มีซีรีส์เกาหลีบางเรื่องเหมือนกันที่เรามีโอกาสได้ดูหลังมันผ่านเวลาไปแล้วหลายปี เมื่อสบช่องได้เปิดดูย่อมถือเป็นเรื่องดี อย่างน้อย เราก็ไม่เสียโอกาสที่จะได้เสพซีรีส์ดีๆ เรื่องหนึ่งไป วันนี้ นายแพทได้ดูแล้ว ‘Signal’ หรือชื่อไทย ‘สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา’ ซีรีส์อีกเรื่องของ อีเจฮุน และ คิมฮเยซู ที่ดีเด่นในปี 2016 จนคว้ามาได้หลายรางวัลด้วยกัน
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
แม้ชื่อไทยของซีรีส์จะดูเหมือนพาเข้าใจผิดทางไปนิดหน่อย แต่เมื่อนั่งดูซีรีส์เต็มๆ มันคือซีรีส์ตำรวจสีบสวนสอนสวนที่สนุกมากเรื่องหนึ่ง พล็อตมีเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาผสม แต่รวมๆ แล้วมันคือการย้อนหยิบเอาคดีปิดไม่ลงต่างๆ ในอดีตมาบอกเล่าใหม่ และใช้วิธีการเก็บข้อมูลหลักฐาน บวกการประสานงานระหว่างคนในอดีตกับปัจจุบันเพื่อไขคดีจนพบตัวการ ด้วยความซับซ้อนของเรื่องราว ทำให้แม้แต่ละคดีจะกินเวลาหลายเอพิโสด แต่ก็เข้มข้นหมดทุกคดี
สามนักแสดงหลักเล่นดีกันทุกคน แต่คนที่โดดเด่นสุดก็ยังคงเป็น คิมฮเยซู
เรื่องย่อซีรีส์เกาหลี ‘Signal’
ในปี 2015 พัคแฮยอง (อีเจฮุน จากซีรีส์ ‘Chief Detective 1958’) เป็นตำรวจหนุ่มที่ทำงานเป็นโปรไฟเลอร์หรือผู้ชำนาญการด้านวิเคราะห์เชิงจิตวิทยาเหล่าอาชญากร เขาเคยมีอดีตบางอย่างที่ทำให้ไม่เชื่อใจในตำรวจแม้ตัวเขาจะเป็นตำรวจอยู่ก็ตาม
ย้อนไปในปี 2000 แฮยองยังเป็นนักเรียนมัธยม เขาพบเห็นเพื่อนร่วมชั้นถูกลักพาตัว(เสียชีวิตในเวลาต่อมา) พยายามบอกตำรวจว่าคนร้ายเป็นผู้หญิง แต่ตำรวจกลับไม่เชื่อเขา เอาแต่สรุปว่าคนร้ายเป็นผู้ชาย สุดท้าย คดีนี้ก็ปิดไม่ลงจนเหลือเพียง 2 วันก็จะหมดอายุความ
ในที่สุด ด้วยความดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวส่วนตัว ทำให้พัคแฮยองป่าวประกาศออกสื่อเพื่อส่งสารถึงคนร้ายตัวจริงที่ยังลอยนวลอยู่ จนได้ร่วมมือกับ ชาซูฮยอน (คิมฮเยซู จากหนังเรื่อง ‘Smugglers’) ที่เคยจับกุมเขาในข้อหาสตอล์กเกอร์ดารา โดยที่เขาได้รับเบาะแสจากเสียงในวิทยุสื่อสารเครื่องเก่าที่เป็นสัญญาณจากสายสืบอีแจฮัน (โชจินอุง จากหนังเรื่อง ‘The Devil’s Deal’) ที่มีชีวิตอยู่ในปี 2000 และแม้ว่าทั้งคู่จะสามารถตามจับฆาตกรตัวจริงได้ แต่ก็ไม่ทันเส้นตายของการหมดอายุความ
แต่ผลพวงของการไขคดีครั้งนี้ ก็ทำให้เกิดแผนกใหม่ขึ้นมาเพื่อจัดการกับคดีที่ยังปิดไม่ลงทั้งหลาย ซึ่งก็ทำให้ซูฮยอนได้ทำงานร่วมกับแฮยองอีกครั้ง โดยวิทยุสื่อสารเครื่องนั้นและเสียงปลายสายในปี 2000 กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการไขคดี
รีวิวซีรีส์เกาหลี ‘สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา’
เหตุผลหนึ่งที่ย้อนกลับไปดูซีรีส์ปี 2016 ก็เพราะได้ยินข่าวว่ามันจะมีภาคที่สอง ฉะนั้น เลยคิดว่าคงจะดูไม่ได้ ถ้าไม่ผ่านการดูภาคแรกมาก่อน อีกอย่าง สองนักแสดงนำก็ล้วนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับในความสามารถทางการแสดง แล้วทำไมเราจะต้องพลาดล่ะ แถมซีรีส์เรื่องนี้ยังมีการซื้อไปรีเมกมาแล้วทั้งญี่ปุ่นทั้งไทย ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองเปิดดูเลยแล้วกัน
แนวทางซีรีส์เรื่องนี้ มันคือซีรีส์สืบสวนสอบสวนแหละ แต่มีหยิบเอากลิ่นแฟนตาซีเข้ามาผสมผสาน เพราะหนุ่มตำรวจนักวิเคราะห์อาชญากรเนี่ย เกิดไปเจอวิทยุสื่อสารเก่าเครื่องหนึ่งที่ดังขึ้นในถุงขยะ เลยเก็บมาแล้วพูดคุย เลยได้รู้ว่าอีกฝั่งเป็นเสียงตำรวจสายสืบแต่เขาอยู่ในอีกช่วงเวลา ซี่งดูไปแล้วชื่อไทยในเน็ตฟลิกซ์มันดูเป็นซีรีส์ไซไฟมากกว่าจะเป็นสืบสวนสอบสวนบวกแฟนตาซี
เรื่องราวในนั้นมันเล่าถึงเกาหลีที่มีการยกเลิกอายุความ ทำให้มีการรื้อฟื้นคดีต่างๆ ที่ปิดไม่ลงก่อนหมดอายุความไปกลับขึ้นมาสืบสวนกันใหม่ และกลายเป็น “ทีมคดีปิดไม่ลง” ที่มีตำรวจแค่ 4 คนอยู่ในทีม หนึ่งคือ ชาซูฮยอน ตำรวจหญิงที่เคยเป็นตำรวจหญิงคนแรกของสถานีแต่ตอนนี้กลายเป็นสายสืบหญิงมากประสบการณ์, พัคแฮยอง คนที่เจอแต่เรื่องปวดใจทำให้โตขึ้นมาแบบเกลียดชังตำรวจ แต่สุดท้ายก็มาเป็นตำรวจในตำแหน่งนักจิตวิเคราะห์ อีกสองคนก็เหมือนจะเป็นตำรวจที่เพื่อนไม่ค่อยเอา อย่าง คิมกเยชอล (คิมวอนแฮ) และจองฮุนกี (อียูจุน)
ทีมนี้ดูจะเป็นทีมที่ตำรวจคนอื่นไม่ชอบ อันที่จริงก็เข้าใจแหละ การรื้อคดีที่ปิดไม่ลงขึ้นมาสะสางใหม่ เหมือนเป็นการตบหน้าตำรวจด้วยกันเพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกมันเป็นคดีที่น่าอับอายที่สุด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม อาจเพราะเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้า หรือเป็นเพราะสืบสวนการแบบชุ่ยๆ อะไรก็ตาม
เช่นเดียวกับการที่มีตัวละครนำอย่าง พัคแฮยอง นักจิตวิเคราะห์ผู้ไม่ชอบใจในการทำงานของตำรวจที่มักสะเพร่า ไม่จริงจังในการทำงาน แต่เมื่อทำงานสืบคดีไปเรื่อยๆ เขาก็จะค่อยๆ เรียนรู้ว่า อาชีพนี้มันยากลำบากและต้องเจอกับอะไรบ้าง หลายครั้งที่เขารู้สึกผิดที่ทำพลาดไป อีกอย่างก็คือ เขาต้องทำงานท่ามกลางความไม่ยอมรับ โดนดูแคลนว่าเป็นเด็กอวดดี
ซีรีส์เรื่องนี้มีแต่คดีเก่าที่ถูกขุดคุ้ยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น คดีฆาตกรรมต่อเนื่องคยองกีใต้ซึ่งก็เป็นคดีที่โด่งดังมาก มีหนังและซีรีส์หลายเรื่องที่หยิบมาบอกเล่า (หนึ่งในนั้นก็คือ ‘Memories of Murder’ ของบงจุนโฮ), คดีปล้นครั้งใหญ่ในปี 1995, คดีของสร้อยคอที่หายไปอันสืบเนื่องมาจากคดีปล้น ยาวไปถึงคดีแขวงฮงวอน ปี 1997 ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง และคดีรุมโทรมเด็กนักเรียนหญิง ม.ปลาย ในอินจู ปี 1999 อีกด้วย
โดยเบาะแสสำคัญของการเลือกสืบคดีนั้น เกิดขึ้นมาจากการพูดคุยกันผ่านทางวิทยุเครื่องเก่าของสายสืบอีแจฮันที่อยู่ในปี 1989 กับนักจิตวิเคราะห์พัคแฮยอง แถมยังมีข้อจำกัดเรื่องเวลา เพราะสามารถติดต่อกันได้เพียงชั่ว 1 นาทีต่อครั้ง และจะเป็นในเวลาเดิมๆ คือ 23:23 น. ซึ่งถือว่าเป็นข้อที่น่าสงสัยอย่างยิ่ง
โดยจะเหตุการณ์บางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปหลังพูดคุยแลกข้อมูลกัน ทั้งยังเกิดคดีใหม่ขึ้นอีกครั้งด้วย ทั้งเมื่อคลี่คลายคดีหนึ่งได้ ก็จะมีเหตุให้อยากคลี่คลายอีกคดีแบบที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างมีเหตุมีผล แล้วแต่ละคดี ก็จะต้องเกี่ยวพันกับอีแจฮัน สายสืบในช่วงเวลาอดีตตลอดๆ แถมแต่ละครั้งก็จะมีการเล่าเหตุการณ์แวดล้อมอย่างละเอียด และก็จะมีแต่พัคแฮยองและฮยอนซูเท่านั้นที่จะรู้สึกระแคะระคายในความไม่ชอบมาพากลของเหตุที่เกิดขึ้นโดยที่ตำรวจคนอื่นไม่ยักกะรู้สึก
เมื่อย้อนกลับไปในอดีต เราก็จะได้เห็นภาพของสายสืบชาที่เป็นตำรวจมือใหม่ แถมยังเด๋อด๋าน่ารักไม่เบา ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้รู้ก็คือ สายสืบชาชอบสายสืบแจฮันมาก และจนบัดนี้ เธอก็ยังไม่ลืมเขา ทั้งยังคอยมาดูซากกระดูกที่สถานบันนิติฯ อยู่บ่อยครั้ง
นอกจากทีมคดีปิดไม่ลงแล้ว ตัวซีรีส์ก็ยังเล่าถึงตำรวจที่หัวหน้าและผู้บังคับบัญชาของพวกเขาด้วย เป็นตัวแทนของตำรวจเลวที่เป็นทุกอย่างที่ตำรวจเลวจะเป็นกัน ทั้งหมาผู้ซื่อสัตย์รับใช้เจ้านาย นายตำรวจที่ฉ้อฉลติดต่อกับอัยการ นักธุรกิจ แม้กระทั่งพวกนักเลงหรืออาชญากร และคอยกลบร่องรอยให้ ฉะนั้น พวกนี้เลยจะเกลียดกลัวตำรวจที่ตงฉินและเอาจริงเอาจังกับการสืบไขคดีที่ตนต้องการปกปิดไว้
เมื่อซีรีส์เดินไป เราอาจพบว่า คิมฮเยซู ที่ปกติก็เล่นดีอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้โชว์ความโดดเด่นสักเท่าไหร่ จนมาถึงตอนที่ 9 นั่นแหละ จึงพบว่า เธอได้เจอบทที่พาเราอึ้ง เธอเล่นดีจริงๆ จนต้องยกนิ้วให้
จากทั้งหมดทั้งมวลที่ว่า ทำให้รู้สึกว่า มันเหมาะสมแล้วที่ซีรีส์เกาหลีในปี 2016 เรื่องนี้ จะคว้ารางวัลมามากมายจากหลายเวที และเมื่อยิ่งมีข่าวว่า จะมีการสร้างภาคหรือซีซัน 2 ตามมา ทำให้สมควรแล้วที่ต้องตามดูซีซันแรกให้จบก่อน และผมก็ได้ทำมันสำเร็จแล้วในวันนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Signal / สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา / 시그널 |
ผู้กำกับ | Kim Won Suk/คิมวอนซอก (ผู้กำกับ ‘Arthdal Chronicles’) |
ผู้เขียนบท | Kim Eun Hee/คิมอึนฮี (ผู้เขียนบท ‘Revenant’) |
นักแสดง | Kim Hye Soo/คิมฮเยซู, Lee Je Hoon/อีเจฮุน, Cho Jin Woong/ชเวจินอุง, Kim Won Hae/คิมวอนแฮ, Lee Yoo Joon/อียูจุน |
แนว/ประเภท | อาชญากรรม, ดราม่า, แฟนตาซี, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 16 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix, MonoMax, iQIYI, VIU |
วันออกอากาศ | 22 มกราคม – 22 มีนาคม 2016 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN |