ความน่าสนใจของซีรีส์เกาหลีคือความหลากหลายในเรื่องราวที่ถูกหยิบมาเล่า แตกแขนงไปมากมายในสาขาอาชีพ ทั้งที่มีอยู่จริงและในจินตนาการ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มักจะเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ซึ่งก็ไม่เว้นกับเรื่องนี้ ‘Move to Heaven’ ซีรีส์เกาหลีที่เป็น Netflix Original และโผล่มาทีเดียว 10 ตอนให้ดูกันยาวๆ ไม่ต้องหยุดพักกันเลยเชียว
เรื่องราวก็ดูแตกต่างไปจากที่เคยพบมา นั่นคือ มันเล่าเรื่องครอบครัวเล็กๆ ที่มีเพียงพ่อกับลูกที่เป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ ทั้งสองทำกิจการเก็บกวาดพื้นที่ที่มีคนตายในลักษณะที่แตกต่างไปจากกคนอื่น คือ ใส่ใจมากมายเป็นพิเศษ เราไม่รู้หรอกว่า มันมีธุรกิจแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า แต่เมื่อดูๆ ไปแล้ว ก็ค่อยๆ ซึมซับและติดใจจนต้องดูเนื่องยาวๆ
เอาเป็นว่า หยิบมาเขียนถึงเลยก็แล้วกัน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Move to Heaven’
ฮันกือรู (Tang Joon Sang/ทังจุนซัง จากซีรีส์เรื่อง ‘Crash Landing on You’ และ ‘Racket Boys’) ชายหนุ่มวัย 20 ปีที่เป็นโรสแอสเพอร์เกอร์ กับพ่อฮันจองอู (Ji Jin Hee/จีจินฮี จากซีรีส์เรื่อง ‘Dong Yi’, ‘Designated Survivor: 60 Days’ และ ‘Undercover’) ร่วมกันทำธุรกิจที่แสนพิเศษ มันเป็นธุรกิจเก็บกวาดพื้นที่เกิดเหตุ พวกเขารับทำความสะอาดเหล่าข้าวของของคนตาย ตามที่ได้รับการติดต่อมาจากญาติ ที่ไม่ยินดีจะเก็บมันด้วยตัวพวกเขาเอง
แต่หัวใจหลักของธุรกิจของสองพ่อลูกมีความพิเศษและแตกต่างจากคนอื่น พวกเขาจะเก็บสิ่งของที่มีความหมายใส่กล่องเหลือ สอดส่ายสายตามองหารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนตายได้ทิ้งเอาไว้ ใส่ใจทำความปรารถนาของคนตายที่ยังไม่สำเร็จ… ให้เป็นจริง
แต่ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย เมื่อพ่อคนเดียวของเขามาสิ้นลมหายใจไปอย่างกะทันหัน
พินัยกรรมของผู้เป็นพ่อสั่งให้ โจซังกู (Lee Je Hoon/อีเจฮุน จากซีรีส์เรื่อง ‘Taxi Driver’ และหนังเรื่อง ‘Time to Hunt’ และ Collectors) คุณอาผู้ชาเย็นที่เพิ่งออกจากคุก มารับหน้าที่ดูแลบริษัทและช่วยเหลือกือรู เป็นเวลา 3 เดือน ด้วยเงินจำนวนมากที่พี่ชายของซังกูสร้างสมไว้ ทำให้เขาสนใจเข้ามารับหน้าที่โดยไม่ทันคิดว่า เขาต้องรับมือกับกือรู หลานชายที่เป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ผู้มีปัญหาในการเข้าสังคม ความหยาบกระด้างทำให้เขาไม่ใส่ใจกับหลานชายและกิจการแห่งนี้เท่าไหร่นัก แต่ภายในตัวของเขานั้นยังมีความจิตใจที่แอบแฝงอยู่ และคนที่เห็นก็คือพี่ชายที่ตายไปแล้ว กับคุณลุงทนายโอ (Lim Won Hee/อิมวอนฮี จากซีรีส์เรื่อง ‘Dark Hole’ และหนังเรื่อง ‘Collectors’) นั่นเอง
งานนี้ จำต้องมีตัวช่วยมาเป็นกำลังเสริม ยุนนามู (Hong Seung Hee/ฮงซึงฮี จากซีรีส์เรื่อง ‘Navillera’, ‘Memorist’ และ ‘Psychopath Diary’) หญิงสาวที่สนิทสนมกับกือรู เธอทำงานที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่ซึ่งกือรูมักจะไปอยู่บ่อยๆ ที่สุด นามูก็ยื่นมือเข้ามาร่วมเป็นกำลังที่สามของบริษัท เพื่อสอดแนมพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้ใจของซังกู แม้ว่าตัวเธอเองจะต้องหลบซ่อนไม่ให้แม่ตัวเองรู้เห็นก็ตาม
แต่จะทำได้เหรอ ในเมื่อบ้านของเธอกับกือรูนั้น อยู่ตรงข้ามกัน…แค่นั้นเอง
รีวิวซีรีส์ ‘Move to Heaven’
กิจการบนโลกใบนี้มีมากมายหลายหลาก แต่บางกิจการ เมื่อมองเข้าไปก็พบแต่ความพิศวง เพราะมันแปลกและไม่เหมือนใคร คราวนี้ เป็นกิจการเก็บกวาด-ทำความสะอาดพื้นที่เกิดเหตุ หรือพื้นที่ที่มีคนตาย ที่ญาติไม่ยินดีจะเข้าไปเก็บกวาดเอง จึงเลือกจะจ้างวานพวกเขา กิจการที่มีชื่อสื่อความหมายดีๆ ว่า Move to Heaven ที่เป็นชื่อมาของซีรีส์เรื่องนี้
กิจการเก็บกวาดห้องคนตาย ที่มากกว่าแค่เก็บกวาดห้องให้คนตาย
เป็นอาชีพที่ไม่เหมือนใครอยู่เหมือนกันนะ แถมยังเป็นอาชีพที่นำพาเราไปพบกับส่งที่เราคาดไม่ถึง เพราะ ‘มูฟ ทู เฮฟเวน’ ไม่ใช่แค่บริการเก็บกวาดพื้นที่เกิดเหตุ(ที่มีคนตาย)ธรรมดาทั่วไป เพราะคุณพ่อที่เพิ่งจากไปได้ฝากฝังวิชาการ ‘มองให้ลึก’ เอาไว้กับลูกชายผู้มีความจำเป็นเลิศ
ทุกครั้งที่กือรูเดินเข้าพื้นที่และเริ่มเก็บกวาด เขาจะมองเห็นสิ่งที่คนตายทิ้งไว้นั่นคือ ‘เจตนา’ จะว่าไป ก็เหมือนกือรูจะสวมบทเป็นนักสืบ ผู้เก็บข้อมูลจากทุกหลักฐานภายในห้องที่อาจเป็นความตั้งใจสุดท้าย และหยิบมันใส่ไว้ในกล่องสีเหลืองเพื่อคืนแก่ญาติ หรือแยกไว้เพื่อติดตามทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามความมุ่งหมายของผู้วายชนม์ ทั้งหมดนั่น เขาต้องรับรู้ให้ได้ แม้จะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม
แม้คนตายจะไม่ได้เขียนบอกไว้เลยก็ตาม
ในแต่ละตอน ก็จะพาเราไปเจอภารกิจที่แตกต่างกันไป หลายเคสนั้น เริ่มต้นอาจจะไม่มีอะไร แต่พอตอนท้ายนี่แหละ กือรูพาเราไปเจอกับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ หลายตอนที่จะพาให้คนดูต้องน้ำตานอง ถ้าดูสภาพห้องของเขาเพียงผิวเผิน เราอาจไม่รู้เลยถึงเบื้องหลังความสัมพันธ์ คนที่เขารัก คนที่เขาอาจรู้สึกผิด เราคนดูไม่อาจรู้ได้เลย และเราก็ได้แต่หวังว่า พฤติกรรมความละเอียดอ่อนของหนุ่มพิเศษคนนี้
จะถ่ายทอดและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคุณอาของเขาได้บ้าง
พาไปรู้จักกับ…คนที่มีอาการ Asperger syndrome
ปกติแล้ว เราจะไม่ได้เข้าไปคลุกคลีหรือมีคนรู้จักที่มีอาการทำนองนี้อยู่ ทำให้เราไม่ค่อยเข้าใจในพฤติกรรมของเขามากนัก แม้กระทั่ง การได้นั่งดูบทบาทการแสดงของชายหนุ่มวัย 20 ปีที่ดูอ่อนกว่าวัยและมีลักษณะอาการ แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อันเป็นอาการชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มออทิสติก) เราอาจจะไม่ถึงกับรู้ว่า ทุกอย่างถูกต้องหรือตรงกับคนที่มีอาการนี้จริงๆ หรือไม่ แต่ก็ทำให้เราได้เริ่มรู้จักกับพวกเขามากขึ้น
สิ่งที่เราเห็นจากซีรีส์ ทำให้เราได้เห็นว่า กือรูจะเป็นคนที่มีความจำดีมาก เขาอ่านเพียงครั้งเดียวก็จดจำได้ยาวนาน ทั้งยังคลั่งไคล้การเข้าไปเยี่ยมชมอะควาเรียมในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ขนาดที่ล่วงรู้อาการบาดเจ็บของปลากระเบนได้จนให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ได้อย่างแม่นยำ แต่จุดที่เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตกับผู้คน ก็คือ เขามีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ มีความคิดเป็นเส้นตรง และความทรงจำที่โคตรดี ทั้งหมด รวมๆ แล้วก็ทำให้เขามีปัญหาในการเข้าสังคม
แน่นอน จึงจำเป็นต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล
เขามีความรักให้กับคุณพ่ออย่างเต็มเปี่ยม ไม่เคยเตรียมใจรับการลาจากอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ แต่วันนี้ เขาได้ผู้ปกครองคนใหม่ ความที่เขาจดจำได้ทุกสิ่งขึ้นใจ พ่อยังคงอยู่ในทุกพื้นที่กับเขา การเข้ามาแย่งพื้นที่ของพ่อย่อมทำให้เขาเกิดอาการหวงพื้นที่อยู่บ้าง ขณะเดียวกัน อาซังกูก็ต้องการเวลาในการปรับตัวเช่นกัน เพราะเขาเองก็มีปมเหตุในอดีตกับพี่ชายตนเองไม่น้อย แถมก่อนมา เขายังสะสางปัญหาที่คั่งค้างไว้ไม่จบ
สิ่งที่ซีรีส์เล่าความเป็นเด็กหนุ่มผู้มีอาการแอสเพอร์เกอร์ ก็มีทั้งในมุมตลก มุมจริงจังที่พาไปเจอกับแง่มุม ‘เจตนา’ ของผู้ตายที่ยังทำไม่เสร็จ จนนายแพทต้องน้ำตาเอ่ออยู่หลายหน ก็ยังมีมุมของการบอกเล่าความคิดวิเคราะห์ของกือรูด้วยภาพกราฟิก คนตัดต่อเขาแปะเพิ่มมาเพื่อช่วยให้เราเห็นเหมือนที่กือรูมองเห็น น่าสนใจดีเหมือนกัน
นอกจากนี้ เด็กคนนี้ยังฟังดนตรีคลาสิกพร้อมกับการทำงานเก็บกวาดสิ่งของ นัยว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีสมาธิอะไรอย่างนั้น และเพลงคลาสิกเพลงนั้นก็จะถูกเปิดจนอบอวลไปทั้งตอนเลยทีเดียว
พาเราไปรู้จักกับ…เบื้องหลังของคุณอาผู้เย็นชา
ซีรีส์เรื่องนี้ ให้เวลากับกิจการที่ใส่ใจรายละเอียดแห่งนี้ที่กำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อกิจการที่มีเพียงพ่อกับลูก ต้องเหลือเพียงลูกที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์ (ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการออทิสติก) เขามีความทรงจำที่เป็นเลิศแต่มีปัญหาในการเข้าสังคม ทำให้จำเป็นยิ่งยวดที่ต้องมีผู้ดูแล และคนที่เหลืออยู่ก็คือ คุณอาของเขา
เพียงคุณอาที่ชื่อ โอซังกู คนนี้เพิ่งออกมาจากคุก มีประวัติไม่สู้ดีนัก บุคลิกของเขาเป็นคนเย็นชา พูดจาหยาบคาย และดูสนใจแต่เงิน ไม่สนใจในกิจการที่ต้องการรายละเอียดสูงนี้เท่าไหร่ จนแม้แต่เพื่อนสาวของกือรูเองก็ไม่ยอมไว้ใจ ต้องเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสอดส่องดูแล
ผ่านไปพักหนึ่ง ซีรีส์จึงได้เริ่มเล่าความเป็นมาเป็นไปของอาผู้นี้
นอกจากที่เราได้รู้ว่า เขาคือคนที่เพิ่งได้เข้าไปนอนคุกมาระยะหนึ่ง ดูเหมือนจะเคยเป็นนักสู้อยู่ในสังเวียนเถื่อน และปัจจุบัน แม้ออกมาจากคุกแล้วก็ยังคงกลับไปเป็นนักสู้รับจ้างอยู่เนือง แล้วเราก็ยังได้รู้อีกด้วยว่า เขาใช้เวลาบางส่วนของวันไปกับการเยี่ยมไข้ มีคนๆ หนึ่งที่นอนไม่ได้สติอยู่กับสายระโยงระยางบนเตียงผู้ป่วย อีกคืนเขาก็ออกไปกับหญิงสาวคนหนึ่ง ความลึกลับน่าสงสัยของคุณอาผู้เย็นชาที่เริ่มโผล่มามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเริ่มขยับขยายจนมีผลต่อกิจการของหลานชาย
แล้วเรื่องจะใหญ่ไปถึงขั้นไหน และมันจะลงเอยสิ้นสุดปัญหาอย่างไร คงต้องมาติดตามกัน
โดยรวมแล้ว มันเป็นซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ออริจินัลที่น่าประทับใจมากเรื่องหนึ่ง ถึงแม้เราจะรู้ว่าสุดท้ายแล้ว หลานกับอาจะเข้ากันได้ดีแค่ไหน แต่ระหว่างทาง เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเรื่องมันจะดำเนินไปอย่างไร เหตุการณ์ในแต่ละเคสชวนน้ำตาไหลเพราะความใส่ใจในความสัมพันธ์ มันคือ การเติบโตของแต่ละตัวละคร ก่อนที่พวกเขาจะพบเจอการตกผลึก พวกเขาต้องเจอบททดสอบเสียก่อน
อีกจุดสำคัญ ก็คือ การได้เจอ Sooyoung/ชเวซูยอง (จากซีรีส์เรื่อง ‘So I Married an Anti-Fan’ และ ‘Run On’ ) อดีตสมาชิก Girls’ Generation ที่ผมติดตามมานานที่ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย แม้จะไม่ได้เด่นมากนัก ก็ไม่แน่ว่า อาจจะมีบทที่สำคัญมากขึ้นในซีซันถัดไปก็ได้
ก็เห็นปูเอาไว้แล้วนี่ มันต้องมีแล้วล่ะ เหอๆ
ซีรีส์เรื่อง: Move to Heaven/ Move To Heaven: I Am a Person Who Arranges Articles Left by Deceased / 무브 투 헤븐: 나는 유품정리사입니다
ผู้กำกับ: Kim Sung Ho/คิมซองโฮ (เจ้าของผลงานหนัง ‘Notebook From My Mother’)
ผู้เขียนบท: Yoon Ji Ryeon/ยุนจีรยอน (เจ้าของผลงานซีรีส์ ‘Angle Eyes’, ‘Operation Proposal’ และ ‘Boys Over Flowers’)
นักแสดง: Lee Je Hoon/อีเจฮุน, Tang Joon Sang/ทังจุนซัง, Hong Seung Hee, Ji Jin Hee, Sooyoung
แนว/ประเภท: ดราม่า, ชีวิต, ครอบครัว
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 10 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: May 14, 2021
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: Netflix
무브 투 헤븐: 나는 유품정리사입니다
พล็อตและบท - 8.3
การดำเนินเรื่อง - 8
การแสดง - 8.8
งานภาพและโปรดักชัน - 8.3
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.9
8.5
Move To Heaven
โดยรวมแล้ว มันเป็นซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ออริจินัลที่น่าประทับใจมากเรื่องหนึ่ง ถึงแม้เราจะรู้ว่าสุดท้ายแล้ว หลานกับอาจะเข้ากันได้ดีแค่ไหน แต่ระหว่างทาง เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเรื่องมันจะดำเนินไปอย่างไร เหตุการณ์ในแต่ละเคสชวนน้ำตาไหลเพราะความใส่ใจในความสัมพันธ์ มันคือ การเติบโตของแต่ละตัวละคร ก่อนที่พวกเขาจะพบเจอการตกผลึก พวกเขาต้องเจอบททดสอบเสียก่อน