ในวันที่ประเทศไทยอยู่ในโหมดรอวันเลือกตั้ง พรรคการเมืองต่างๆ บ้างดูดผู้สมัครเข้าร่วม บ้างส่งสร้างภาพลักษณ์และหาเสียงด้วยนโยบายในแนวทางของตน มีซีรีส์เกาหลีเรื่องหนึ่งที่ผุดขึ้นพร้อมกับพล็อตเรื่องที่เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเราเป๊ะ ‘Queenmaker’ ชื่อไทย ‘ฉันจะปั้นราชินี’ เรื่องราวของการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงโซลไงครับ
ผลงานซีรีส์เกาหลี Netflix Originals ที่กำกับโดย โอจินซอก ที่เคยกำกับซีรีส์อย่าง ‘My First First Love วุ่นนัก รักแรก’, ‘My Sassy Girl’ และ ‘Love With Flaws’ ผ่านการเขียนบทของ มุนจียอง ที่เคยเขียนเรื่อง ‘Who Are You’ หนนี้ ไม่ใช่ซีรีส์แนวรอมคอมอะไรอีกแล้ว แต่เป็นแนวจริงจังที่ตีแผ่แวดวงการเมืองในช่วงหาเสียง หยิบเอาการฟาดฟันของผู้ร่วมชิงชัยตำแหน่งสำคัญของเมืองหลวง ที่มีทุกรูปแบบ พร้อมด้วยกลุ่มนักแสดงชาวเกาหลีชุดใหญ่
เมื่อมันเข้ากับเหตุการณ์บ้านเมืองเราขนาดนี้ ไม่ดูคงไม่ได้แล้วล่ะมั้ง
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Queenmaker’
ฮวังโดฮี (Kim Hee Ae/คิมฮีแอ จากซีรีส์เรื่อง ‘หลังภาพความสุข’) ผู้จัดการทั่วไปของแผนกวางแผนกลยุทธ์ของอึนซองกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญี่ที่ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้า เธอทำหน้าที่เหมือนเป็นนักเก็บกวาดสุดช่ำชอง ถวายชีวิตคอยดูแลแก้ปัญหาทุกเคสที่น่าหงุดหงิดรำคาญให้กับบริษัท เธอคือคนนอกตระกูลที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจสูงสุดจากประธานใหญ่ซนยองซิม (Seo Yi Sook/ซออีซุก จากซีรีส์เรื่อง ‘ใต้ร่มราชินี’)
อึนซองเป็นบริษัทใหญ่ที่กำลังเผชิญกับวิบากกรรมหลายอย่าง รวมทั้งการประท้วงของโอกยองซุก (Moon So Ri/มุนโซรี จากซีรีส์เรื่อง ‘ค่าชีวิต’ และ ‘เงือกสาวตัวร้ายกับนายต้มตุ๋น’) ทนายสาวด้านสิทธิมนุษยชนเรื่องความไม่เป็นธรรมต่อเหล่าพนักงานสตรี ขณะตระกูลอึนมีแต่เรื่องฉาว กรรมการอึนแชรยอง (Kim Sae Byuk/คิมแซบยอก จากซีรีส์เรื่อง ‘Hometown’ และหนังเรื่อง ‘Broker’) ก่อเรื่องไม่เว้นวัน แต่พวกเขาก็มีลูกเขยอย่าง ประธานแพคแจมิน (Ryu Soo Young/รยูซูยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘My Father is Strange’) อดีตผู้ประกาศข่าวที่คอยเป็นหน้าตาเป็นตาด้วยภาพลักษณ์ด้านดี และเป็นที่ชื่นชอบของสื่อ
แต่พวกเขากำลังคิดการใหญ่ เสริมทัพและติดปีกให้กับธุรกิจของอึนซองกรุ๊ปด้วยการเข้าสู่แวดวงการเมือง ลงสนามการช่วงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีแห่งกรุงโซล และพวกเขาวางตัวลูกเขยคนดีอย่างแพคแจมินไว้ ด้านทนายโอกยองซุกก็ร่วมในเกมนี้เช่นกัน โดยมีฮวังโดฮีเป็นกุนซือวางแผนการหาเสียง แต่หนทางระหว่างนั้นเต็มไปด้วยขวากหนามมากมาย
รีวิวซีรีส์ ‘ฉันจะปั้นราชินี’
มันถูกมองแต่แรกแล้วว่าเป็นซีรีส์แนวดราม่าเชิงการเมือง ดูเคร่งเครียดจริงจัง แต่มันก็น่าสนใจน่าติดตามไม่น้อยอยู่นะ เมื่อเปิดดูช่วงแรกของซีรีส์ ซับไตเติลจะขึ้นว่าตำแหน่งที่ชิงชัยกันนั้น เป็น ‘ผู้ว่าการแห่งกรุงโซล’ แต่ก็เหมือนจะเปลี่ยนในตอนถัดๆ มาว่าเป็น ‘นายกเทศมนตรีกรุงโซล’ ใครอ่านซับก็คงต้องสับสนกันเล็กน้อยถึงปานกลาง
เหตุเกิดจาก ความฟอนเฟะ ของตระกูลธุรกิจยักษ์ใหญ่
ซีรีส์เรื่องนี้ เล่าถึงกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เบื้องหลังเติบใหญ่ขึ้นมาได้ด้วยวิถีคิดแบบคนรวยที่ไม่เคยเห็นหัวคนที่จนกว่า แถมยังเป็นธุรกิจในครอบครัว (หรือเรียกว่า ธุรกิจของตระกูลอึน) ที่ผู้บริหารรุ่นสองก่อเรื่องอื้อฉาวไม่หยุดหย่อน ได้ผู้จัดการฮวังที่เป็นคนนอกตระกูลแต่ภักดีเหลือหลายคอยช่วยเก็บกวาดเสมอมา ส่วนอีกคนที่มาจากนอกตระกูลอึนแต่ได้รับการคาดหมายว่าจะรับช่วงต่อ คือประธานแพค ลูกเขยอดีตผู้ประกาศข่าวที่มีภาพลักษณ์ดี แต่ที่จริงมีบุคลิกเจ้าชู้คบสาวไม่เลือกหน้า
บทบ่งบอกถึงความเก่งผู้จัดฮวัง เธอสามารถรับมือกู้หน้าให้อึนซองได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การมีสื่อในมือช่วยเบี่ยงเบนทิศทางข่าว สร้างความเสื่อมเสียให้กับใครบางคนได้ และนำพาสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างที่ต้องการ สิ่งที่เราอาจรู้สึกขัดใจ คือ เธอเลือกจะภักดีอย่างถวายหัวให้ขนาดนั้นนี่แหละ
แต่เหตุสะเทือนใจอย่างการตายของเลขาฯ ประจวบกับการถูกไล่ออกจากอึนซองกรุ๊ป ทำให้ความคิดของเธอเปลี่ยนแปลง และส่งผลต่อเนื่องให้เลือกเป็นแบ็คอัปของทนายโอในกิจกรรมหาเสียงช่วงชิงตำแหน่งนายกฯ ของกรุงโซล
หลากหลายตัวละคร ในแต่ละทีมผู้สมัคร
ดูเหมือนซีรีส์จะเน้นเล่าเรื่องภายในตระกูลอึนเป็นพิเศษ ทำให้เรามองเห็นเบื้องหลังเบื้องลึกของผู้สมัครแพคแจมินมากหน่อย เอาง่ายๆ เราได้รู้ถึงพฤติกรรมอันเลวร้ายของเขา ทั้งมีเมียอย่างอึนแชรยองอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคบหากับเลขาคนสวย ฮันอีซึล (Han Chae Kyung/ฮันแชกยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Extraordinary You’) ก่อนที่คนต่อมาจะเป็น หัวหน้าทีมกุกจียอน (Ok Ja Yeon/อ๊กจายอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Big Mouth’) ผู้ต้องการมาแทนที่ผู้จัดการฮวัง
เราต่างได้รับรู้ว่า เธอคือผู้หญิงอีกคนของประธานแพค และเมื่อประธานลงสมัคร หัวหน้าทีมกุกจึงก้าวเข้ามาอยู่ข้างกายเขา ก่อนที่วันหนึ่ง หน้าที่การวางแผนกลยุทธ์หาเสียงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของ คาร์ล ยุน (Lee Kyoung Young/อีกยองยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Again My Life’) มือโปรที่ถูกดึงเข้ามาร่วมทีม เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังตำแหน่งประธานาธิบดีมาถึง 2 คน เล่ห์กลสุดร้ายกาจจึงถูกนำมาใช้เพื่อห้ำหั่นและแย่งชิงคะแนนเสียง
ด้านทนายโอผู้มีฉายาเป็นแรด และสู้ชนกับปัญหาสิทธิสตรีมาตลอด เธอดูจะมีภาษีน้อยสุดในบรรดาผู้ลงสมัครด้วยกัน แต่เธอก็ได้อดีตนักวางแผนกลยุทธ์ของฮวังโดฮีไปเป็นแนวร่วมสำคัญ พาเอาทีมสาวๆ เข้าร่วมจนกลายเป็นทีมพลังหญิง นอกจากนั้น เธอก็ยังมีชายหนุ่มยุนดงจู (Ki Do Hoon/กีโดฮุน) คนที่เป็นลูกน้องสำนักงานทนายควายไปช่วยเหลือ
ผู้สมัครอีกคนที่จะหลงลืมไปไม่ได้ เธอคือ ซอมินจอง (Jin Kyung/จินกยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Dr. Romantic 2’) อีกหนึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง บ่าวรับใช้ประชาชน 3 สมัย เธอได้อดีตสามีของนางเอกเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ ซอมินจองเป็นคนที่ได้เปรียบตั้งแต่ต้นมือ แต่ก็เป็นเป้าหมายแรกที่ฮวังโดฮีจะโค่นลง
สิ่งที่ขัดใจอีกอย่างในเรื่อง ก็คือ มันมีไดอะล็อกที่พูดถึงหมาในเชิงลบมากมายเหลือเกิน จนในใจได้แต่สงสัยว่า หมามันผิดอะไร ทำไมคนไทย คนเกาหลี จึงมีความคิดในแง่ร้ายกับสัตว์ชนิดมากมายนัก
เรื่องราวสาระพัน ที่ดำเนินไปในระหว่าง การหาเสียง
ท่ามกลางการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงโซล ผู้ลงสมัครและทีมหาเสียงต่างงัดใช้กลยุทธ์หลากรูปแบบออกมาฟาดฟันกัน ทั้งด้านส่งเสริมภาพลักษณ์ตนเอง สื่อสารมันออกไปถึงเหล่าผู้คน ซึ่งภาพลักษณ์นั้นมันรวมไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ทรงผม การแต่งกาย ท่าทาง การพูดจา ผู้สมัครบางคนอาจต้องเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอกเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ
ทีมงานเบื้องหลัง ต้องมีการเตรียมข้อมูล จุดเด่น จุดด้อย ของฝ่ายตัวเองและฝ่ายของคู่แข่ง หลายครั้งก็ใช้วิธีโจมตีหรือเปิดโปงจุดอ่อนให้คู่แข่งอ่อนแรงลง เพื่อเสริมสร้างคะแนนนิยมให้กับฝ่ายตนเอง อีกหนึ่งสิ่งที่หลีกไม่พ้น ก็คือเรื่องเงิน ผู้สมัครที่มีแบ็คอัปดี มีเงินทุนหนุนหลังมากมายย่อมจะมีสายป่านที่ยาว ควักงบออกมาใช้ได้ไม่จำกัด ขณะที่ฝ่ายที่ไม่มีเงินสนับสนุนมากพอก็ต้องตะเกียกตะกายหาทางไปต่อเอาเอง
การคว้าชัยในศึกเลือกตั้ง หลายต่อหลายครั้งนั้นไม่สามารถดำเนินสำเร็จได้ด้วยตัวผู้สมัครเอง แต่ต้องพึ่งพาผู้ช่วยที่ดำเนินกลยุทธ์ผู้เก่งกาจ แต่ส่วนใหญ่ก็มักเลือกวิธีโจมตีจุดอ่อน โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ส่งผลให้ศึกเลือกตั้งแต่ละครั้งมีแต่การสาดโคลน สร้างเรื่องโกหก สร้างภาพพจน์ที่ไม่ตรงกับความจริง และสร้างข่าวลือสกปรกเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายคู่แข่ง เช่นนั้น การที่ฮวังโดฮีจะปั้นราชินีขึ้นมาสักคน ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย ต้องลุ้นกันไปว่า จากตำแหน่งรั้งท้าย นางจะก้าวมาอยู่แถวหน้าและคว้าชัยไปได้หรือไม่..และอย่างไร
จากที่คิดว่า ซีรีสืเรื่องนี้ไม่น่าจะเหมาะกับตัวเอง ดูเคร่งเครียดเกินไปในวันที่ฉันอยากยิ้มอยากหัวเราะบ้าง แต่ก็กลับกลายเป็นสามารถนั่งดูจนจบเรื่องได้ภายใน 2 วัน ยังไงก็ลองมานั่งปวดหัวกับปัญหาสังคมสาระพัดสาระพันที่แทรกซึมอยู่ในทุกตอนกันได้ ณ บัดนาว
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Queenmaker / ฉันจะปั้นราชินี / 퀸메이커 |
ผู้กำกับ | Oh Jin Seok/โอจินซอก (เจ้าของผลงาน ‘My First First Love’, ‘Love with Flaws’) |
ผู้เขียนบท | Moon Ji Young/มุนจียอง (เจ้าของผลงาน ‘Who Are You’) |
นักแสดง | Kim Hee Ae/คิมฮีแอ, Moon So Ri/มุนโซรี, Ryu Soo Young/รยูซูยอง, Seo Yi Sook/ซออีซุก, Ok Ja Yeon/อ๊กจายอน |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 11 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 14 เมษายน 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | AStory, Netflix |
ฉันจะปั้นราชินี
พล็อตและบท - 8
การแสดง - 8.5
การดำเนินเรื่อง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8
8.1
Queenmaker
การคว้าชัยในศึกเลือกตั้ง ไม่อาจสำเร็จได้หากไร้ซึ่งกุนซือฝีมือดี แต่ส่วนใหญ่ก็มักเลือกวิธีโจมตีจุดอ่อน โดยเฉพาะเรื่องครอบครัว ส่งผลให้ศึกเลือกตั้งแต่ละครั้งมีแต่การสาดโคลน สร้างเรื่องโกหก สร้างภาพพจน์ที่ไม่ตรงกับความจริง และสร้างข่าวลือสกปรกเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายคู่แข่ง เช่นนั้น การที่ฮวังโดฮีจะปั้นราชินีขึ้นมาสักคน ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย ต้องลุ้นกันไปว่า จากตำแหน่งรั้งท้าย นางจะก้าวมาอยู่แถวหน้าและคว้าชัยไปได้หรือไม่..และอย่างไร