หลังจากติดตามซีรีส์เกาหลีมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ทำให้รู้สึกได้ว่า เราสามารถหยิบเอาชีวิตของคนอาชีพใดมาสร้างเป็นเรื่องเล่าก็ได้ ทุกอาชีพมีสีสัน มีรายละเอียดเฉพาะของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอาชีพอื่นจะสนใจเพราะตอนไม่เคยได้สัมผัส และแม้จะอยู่ในอาชีพเดียวกันแต่คนดูก็จะอินได้มากกว่า วันนี้ เลยลองพาตัวเองไปรู้จักกับชีวิตในคุกดูบ้าง ‘Prison Playbook’ นี่ไม่ใช่อาชีพแต่เป็นชีวิตที่เราไม่เคยได้สัมผัสด้วยตัวเอง
มันไม่ใช่ซีรีส์ใหม่หรอกครับ เรื่องนี้ออกอากาศมาตั้งแต่ปลายปี 2017 ถึงต้นปี 2018 แต่มองว่ามันน่าสนใจ น่าหยิบยกมาเขียนถึง ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะมันเล่าถึงชีวิตในคุกเกาหลี และมีนักแสดงมากมายที่เราเคยคุ้นคอยสลับสับเปลี่ยนมาให้เราได้เจอหน้ากันไม่เว้นแต่ละตอน
แม้ว่ากว่าจะจบตอนนึงค่อนข้างใช้เวลามากพอดูก็ตามที
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Prison Playbook’
เรื่องนี้มีชื่อไทยว่า ‘ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้’ เป็นเรื่องราวของหนุ่มนักเบสบอลที่ดันต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคุก และบอกเล่าเรื่องราวของทั้งนักโทษและเจ้าหน้าที่ในนั้นนั่นเอง
เมื่อคิมเจฮยอก (Park Hae Soo/พัคแฮซู จากซีรีส์เรื่อง ‘Memories of the Alhambra’ และ ‘The Legend of the Blue Sea’) นักเบสบอลมือพิทเชอร์เลื่องชื่อพลั้งมือทำร้ายร่างกายชายผู้ข่มขืนน้องสาวของเขาจนเกินกว่าเหตุ ส่งผลให้เขาจำต้องมาพักอาศัยอยู่ในคุกชานเมือง ที่นั่นทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ชีวิตใหม่คนใหม่ หลายสิ่งหลายอย่างที่มันเปลี่ยนไปจากชีวิตเดิมมากมาย
เขามุ่งหวังจะได้กลับออกไปสู่โลกใบเดิมอีกครั้ง แต่ผลการอุทธรณ์ไม่ได้เป็นดังหวัง
จากคุกเดิมสู่คุกที่ใหม่ ผู้คนเปลี่ยนหน้าไป ผู้ร้ายผู้ดีบางทีแยกแยะไม่ออก คิมเจฮยอก เป็นคนนิ่งๆ ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นคนโง่ แต่เขาก็มีคนที่รักเขาและดีต่อเขาอยู่รอบกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่า (Krystal หรือ Krystal Jung สมาชิกวง f(x) เคยมีผลงานซีรีส์ ‘The Heirs’ และ ‘The Bride of Habaek’) ที่ยังมาเยี่ยมอยู่เป็นประจำ อีจุนโฮ (Jung Kyoung Ho/จองคยองโฮ จาก ‘Hospital Playlist’ และ ‘Hospital Playlist 2’) เพื่อนรักที่ทำตัวเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเจฮยอกผู้ย้ายตามมาดูแลที่คุกแห่งใหม่
ซีรีส์ที่รวมนักแสดงที่คุ้นตาเอาไว้คับคั่ง รวมทั้ง นักโทษอีกคนอย่าง กัปตันยู (Jung Hae In/จองแฮอิน จากซีรีส์ ‘While You Were Sleeping’) ที่หน้าอ่อนหน้าใสแต่โหดเหลือเกิน
รีวิวซีรีส์ ‘ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้’
มองเห็นผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นมนุษย์
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นที่สนามเบสบอลได้เพียงแว้บเดียว แล้วมันก็วาร์ปไปที่สถานกักกันคุมขังนักโทษต่อเลย ซีรีส์เริ่มเล่าสถานการณ์ในคุกให้เราได้รู้กันก่อนว่าพระเอกที่เป็นนักเบสบอล อยู่ในโลกที่มีผู้คนรู้จักห้อมล้อมมาก่อนแต่วันหนึ่ง โลกของเขาก็เปลี่ยนไป ชีวิตในคุกที่แปลกกว่าที่เคย การปรับตัวในสถานที่ซึ่งไม่คุ้นชิน และรายรอบด้วยอาชญากร
แท้ที่จริง มันก็ไม่ต่างจากข้างนอกมากนัก มันก็ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
แต่หลายครั้งที่เราได้ทำความรู้จักกับคนคุก ก็อาจทำให้เราได้รู้จักเขาในอีกแง่มุมหนึ่ง ได้พบว่าที่จริงเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กับเรา มีความดีในตัวเขาพอๆ กับเรา แค่พลาดไปทำสิ่งผิดกกฎหมายและโดนจับได้ก็เท่านั้นเอง
จากนั้น เรื่องราวก็เริ่มสลับด้วยการพาเราไปรู้จักกับความรักของนักกีฬาคิมคนนี้ เรื่องราวเมื่อครั้งก่อนเก่า ที่กีฬาเบสบอลทำให้เขาได้ทั้งแฟนที่เป็นเด็กสาววัยเรียน เธอเป็นลูกของโค้ช ได้ทั้งเพื่อนสนิทที่มีโค้ชคนเดียวกันและวันนี้ เขาก็มาเป็นเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ คอยดูแลช่วยเหลือเขาทุกอย่าง ขณะเดียวกันเพื่อนสนิทคนนี้ก็เริ่มจะผูกพันกับน้องสาวของนักกีฬาคิมด้วย แต่แฟนเด็กของนักกีฬาที่อยู่ข้างนอกนั่น เขาก็มีผู้ชายตามจีบอยู่นะ
อ่า ซีรีส์เกาหลี ขาดความรักไม่ได้เลยสินะ
ซีรีส์ชาวคุกที่ชวนฮาไม่ยั้ง
แม้จะดูว่าเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องในคุก เดินเรื่องไม่เร็วไม่ช้า แต่ว่าบทใส่ความฮาเข้ามามากมายพอตัวเลยนะครับ นั่งดูไป เหมือนเรื่องจะเดินไปไม่หวือหวา บางครามีหาว แต่บทจะชวนฮากลิ้งนี่ก็ทำได้ชะงัดไม่เบาเลยล่ะ
ตัวละครหลายๆ ตัวนี่จัดมาเป็นตัวฮาโดยเฉพาะ ยูฮันยาง (Lee Kyu Hyung จากซีรีส์ ‘Hi Bye Mama’, ‘Life’ และ ‘Guardian: The Lonely and Great God’) ที่เข้าคุกมาในสภาพของชายผู้ติดยา ใครๆ ก็เรียกมันว่า เจ้าเอ๋อ และก็มักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากะอีกคนอยู่เสมอ หรือจะเป็นพวกพ่อบ้านที่ชอบตะโกนเวลาส่งอาหาร คนนี้ก็เข้าคู่กันดีกับหัวหน้าแพง (Jung Woong In) กลายเป็นซีรีส์ไม่ได้ดูเครียดเลย ได้แง่มุมดราม่า เจือด้วยความตลกอารมณ์ดี
ความตลกเกิดขึ้นได้กับตัวละครหลายๆ ตัว ไม่เว้นแม้แต่พระเอกของเรา นักเบสบอลที่ดูนิ่งๆ แต่ทึ่มๆ ดูโง่แต่บางทีก็มีมุมฉลาดที่เราคาดไม่ถึงอยู่เหมือนกันนะ
เพลงเพราะโดนใจ เดินเรื่องชวนเซอร์ไพรส์
ความเท่ของซีรีส์เรื่องนี้ นอกเหนือจากจะเล่าเรื่องราวในคุกแล้ว ก็ยังมีเพลงประกอบสุดเท่อีกต่างหาก มันมีความโซลแบบเท่ที่บวกด้วยการแร็ป ไปๆ มาๆ มันเข้ากับสไตล์ของซีรีส์เรื่องนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ นอกเหนือจากดนตรีประกอบ เพลงประกอบก็นับว่าเพราะเช่นกัน
แต่ยิ่งกว่าสิ่งใดนั้นก็คือการดำเนินเรื่อง อาจจะคิดว่าจะน่าเบื่อเพราะมีแค่เรื่องในคุก แต่ที่จริงมันเล่าได้หลากหลายมาก ทั้งกิจกรรมในคุกที่จัดขึ้นโดยที่เราไม่รู้เลยว่ามีอะไรแบบนี้อยู่ เริ่มจากการทำความรู้จักและปรับตัวกับชีวิตใหม่ในคุก เริ่มรู้จักเรื่องราวแต่หนหลังของนักกีฬาคิมกับเพื่อนสนิท กับแฟนเด็กสาว ย้ายไปคุกใหม่ การตัดสินใจในชีวิตนักกีฬา ตามมาด้วยรูมเมทนักโทษคนใหม่ ย้อนกลับไปเล่าเรื่องในอดีตของเพื่อนร่วมห้องแต่ละคน แล้วมันก็ยังไปได้เรื่อยๆ หลังจากนั้นอีก
แต่ละตอนของ ‘ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้’ นี่นับว่ายาวทีเดียว 90 นาทีต่อตอนขึ้นไปทั้งนั้น ที่ทำได้ก็คือการเปิดดูวันละสองตอน ค่อยๆ ไล่ดูไป
ถ้าจะพูดถึงตัวนางเอกเสียหน่อย นี่เป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกเลยนะ ที่ได้เห็นลีลาการแสดงของ Krystal แว้บแรกผมยังจำเธอไม่ได้ เพราะไม่ค่อยได้ตามดู f(x) แล้ว ความรู้สึกแรกคือผู้หญิงคนนี้สวยจัง ไปดูเครดิตจึงได้ถึงบางอ้อ คริสตัล จอง นี่เอง เธอเล่นไว้ได้ไม่เลวเลย ช็อตดราม่าพาเราน้ำตาซึมตามได้แหละ
คนตัดต่อดูท่าจะชอบใช้วิธีทิ้งเชื้อไว้ ฉากบางฉากแปะใส่ไว้ก่อน แต่คนดูยังไม่รู้ว่าทำไม หลังเวลาผ่านไปสักพักก็ค่อยกลับมาเฉลย หลายหนที่คนดูเซอร์ไพรส์ไปกับตัวละครกับพฤติกรรม เขามักเล่าผลของการกระทำก่อนแล้วย้อนกลับมาเปิดเผยที่มาที่ไป เป็นวิธีการเล่าที่ไม่เลว
เซอร์ไพรส์อย่างหนึ่งก็คือ เพิ่งรู้ว่าคุกเกาหลีมีทีวีให้ดูด้วย มีห้องน้ำแยกต่างหาก
ชื่อซีรีส์: Prison Playbook / ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้ / Wise Prison Life / 슬기로운 감빵생활
ผู้กำกับ: Shin Won Ho/ชินวอนโฮ (เจ้าของผลงาน ‘Hospital Playlist‘, ‘Reply 1988’, ‘Reply 1994’, ‘Reply 1997’)
ผู้เขียนบท: Jung Bo Hoon/จองโบฮุน
นักแสดงนำ: Park Hae Soo/พัคแฮซู เป็น คิมจีฮยอก, Jung Kyoung Ho/จองคยองโฮ เป็นอีจุนโฮ, Krystal/คริสตัล เป็นคิมจีโฮ, Lim Hwa Young/อิมฮวายอง เป็นคิมเจฮี, Jung Hae In/จองแฮอิน เป็นกัปตันยู
ซีซัน 1: ปี 2017 จำนวน 16 ตอน
ผู้ผลิต/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: tvN
ช่องทางการรับชม: Netflix
ฟ้าพลิก ชีวิตยังต้องสู้
บทและพล็อต - 8.8
การแสดง - 8.8
เพลง/ดนตรีประกอบ - 9.2
การดำเนินเรื่อง - 8.9
งานภาพ - 8.4
8.8
Prison Playbook
ซีรีส์เกาหลีที่เล่าเรื่องของนักเบสบอลมีชื่อที่เจอคดีจนต้องไปใช้ชีวิตในคุก เป็นซีรีส์ที่มีชั้นเชิงในการเล่ามากทีเดียว คอยเซอร์ไพรส์ให้เราอึ้งได้ตลอด แถมมีบทชวนตลกฮาขำกลิ้งไม่เว้นว่าง มองนักโทษเป็นคน และทำให้เราได้เห็นภายในคุกเกาหลีว่าเป็นอย่างไร อีกทั้ง ยังเป็นครั้งแรกที่ได้ดูงานแสดงของ Krystal