“ยังอยากเป็นครอบครัวเราอยู่มั้ย?” คำถามที่ตัวละครหนึ่งถามกับอีกตัวละครหนึ่งซึ่งเป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านใหญ่หลังนั้น บ้านที่เจ้าสัวปลูกสร้างเพื่อให้ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า แต่ในวันที่สาวใช้อย่างเธอกลายเป็นคุณนายคนใหม่ ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Master of the House’ หรือชื่อไทย ‘สืบสันดาน’
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ซีรีส์ไทยจากกันตนาที่ได้เป็น Netflix Series ความยาว 7 ตอนที่สามารถเปิดดูยาวๆ จบได้ในวันเดียว กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเหตุที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลร่ำรวยเจ้าของธุรกิจเพชรพลอย เจ้าสัวที่เพิ่งประกาศแต่งงานกับคนใช้เกิดมาตายกะทันหัน ส่งผลให้ลูกชายทั้งสองเปิดศึกแย่งชิงมรดกกัน โดยที่คนรับใช้สาวที่เพิ่งกลายเป็นภรรยาหมาดๆ เลือกตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อค้นหาความจริงในการตายที่เธอเชื่อว่ามีเงื่อนงำ
แม้บทของซีรีส์อาจจะไม่ถึงกับโดดเด้งหรือแปลกใหม่ แต่พอมองเห็นว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน และก็พยายามจะขีดเขียนให้มันมีทิศทาง ทำให้แม้ไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้เราติดตามไปจนจบ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Master of the House’
มันคือเรื่องราวของ ไข่มุก (นริลญา กุลมงคลเพชร จากหนัง ‘ร่างทรง’) สาวใช้ผู้สงบเสงี่ยมเจียมตัวที่ทำงานอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่หลังงามของครอบครัวเทวสถิตย์ไพศาล ที่เป็นเจ้าของกิจการค้าเพชรที่ชื่อ เทวาเจมส์ บ้านหลังนั้น มีเจ้าสัวรุ่งโรจน์ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) เป็นเจ้าของบ้าน แต่หลังจากใช้ชีวิตเป็นหม้ายมาเนิ่นนาน เขาก็ประกาศแต่งงานกับสาวใช้อย่างเธอ แต่แล้วในค่ำคืนนั้น เหตุการณ์น่าตกใจก็เกิดขึ้น เมื่อมหาเศรษฐีผู้เป็นนายจ้างและสามีหมาดๆ ของไข่มุกดันมาเสียชีวิต เธอกำลังถูกฉุดดึงเข้ามาพัวพันกับศึกชิงอำนาจที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอันตราย
เจ้าสัวมีลูกชาย 2 คนที่กำลังขันแข่งแย่งชิงเพื่อรับมรดกและสืบทอดกิจการ คนแรกคือ ภูพัฒน์ (ชาย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ จากหนัง ‘อุโมงค์ผาเมือง’) ลูกชายคนโต ที่มีพัดชา (นุส นุสบา ปุณนกันต์) หญิงบุคลิกนิ่งที่เดาใจแสนยากเป็นภรรยา และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คนคือ คีตา (แพรว นฤภรกมล ฉายแสง จากหนัง ‘เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ’) ที่เรียนด้านออกแบบเสื้อผ้าอยู่
ขณะที่ลูกชายคนรองของเจ้าสัว ก็คือ มาวิน (แก๊ป ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล จากหนัง ‘รักจังวะ..ผิดจังหวะ’) ผู้ที่แต่งงานกับ อารยา (คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา) อดีตนักแสดงสาว ทั้งสองมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ ชัตเตอร์ (ตังโก้ ฐิตินันท์ รัตนฐิตินันท์)
ทั้งภูพัฒน์และมาวินต่างถูกเลี้ยงดูมาให้แข่งขันกันตั้งแต่ยังเด็ก และตอนนี้ พวกเขาก็ต้องการให้เปิดพินัยกรรมอันจะระบุว่าใครจะได้รับมรดกจากเจ้าสัวรุ่งโรจน์เท่าไหร่กันบ้าง ขณะเดียวกัน ไข่มุก ที่กลายเป็นแม่คนใหม่ของพวกเขาก็ยังยืนยันจะอยู่ในบ้านหลังนี้เพื่อสืบสาวความจริงเกี่ยวกับการตายของเจ้าสัว เพราะเธอมองว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน
รีวิวซีรีส์ ‘สืบสันดาน’
เริ่มต้นมันอาจดูเป็นซีรีส์หรือละครไทยน้ำเน่าเรื่องหนึ่ง ที่เล่าเรื่องของคนร่ำรวยที่ใช้ชีวิตด้วยกันในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีเจ้าสัวเป็นหัวหน้าครอบครัว กับลูกชายทั้งสองที่เกลียดขี้หน้าและแย่งชิงกันเพื่อครอบครองมรดกและสืบทอดกิจการ ในบ้านที่พรั่งพร้อมไปด้วยคนรับใช้มากมาย พวกเขาวางกฎระเบียบหยุมหยิมมากมาย แต่ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ไม่เคยมองคนรับใช้เป็นคนในครอบครัวจริงๆ อย่างปากว่าเลยสักครั้ง
อีกซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องชนชั้น
แต่พอมองไปอีกที นี่ก็คงจะเป็นอีกซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องชนชั้น ในคฤหาสน์หลังนี้ มีแค่คนสองกลุ่มเท่านั้น หนึ่งคือ “เจ้านาย” ที่ถูกยกขึ้นเป็นชนชั้นสูงและสูงกว่าชนชั้นล่างอย่าง “คนรับใช้” อย่างมาก ทำให้ซีรีส์มีบทให้กับทั้งเหล่าเจ้านายและทั้งเหล่าคนรับใช้
ฝ่ายชนชั้นเจ้านายในบ้านหลังนี้ หลักๆ ก็เอาแต่คิดเรื่องคว้ามรดกอันประกอบไปด้วยบ้าน เงิน ที่ดิน กิจการ และหุ้น ไปเป็นของตนเอง ลูกชายทั้งสองของเจ้าสัว ถูกเลี้ยงดูมาแบบที่ไม่เหมือนกับครอบครัวสักเท่าไหร่ พวกเขาทะเลาะแย่งชิงกันมาตั้งแต่เด็กจนโต มาถึงตอนนี้ พวกเขาก็คงต้องการสมบัติมากกว่าจะมีพ่ออยู่ในบ้าน และการตายอย่างเป็นปริศนาของเจ้าสัว ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแย่งชิงที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม
“กฎมันก็ต้องเป็นกฎ ก่อนที่พวกเธอจะเข้ามาบ้านหลังนี้ ก็เซ็นสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ”
ขณะที่ฝ่ายคนรับใช้ นอกเหนือจากหัวหน้าผู้คุมกฎที่สวมบทโดย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ แล้ว ก็ยังมีคนรับใช้อีกหลายคนที่มีบทบาทโดดเด่นในเรื่องนี้ คนแรกคงหนีไม่พ้น ไข่มุก ที่จากหญิงสาวเจี๋ยมเจี้ยม เธอค่อยๆ ขยับสถานะจากคนดูแลห้องนอนของเจ้านาย ไปเป็นคนดูแลส่วนตัวของเจ้าสัว ก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นภรรยาคนใหม่ของเจ้าสัว คนต่อมา บี (พิมพ์ ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ จากหนัง ‘อวสานโลกสวย’) เพื่อนที่สนิทกับไข่มุกที่สุด แม้ไข่มุกจะกลายมาเป็นภรรยาของเจ้าสัวแล้วแต่ทั้งสองก็ยังคงปฏิบัติต่อกันเหมือนเดิม และอีกคนนึงคือ แก้ว (ตุลย์ ณัฐนันท์ ขุนเพชร) หญิงสาวที่พยายามจะหลุดพ้นจากอาชีพคนขายบริการ แต่ก็พบว่าไม่อาจหลุดไปจากมันได้ เมื่อเธอมาอยู่ในบ้านหลัง เธฮต้องกลายเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ทางเพศให้กับลูกชายคนรอง
การแย่งชิงมรดกของพี่กับน้อง ท่ามกลางการตายอย่างมีเงื่อนงำของเจ้าสัว
เนื้อหาใจความของซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากชูเรื่องความแตกต่างระหว่างชนชั้นในคฤหาสน์นี้แล้ว ก็ยังมุ่งเน้นเรื่องการแย่งชิงกันเป็นเจ้าของมรดกเจ้าสัว หลังการตายอย่างปุบปับของท่าน คดีก็ถูกปิดลงอย่างเรียบง่ายด้วยสาเหตุว่ามันเป็นเพราะอุบัติเหตุ ทั้งที่ยังมีเงื่อนงำ และนั่นก็เป็นสาเหตุใดภรรยาหมาดๆ ของอดีตเจ้าสัวเลือกจะอยู่ในบ้านหลังแม้จะต้องอดทนกับการดูถูกเหยียดหยามจากสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ก็ตามที
สองพี่น้องที่ดูจะไม่รักกันเลย ออกจะเกลียดชังกันเสียด้วยซ้ำ ต่างฝ่ายต่างพยายามช่วงชิงมรดกของเจ้าสัวมาเป็นของตน เร่งเร้าให้ทนายของตระกูลเปิดพินัยกรรม แม้ต้องใช้กลโกงก็ไม่เคยใส่ใจ ทำได้กระทั่งติดสินบนทนายความเพื่อหวังให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดพินัยกรรมเพื่อเข้าข้างฝ่ายตน การฟาดฟันของคนทั้งคู่ลากดึงเอาคนรับใช้ให้ต้องเดือดร้อนในฐานะเบี้ยตัวหนึ่ง และแน่นอนว่า ความตายในคฤหาสน์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว
“ถ้ามันโกงแก ก็ต้องหาวิธีเอาชนะมันให้ได้”
และถ้อยคำของเจ้าสัวเองที่เคยใช้สอนลูกชาย ก็คือหนึ่งสาเหตุสำคัญของความเน่าเฟะและวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลังจากการตายของตนเอง
ระยะห่างทางชนชั้น ที่แยกคนรวยกับคนยากจน
บทของมันพยายามสื่อให้เห็นถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นระยะห่าง เป็นความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำที่คั่นกลางระหว่างคนรวยกับคนจน เช่นคนรวยมีคอนเน็คชัน สามารถช่วยชีวิตคนปางตายให้สามารถเปลี่ยนอวัยวะได้ในทันท่วงที ซึ่งผิดกับคนจนที่ถ้าป่วยหนักถึงขึ้นนั้น พวกเขาจะไม่มีพลังมากพอจะแซงคิวในการเสาะหาอวัยวะที่มาทดแทนได้เลย
ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกบ้าน พวกเขาก็ไม่ต่างจากราชาที่มองเห็นคนรับใช้เหมือนสัตว์เลี้ยงที่จะทำอย่างไรก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาแม้แต่น้อย หลายครั้ง เราจะเห็นภาพของคนรับใช้ที่ต้องหมอบต่ำรองรับเท้าของเจ้านายราวกับหมาตัวหนึ่ง บางรายก็ต้องเปลื้องผ้าเพื่อรองรับและปลดเปลื้องตัณหา ถ้าท้องขึ้นมาก็ถูกบังคับให้เอาเด็กออก ไม่ก็ปล่อยให้คนรับใช้เปลือยกายต่อหน้าเพื่อน หรือถ้านายขับรถชนใครตาย คนรับใช้ก็ต้องออกรับผิดติดคุกแทน อะไรพวกนี้เป็นต้น
ทำให้เราเห็นว่า การเข้ามาเป็นคนใช้ในบ้านหลังใหญ่เพื่อแลกกับเงินก้อนโต ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเลย ตรงกันข้าม กลับมีชีวิตไม่ต่างกันทาสที่คนเป็นนายไม่เคยเห็นค่าใดๆ
สิ่งที่สัมผัสได้จากซีรีส์ที่เล่าเรื่องชนชั้นพันธุ์ไทยเรื่องนี้
เอาจริงๆ เราออกจะรู้สึกว่า บทมันมีความเบียวๆ อยู่ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว คนรวยบ้านไหนกัน จะทรีตคนใช้บ้านตัวเองเหมือนหมา ให้คนรับใช้โน้มหัวมารับฝ่าเท้าได้ขนาดนั้น คนรับใช้ก็ยอมที่จะคลานและร้องเหมือนหมาเลยด้วยซ้ำ ขณะที่ฝ่ายชนชั้นสูงผู้เป็นเจ้าของบ้านก็มีนิสัยแย่ไปซะเกือบทุกคน ลูกชายคนนึงก็เสพยา ลูกชายอีกคนก็เสพติดเซ็กซ์ แต่ตัวพ่อนี่สิเอาคนใช้เป็นเมีย ส่วนหลานๆ ของเจ้าสัวก็สมสู่กันเอง มันดูเลวร้ายเกินกว่าจะมีในโลกจริง แต่เมื่อคิดไปอีกที ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ โลกจริงหรือโลกเบียว แยกกันแทบไม่ออกแล้วนี่นะ
สิ่งที่อาจชักชวนคนติดตามเรื่องราวก็คือ สาเหตุการตายของเจ้าสัวคืออะไรกันแน่ หากเป็นฆาตกรรม ใครกันที่เป็นคนฆ่าเจ้าสัว แล้วบทก็เขียนให้ไข่มุกเลือกที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ เพื่อสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายดังกล่าว แม้จะต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ท่ามกลางความรังเกียจและเหยียดหยามของคนในบ้านหลังนี้ ทั้งยังต้องอยู่ระหว่างกลางของการต่อสู้ฟาดฟันเพื่อช่วงชิงความเป็นใหญ่ในบ้านระหว่างพี่น้อง
เราอาจจะรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง ที่คนใช้บ้านนี้ บางคนสกิลดีมีความสามารถมากเสียจนไม่น่าจะต้องมาเป็นแค่คนใช้ แต่บทก็บอกให้เราเข้าใจว่า เพราะความจนเลยไม่สามารถเสาะหาอุปกรณ์มาพัฒนาความสามารถตนเองได้ ต้องแอบอิงใช้ของในบ้านคนรวยเพื่อพัฒนาฝีมือตนเอง
อีกประเด็นหนึ่งก็คือเรื่องผีเสื้ออันเป็นงานอดิเรกของเจ้าสัว ที่จะมีเรือนกระจกเอาไว้ใช้พักหย่อนใจแบบส่วนตัว ในนั้นก็จะเลี้ยงไว้ทั้งผีเสื้อ กลางวันและผีเสื้อกลางคืนกลางคืน แต่พวกมันก็ถูกเก็บไว้ให้เป็นความงามส่วนตัว ไม่เคยปล่อยให้ออกไปไหน ราวกับถูกกักขังไว้นั่นแล ไม่ต่างกับคนในบ้าน ไม่มีใครได้ออกไปไหน และมีเพียงไข่มุกที่ได้เข้าถึงเรือนกระจกหลังนั้น อันที่จริง ไข่มุกเองก็เหมือนผีเสื้อตัวหนึ่งของเจ้าสัวเขาหวังให้เธอได้สยายปีกสวยงามกว่าใคร แล้วไข่มุกก็ต้องมีบทที่ได้สยายปีกท่ามกลางแสงไฟด้วย ดูประหลาดอยู่มิใช่น้อยเลย
แม้บทของซีรีส์อาจจะไม่ถึงกับโดดเด้งหรือแปลกใหม่ แต่ที่สร้างมาก็พอมีให้เราเห็นว่า คนทำต้องการจะสื่ออะไร ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน และก็พยายามจะขีดเขียนให้มันมีทิศทาง ผู้ชมจะได้พบว่าเซอร์ไพรซ์ที่มีเข้ามาเรื่อยในทุกตอน ทั้งยังเขียนบทออกมาได้ใกล้เคียงซีรีส์จากต่างประเทศที่บางตอนนั้น ฉากแรกจะบอกเล่าเรื่องราวของอดีต ที่ส่งผลมาถึงการกระทำและความสัมพันธ์ของตัวละครในปัจจุบัน นอกจากนี้ ก็ยังมีเพลงประกอบที่คุ้นหูให้ฟังอยู่หลายเพลงด้วยกัน ซึ่งก็มักจะมาจากยุคอัลเตอร์ของวงการเพลงบ้านเรา
เอาเข้าจริง ก็มีอยู่บ้างที่รู้สึกว่าบทยังมีช่องโหว่ แต่ด้วยลีลาการแสดงของหลายตัวละครที่ทำหน้าที่ได้อย่างเยี่ยมยอด ทำให้แม้ไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้เราติดตามไปจนครบทั้ง 7 ตอน
“เป็นคนรวย ดีจังเลยนะคะ ทำอะไรก็ไม่ผิด”
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | สืบสันดาน / Master of the House |
ผู้กำกับ | ศิวโรจณ์ คงสกุล |
ผู้เขียนบท | ณัฐ นวลแพง, วีรสุ วรพจน์, วทัญญู อิงวิวัฒน์, สิตา ลิขิตวนิชกุล, อธิเมศร์ อรุณโรจน์อังกูร |
นักแสดง | นริลญา กุลมงคลเพชร, ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์, ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ, นุสบา ปุณณกันต์, ลัทธ์กมล ปิ่นโรจน์กีรติ, ฐิตินันท์ รัตนฐิตินันท์, นฤภรกมล ฉายแสง, ณัฐนันท์ ขุนเพชร, คลาวเดีย จักรพันธุ์ ณ อยุธยา, ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์, กิตติศักดิ์ ปฐมบูรณา, ณฐกร ไตรทิศยเวช |
แนว/ประเภท | ดราม่า, ลึกลับ, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 7 ตอน |
ช่องทางรับชม | เน็ตฟลิกซ์ |
เริ่มออกอากาศ | 18 กรกฎาคม 2024 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส, เน็ตฟลิกซ์ |