยู่เรื่อยๆ นะครับ แต่ละเรื่องก็มีธีมให้เล่าแตกต่างกันไป วันหนึ่งก็มีคนคิดเขียนบทซีรีส์เดินทางข้ามเวลากันอีกครั้ง โดยคนที่เดินทางข้ามมาตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างกับคนที่เป็นต้นเหตุสำคัญของเทคโนโลยีในอนาคต ผมกำลังพูดถึง ‘Sisyphus: The Myth’ หรือชื่อไทย ‘รหัสลับข้ามเวลา’ อยู่ครับ

บทซีรีส์เรื่องนี้กำหนดให้พระเอกเป็นวิศวกรอัจฉริยะ เขากำลังคิดค้นนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอย่างหนึ่งอยู่ ซึ่งมันได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่มาจากโลกอนาคต

หญิงสาวกับกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งซึ่งมีผลต่อความอยู่รอดของโลกใบนี้

เรื่องย่อซีรีส์ Sisyphus: The Myth

ฮันแทซุล (Cho Seung Woo/โจซึงอู จากซีรีส์เรื่อง ‘Stranger’ และ ‘Life’) เขาคือวิศวกรอัจฉริยะที่เคยสนิทมากกับพี่ชาย พวกเขาร่วมก่อตั้งบริษัท ควอนตัมแอนด์ไทม์ มาด้วยกัน ก่อนที่เขาจะเสียฮันแทซัน (Heo Joon Seok/ฮอจุนซอก จากซีรีส์เรื่อง ‘Sweet Home’, ‘While You Were Sleeping’ และหนังเรื่อง ‘Rampant’) ผู้เป็นพี่ชายไปเมื่อ 10 ปีก่อนในวันที่บริษัทเติบใหญ่

มันกลายเป็นบาดแผลลึกในใจของเขาตลอดมา เขาอยู่ต่อด้วยชีวิตที่เสเพลและหมกมุ่นอยู่กับยา ไม่เอาจริงเอาจังกับการทำหน้าที่ประธานบริษัทเท่าไหร่นัก และมักเห็นภาพของพี่ชายอยู่บ่อยๆ

แต่ในวันหนึ่ง เขาเกือบตายจากอุบัติเหตุบนเครื่องบิน และด้วยความชาญฉลาดเขาจึงรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่เหตุการณ์นั้นก็ทำให้เขาได้พบกับบางสิ่งอันแปลกประหลาด

อีกช่วงเวลาในอนาคต หญิงสาวนาม คังซอแฮ (Park Shin Hye/พัคชินฮเย จากซีรีส์เรื่อง ‘Pinocchio’ และหนังเรื่อง ‘#Alive’ และ ‘The Call’) เดินทางข้ามมาจากอนาคตด้วยจุดมุ่งหมายบางอย่าง เธอรับปากกับพ่อเธอเสียดิบดีว่าจะหลีกหนีให้ไกลจากผู้ชายที่ชื่อฮันแทซุล แต่พอมาถึงจริงๆ เธอกลับตามหาเขา

เมื่อฮันแทซุลค้นพบว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลกับความตายของพี่ชาย การเดินทางสุดอันตรายของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ทั้งคู่ถูกติดตามจากกองกำลังลับ ที่เรียกว่า กองควบคุม ที่มาในนามสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มักจะยกโขยงมาเอาปืนจ่อยิง แถมยังมีโทรศัพท์ลึกลับสายหนึ่งที่ไม่อาจรู้ว่าเป็นฝ่ายดีหรือร้าย อาจเป็นหนทางรอดหรือหายนะสำหรับคนทั้งคู่ก็ได้

แท้จริง คังซอแฮเป็นสาวนักรบชั้นหัวกะทิ เธอสามารถล้มชายร่างใหญ่ได้ด้วยมือเปล่า ทั้งแม่นปืนและสร้างระเบิดได้ และฮันแทซุลคือคนที่คิดค้นไทม์แมชชีนที่พาผู้คนข้ามเวลากลับไปยังอดีต มันทำให้มีคนจากอนาคตย้อนกลับมาและคังซอแฮคือสาวผู้ตัดสินใจย้อนกลับมาเพื่อช่วยเขา

รีวิวซีรีส์ ‘รหัสลับข้ามเวลา’

ซีรีส์แนวไซไฟเดินทางข้ามเวลาจาก JTBC ที่มีให้ชมกันสัปดาห์ละสองตอนในบริการ Netflix เรื่องนี้ ค่อยๆ อุ่นเครื่องจากการเล่าที่สร้างความสงสัยกันก่อน เริ่มจากการทำให้ผู้คนรู้จักพระเอกอย่าง ฮันแทซุล ที่เป็นบุรุษผู้ร่ำรวย กลายเป็นมหาเศรษฐี ที่กลายเป็นฮีโร่ มีความอัจฉริยะ และฉายแววความเป็นนักประดิษฐ์มาตั้งแต่ยังเด็ก เติบโตมาพร้อมกับพี่ชายและร่วมกันก่อตั้งบริษัทมาด้วย โดยที่ไม่รู้ว่านวัตกรรมที่พวกเขากำลังจะสร้างขึ้นนั้น

วันนึงจะวกกลับมาทำร้ายผู้ที่สร้างมันขึ้นมา…

เมื่อซีรีส์เกาหลีเล่าเรื่องพล็อตข้ามเวลา

พล็อตสไตล์หนึ่งที่นับว่าเล่าได้ยากมากสไตล์หนึ่งก็คงเป็นเรื่องพล็อตที่เล่นกับเรื่องของเวลาเนี่ยแหละ เพราะต้องมีความละเอียดสูง ทั้งต้องรู้วิธีที่จะเล่ายังไงให้คนเข้าใจและสนุกตามไปด้วย การอยู่ในอนาคนแล้วย้อนเวลากลับมาอดีตได้ก็แปลว่าเขาต้องรู้ทั้งเรื่องอนาคตและอดีต ขณะที่คนในอดีตจะไม่รู้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ถือว่าเป็นสไตล์ของพล็อตที่ถ้าตัวตั้งต้นมันดี และรู้สึกว่ามันจะสนุกไปได้ตลอดทาง

คนเขียนบทเลือกจะบอกเล่าเพียงบางอย่างไว้ในช่วงเริ่มต้นแล้วค่อยเติมข้อมูลให้ผู้ชมมาทีละกระหย่อม กระตุกต่อมสงสัยให้เกิดในความรู้สึกคนดูและชักชวนพวกเขาให้เฝ้าติดตาม ตอนที่ 1-2 ผ่านไป ผู้ชมคงเกิดคำถามอยู่มากมายที่อยากจะรู้ในคำตอบ ซึ่งอาจจะมาในตอนถัดไปหรือไม่ก็อาจจะได้พบกับปริศนาใหม่

เรื่องนี้นางเอกคือผู้ที่ข้ามเวลากลับมาจากอนาคต เพื่อช่วยเหลือพระเอก กระเป๋าเดินทางสีดำที่เธอถือมา กับอีกใบที่เขาพบด้วยตัวเองสร้างความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งสองต่างคนต่างเดินทางไปหากันยังจุดหมาย ทั้งยังมีกองกำลังลึกลับที่คอยขัดขวางและต้องการตัวเขา ไม่พอ ยังมีสายลึกลับที่โทรเข้าโดยไม่รู้ว่ามาดีหรือร้ายกันแน่

และนี่คงไม่ใช่ปริศนาสุดท้าย…

ตัวละครอื่นๆ รอบตัวฮันแทซุลและคังซอแฮ

นอกเหนือไปจากตัวพระเอก-นางเอกและพี่ชายของพระเอกแล้ว ก็ยังมีตัวละครสำคัญๆ หลายตัวที่ควรจะหยิบยกมาพูดถึงไว้ตรงนี้ด้วย

ไม่ว่าจะเป็น บงซอน (Tae Won Seock) ชายร่างใหญ่ที่เป็นคนขับรถประจำตัวของประธานฮัน, คิมซอจิน (Jung Hye In/จองฮเยอิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Rugal’) อดีตคนรักที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นหมอคอยดูแลแทซุล ทั้งยังแอบคบกับ เอ็ดดี้คิม (Tae In Ho) รองประธานผู้รู้สึกไม่ไหวกับประธานฮันเพราะเขามักทำตัวไม่ดี ขี้ยาแถมโดดประชุมบ่อยๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครที่อยู่รอบตัวคังซอแฮด้วย ที่เด่นชัดเลยก็คือ ซัน/ชเวแจซอน (Chae Jong Hyeop/แชจงฮยอบ) ชายหนุ่มลูกจ้างในร้านอาหารผู้ชักหน้าไม่ถึงหลังที่พบกับเธอเข้าโดยบังเอิญและให้การช่วยเหลือ

ไม่พอยังมี ประธานพัค (Sung Dong Il) ผู้ชายที่อยู่ในสายลึกลับนั้นด้วยนะ

แทรกมุมเล็กมุมน้อยชวนให้คิด แต่บางฉากดูสมเหตุผลน้อยไปนิด

ผ่านไปสองตอน ซีรีส์เรื่องนี้มีแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจ อย่างที่ตัวละครพูดถึงความเหลื่อมล้ำอยู่เล็กๆ ด้วยนะ เรื่องของรถไฟที่ต่างชนิดกัน ชนิดที่ราคาสูงกว่าวิ่งเร็วกว่า ออกช้าแต่ไปถึงก่อน มองให้แง่ดี การมีรถไฟหลายชนิดทำให้รองรับคนได้ทุกระดับรายได้ ขณะเดียวกัน ความเร็วของรถไฟที่ราคาแพงกว่าก็ย่อมจะมากกว่าเช่นกัน

ระหว่างเรื่องราวที่ดำเนินไปอย่างสนุกก็จะมีบางส่วนที่ชวนตะขิดตะขวงอยู่เล็กๆ เหมือนกัน อย่างเช่น การที่กองควบคุมมักส่งกองกำลังมามากเกินทั้งที่สู้เพียงพระเอกคนเดียว สงสัยว่าคงเพราะต้องการจับเป็น ขณะเดียวกันก็ส่งมาเป็นกองทัพเช่นกันเมื่อต้องการจับตัวนางเอก อันนี้ พอเข้าใจได้หน่อยว่าเธอเป็นนักรบมือฉกาจ แต่การที่ลูกน้องทั้งหลายยิงปืนหลายสิบนัดแต่พลาดเป้าใหญ่นี่อาจเรียกได้ว่า ความสามารถแทบจะใกล้เคียงสตอร์มทรูปเปอร์เลยทีเดียว

แต่นั่นแหละ เราจะมองให้มันจุดขำๆ ไปเพราะเรื่องที่ใหญ่มันน่าติดตามยิ่งกว่านั้น

ปริศนาที่โผล่มาเรื่อยๆ ชวนลุ้นหาคำตอบ

เราไม่รู้ว่า เรื่องหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ดูมานี่มีเงื่อนงำหลายสิ่งหลายอย่างที่ผุดโผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การตายของพี่ชายที่มีจุดชวนให้สงสัย ส่วนผู้ชายที่มาพร้อมกับกระเป๋าใบนั้นก็ดูคล้ายกับพี่ชายอย่างมาก แถมของในกระเป๋าเดินทางใบนั้นก็เคยเป็นของที่พี่ชายใช้ แต่รูปถ่ายในนั้นสิ กลับเป็นรูปของเขาในอนาคต ทำให้คิดต่อไปได้ว่าใครกันที่เป็นผู้ถ่าย และถ้าเป็นพี่ชาย แปลว่าเขายังไม่ตายงั้นรึ?

นี่ยังไม่นับชายสกุลพัคที่โทรมาไถ่ถามถึงพี่ชายคนนั้นนั่นอีก เขาเป็นผู้ใดกัน?

ด้านคังซอแฮ ข้อมูลว่าเธอเป็นสาวนักรบในเวลาอนาคต แต่เท่าที่เห็น ดูเหมือนเธอมีปัญหาเลือดกำเดาไหล เธอข้ามเวลามาเพื่อช่วยแทซุล แต่ในรูปถ่ายใบนั้นเธอปรากฏตัวในฐานะเจ้าสาวของเขา

เท่าที่ดูมารู้สึกได้ว่า ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากน่าสนใจในตัวเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องแล้ว การมีโจซึงอูและพัคชินฮเยอยู่ในนั้นดึงดูดให้คนที่ชื่นชอบและติดตามผลงานของทั้งสองต้องเปิดเข้ามาดูและชื่นชมในฝีมือการแสดงแน่ แต่ดนตรีประกอบและเพลงประกอบก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะดนตรีประกอบที่บางครั้งก็ใช้เครื่องสาย บางครั้งก็ใช้ซินธิไซเซอร์ สร้างความรู้สึกน่าเคลือบแคลงและชวนสงสัยใคร่รู้ได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับงานภาพที่ใส่มักกิมมิกเล็กๆ เข้ามาเสมอ

ระหว่างทางเราอาจมองเห็นความไม่สมบูรณ์ของเทคนิคพิเศษในบางฉาก ซีจีที่ดูลอยๆ หรือเทคนิคที่ดูไม่แนบเนียนจนมองเห็นได้ชัด นอกเหนือไปจากความไม่สมเหตุผลของเรื่องราวบางส่วน แต่สิ่งที่ทำให้เราเลือกจะไปต่อกับซีรีส์ก็คงจะเป็นความอยากรู้อยากเห็นถึงสิ่งที่สงสัย อยากเข้าใจในบทสรุปของเรื่องราวการฝ่าฟันของสองพระนางว่าจะไปตลอดรอดฝั่งอย่างไร

เอาเป็นว่า ค่อยๆ ตามกันไปทีละตอนก็แล้วกัน

ชื่อซีรีส์: Sisyphus: The Myth / Sisyphus / รหัสลับข้ามเวลา / 시지프스: the myth
ผู้กำกับการแสดง: Jin Hyeok/จินฮยอก (เจ้าของผลงานอย่าง The Legend of the Blue Sea, Doctor Stranger, The Master’s Sun, City Hunter)
ผู้เขียนบท: Lee Je In, Jeon Chan Ho
นักแสดง: Cho Seung Woo/โจซึงอู, Park Shin Hye/พัคชินฮเย, Jung Hye In/จองฮเยอิน, Chae Jong Hyeop, Heo Joon Seok/ฮอจุนซอก, Sung Dong-Il
แนว/ประเภท: Action, Drama, Fantasy, Mystery, Sci-Fi
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 16 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: 17 กุมภาพันธ์ 2021
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: JTBC