รีวิวซีรีส์ Lovely Runner ข้ามเวลามาเซฟเมน | สาวสุดโก๊ะ ฮาสุดน่ารัก

มันจะฟินแค่ไหน ถ้าเราที่เป็นแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ในตัวเมนที่เป็นนักร้องนำวงบอยแบนด์ ผู้ที่มีชีวิตอยู่ต่อหลังสูญสิ้นความหวังเพราะได้ฟังของเขา ได้ย้อนเวลากลับไปทำความรู้จักตั้งแต่วันที่เขายังเป็นคนธรรมดา แต่เราไม่ได้ต้องการจะคบหาเป็นแฟน แค่ต้องการเปลี่ยนอนาคตให้เขาไม่ซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย ‘Lovely Runner’ หรือชื่อไทย ‘ข้ามเวลามาเซฟเมน’ บอกเล่าถึงความสัมพันธ์ของติ่งกับเมนขอรับ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

เรื่องราวมันสร้างมาจากนิยาย เนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแฟนคลับและเมนที่อยู่ในวงบอยแบนด์ ซึ่งที่จริงก็เคยอยู่บ้านใกล้กัน อายุก็เท่ากัน โรงเรียนก็อยู่ติดกัน เขาเลยใส่เรื่องย้อนเวลาที่ทำให้คนสนใจติดตามเข้ามาได้ เพราะนางเอกจะย้อนไปเปลี่ยนแปลงอดีตเพื่อให้เมนของตนต้องตาย เลยได้อยู่ในอ้อมกอดของเมน ได้มองตาเมนใกล้ๆ ได้เชียร์กีฬาด้วยกัน แถมเมนยังมาบอกชอบอีก ต้องบอกว่า คนดูฟินสุดๆ ไปเลยล่ะ

บวกด้วยบุคลิกโก๊ะๆ ของนางเอกเข้าไป คู่รองก็เสริมความฮาได้อีก มันจึงกลายเป็นซีรีส์ที่คนสนใจติดตามเป็นพิเศษ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Lovely Runner’

ปี 2009 อิมซล (Kim Hye Yoon/คิมฮเยยุน จากซีรีส์ ‘Snowdrop’ และหนังเรื่อง ‘Ditto’) หญิงสาวที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการช่วงล่างและอาจฆ่าตัวตายไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเพลงของซอนแจในวันนั้น เธอยังใช้ชีวิตอยู่ต่อมาจนวันนี้ และได้กลายเป็นแฟนคลับของซอนแจอย่างจริงจัง แม้ยังต้องนั่งรถเข็น แต่เธอก็จิตใจดีขึ้นมากมาย แต่ทว่า…

ผ่านมาถึงปี 2022 รยูซอนแจ (Byeon Woo Seok/บยอนอูซอก จากซีรีส์ ‘Strong Girl Nam-Soon’ และหนังเรื่อง ‘Soulmate’) ไอดอลที่ได้ชื่อว่าร้องเพลงเก่ง ทำตัวดีและมีน้ำใจมากๆ แต่ตอนนี้เขาเหนื่อยล้ากับชีวิตในวงการบันเทิงจนอยากลาออกจากวงการ เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของอีคลิปส์ วงบอยแบนด์ที่เพิ่งกลับมารวมตัวกันเปิดคอนเสิร์ตอีกครั้ง

แต่แล้ว หลังจากซอนแจได้พบกับอิมซลอีกครั้งหลังคอนเสิร์ต ก็เกิดข่าวสะเทือนใจเมื่อซอนแจฆ่าตัวตาย ซลทุกข์ใจมากและได้พบว่าตัวเองได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตเมื่อ 15 ปีก่อน หรือในปี 2008 ที่นั่น ซลได้พบกับรยูซอนแจอีกหน ตอนนั้น เขายังเป็นเด็กหนุ่มนักเรียน ม.ปลาย วัย 19 ปี และซลตั้งใจจะปกป้องอนาคตของเขาไว้ให้ได้

รีวิวซีรีส์ ‘ข้ามเวลามาเซฟเมน’

เรื่องวุ่นๆ ของสาวโก๊ะที่ต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อปกป้องเมนอันเป็นที่รักให้เข้มแข็งไม่คิดฆ่าตัวตายเรื่องนี้ เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องร้อยวันพันเหตุการณ์ถาโถมชีวิตของซลหลังย้อนเวลากลับมาอดีตได้อย่างไม่คาดคิด มันบอกเราอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นติ่งของใครสักคนหนึ่ง คุณคงอยากให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขไปตราบนานเท่านั้น แล้วถ้าเมนคนนั้น คือคนที่ทำให้คุณเปลี่ยนความคิดที่จะฆ่าตัวตายล่ะ คุณคงยิ่งมีแรงจูงใจเต็มเปี่ยมที่จะปกป้องเขาเหมือนอย่างที่นางเอกของเราทำ

ชีวิตเบื้องหลังที่แสนยุ่งเหยิงของติ่งและเมน

บางคนอาจมองว่า “ติ่ง” เป็นคำที่สื่อไปเชิงเหยียด จึงชอบให้ใช้คำว่า “แฟนคลับ” มากกว่า ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่ในฐานะที่ก็เคยเป็นติ่งมาก่อน เราย่อมเข้าใจดีถึงสิ่งที่ติ่งเป็น และไม่มองติ่งในเชิงเหยียด อันที่จริง ทั้งติ่งและเมนก็เหมือนสองคนที่พึ่งพิงซึ่งกันและกัน เหมือนอย่างในเรื่องนี้ อิมซลรู้สึกขอบคุณซอนแจที่ทำให้เธอมีวันนี้ ทำให้ไม่ฆ่าตัวตายและยังใช้ชีวิตอยู่ต่อไป ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าเบื้องหลังรอยยิ้มนั้น เมนของเธอกำลังซึมเศร้า และคิดฆ่าตัวตาย เมื่อเธอได้รู้ข่าว ความรู้สึกอยากเซพเมนจึงพรั่งพรูเต็มหัวใจ ส่งผลให้นาฬิกาเรือนนั้นต้องออกมาทำงาน พาซลย้อนกลับอดีต

รอบตัวของติ่งอย่างอิมซล เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านที่บ้านทำกิจการร้านให้เช่าม้วนวิดีโอหนัง เธออยู่กับพี่ชาย แม่และยายในเวลาอดีต แต่ในปัจจุบัน เธอย้ายมาอยู่ในอพาร์ตเมนต์…

เธอได้ย้อนกลับไปเจอแม่และยาย(ที่ยังไม่เลอะเลือน)ในบ้านหลังเก่า ในวันที่ขาของเธอยังใช้การได้ปกติ นอกจากจะทำให้เจอกับซอนแจที่อยู่บ้านตรงข้ามแถมโรงเรียนก็อยู่ติดกัน มันยังทำให้เธอได้เจอกับ คิมแทซอง (Song Geon Hee/ซงกอนฮี) รุ่นน้องมือเบสนิสัยเกเรที่ซลในวัยนั้นดันไปหลงรัก และอีกคนก็คือ แบคอินฮยอก (Lee Seung Hyub/อีซึงฮยอบ) เพื่อนสนิทที่ชักพาซอนแจเข้าวงการบันเทิง

ซอนแจฆ่าตัวตายในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2023 นั่นคือเวลาที่นาฬิกาจะทำงานของมัน

คิมฮเยยุน คือ นางเอกที่เล่นบทโก๊ะได้น่ารักมาก

การย้อนเวลาครั้งนี้ ทำให้ซลได้กลับมาใช้ขาของตัวเองได้อีกครั้ง และตั้งความหวังจะประคับประคองดูแลจิตใจของซอนแจ ปกป้องซอนแจ ไม่ให้โดดเดี่ยวตอนทุกข์ใจหรือไม่คิดอะไรที่น่ากลัวๆ แต่ก็ตามมาด้วยภารกิจยิบย่อยหลายอย่าง เริ่มต้นด้วยการเซฟชีวิตเมนที่ก็ดันเป็นชายหนุ่มวัยเดียวกันที่อยู่คนละโรงเรียนแต่ตั้งอยู่ติดกัน แถมยังมาพบว่า บ้านอยู่ใกล้กันซะอีก

ก่อนที่จะพบว่า เธอต้องเริ่มต้นเปลี่ยนชีวิตของเมนตั้งแต่ที่เขายังเป็นนักกีฬาว่ายน้ำตัวแทนโรงเรียน เรื่อยมาถึงการช่วยไม่ให้บ้านไฟไหม้ ไหนจะเรื่องความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงเพราะซลคนเดิมนั้นชอบคิมแทซองเอามากๆ ขณะที่ซลคนใหม่ชอบซอนแจ นอกจากนี้ ตัวซลเองก็ยังมีแผลใจ (trauma) เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ส่งผลให้เธอต้องเป็นคนพิการนั่งรถเข็นมาจนปัจจุบัน

ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การย้อนเวลากลับไปกลับมา แต่มันคือการใส่บุคลิกโก๊ะๆ เข้าไปในคาแรกเตอร์นางเอก ทุกช่วงเวลาจะมีเหตุการณ์อะไรบ้าๆ บอๆ ที่ชวนให้ขำกลิ้งได้เรื่อยๆ ซึ่งฮเยยุน เธอเล่นคอมเมดี้ได้เก่งโคตร จะว่าไป ฮเยยุนไม่ใช่คนที่สวยสะกดสายตา แต่เป็นคนที่ยิ้มแล้วโลกสดใส ทั้งยังแสดงบทโก๊ะได้น่ารักมากๆ และตัวบทเองก็ส่งเสริมให้เธอได้เล่นเชิงคอมเมดี้สลับดราม่าไปมาได้ตลอดเรื่อง

ใครๆ ก็คงเดาได้ไม่ยากว่า บทคงต้องมีกลับไปกลับมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน พร้อมด้วยกฎที่ใส่เพิ่มเข้ามาอย่างเช่น มีข้อจำกัดว่า ซลจะไม่สามารถบอกเตือนความจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลยเพราะเวลาจะหยุดเดิน ซึ่งเธอก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์เวลาจะหลบเลี่ยง เวลาเอาเรื่องจริงมาพูดแต่ละอย่างนี่ ขำกันจนอิ่มไปเลย

แต่พอถึงบทเสียน้ำตา ฮเยยุนก็เอาอยู่ พาคนดูร้องตามไปหลายหน ก็ไม่ได้นับว่า คนดูต้องเห็นฮเยยุนร้องไห้กี่ครั้งหรอกนะ เพราะอิมซลพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปกป้องเมนไม่ให้ต้องซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในวันใดวันหนึ่งไปอีก แต่ก็พบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ได้ผลตามที่มุ่งหวัง และเหตุผลส่วนนึงที่อินกับบทนางเอกในเรื่องได้ ก็เพราะนายแพทเองก็เคยเป็นแฟนคลับของใครสักคนมาก่อน จึงเข้าใจจิตใจของนางเอกได้ดีนั่นเอง

“ต่อให้นายอยู่ในอีกช่วงเวลา ฉันก็จะฝ่าทุกอย่าง แล้วไปหานาย”

สิ่งที่เราจะสัมผัสได้จากซีรีส์เรื่องนี้

ท่ามกลางความสัมพันธ์แบบติ่งตัวเล็กกับเมนตัวโย่งนั่น มันก็มีอะไรหลากหลายมุมให้เราได้สัมผัสและฉุกคิด เรื่องแรกเลย คือมันบอกเราให้เข้าใจถึงความเจ็บปวดของนักกีฬาที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความฝันและความสำเร็จ แต่เพราะเหตุผลที่พบบ่อยอย่างอาการบาดเจ็บทางร่างกาย ที่มักทำให้พวกเขาต้องเจ็บปวดมากขึ้น เพราะต้องผ่าตัดบ้าง กายภาพบำบัดบ้าง และหลายคนก็อาจต้องหยุดเส้นทางสายนี้ไปเลย เพราะฝืนไปต่อไม่ได้แล้ว ทำให้พวกเขาอยู่กับแผลเป็นในใจอันนั้นไปจนตลอดชีวิต

อีกส่วน ก็คงเป็นการเข้าใจความเจ็บปวดของการใช้ชีวิตไอดอลทั้งหลาย พวกเขาต้องเผชิญหลากหลายเรื่อง ทั้งการรับมือกับความดัง ที่ตามมาด้วยเรื่องการรับมือกับข่าวและสื่อ แอนตี้แฟนและสตอล์กเกอร์ต่างๆ ทำให้หลายคนต้องรับมืออย่างโดดเดี่ยว และอาจถึงขั้นฆ่าตัวตายเพื่อหลุดพ้นจากความเหนื่อยล้านี้ไปเสียที

“ซอนแจ ขอบคุณนะ ที่มีชีวิตอยู่”

แต่ขณะเดียวกัน มันก็เล่าถึงบรรดาติ่งที่เหนียวแน่นและรักจริงจัง หวังให้เมนของพวกเขาได้มีความสุขกับชีวิต ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวัง เป็นความรักที่แทบไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน อย่างในเรื่องนี้ นางเอกที่เป็นแฟนคลับ เมื่อได้รู้ว่าเมนของตนฆ่าตัวตายเพราะอะไร เธอเลยพร้อมพยายามอย่างหนักเพื่อให้เมนของตนเองมีชีวิตที่ดี การที่เธอได้ย้อนเวลากลับไปยังอดีต มันเหมือนเธอได้เติบโตไปพร้อมกับเมนของตัวเอง ได้เป็นกำลังสำคัญให้กับคนที่ตัวเองติ่งอยู่

แต่ไม่รู้จะทำให้ติ่งทั้งหลายมโนหนักข้อขึ้นหรือเปล่า ว่าจะมีสักวันที่ฉันได้ใกล้ชิดและเป็นแฟนกับเมนของตนเองบ้าง ซึ่งเรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้น้อยมาก..น้อยมากจริงๆ

ถ้าจะให้พูดอย่างสรุปรวม ต้องบอกว่า ‘ข้ามเวลามาเซฟเมน’ เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่หยิบเอาหลายแนวทางในการบอกเล่ามาผสมกันได้ลงตัวและน่าติดตามมาก เริ่มต้นเลย มันก็คือซีรีส์แนวย้อนเวลาเพื่อทำภารกิจช่วยชีวิตให้สำเร็จ ด้วยตัวมันเอง ก็ชวนให้คนอยากรู้ว่าจะอะไรเกิดขึ้นต่อไปอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน มันก็เล่าเรื่องรักโรแมนติกของคนหลายคู่ (พี่ชายของนางเอกกับเพื่อนนางเอก เป็นคู่รองที่น่ารักและชวนฮามากเช่นกัน) ผสมกับความคอมเมดี้ที่บางช่วงก็จริงจัง แต่บางช่วงก็ติดเล่น อย่างน้อย ทีมงานก็คิดถูกที่เลือกพระนางมาเป็นคู่นี้ คนหนึ่งโก๊ะและน่ารักมาก แต่อีกคนกลับดูนิ่งกว่าเยอะ

เอาจริงๆ บางช่วงของซีรีส์ เหมือนจะติดเล่นเยอะไปด้วยซ้ำ ทำให้เรื่องราวดูไม่ค่อยมีอะไรและไม่ค่อยเดิน แต่ความติดตลกของมันก็ทำให้คนดูขำกลิ้งไปด้วยได้อยู่ และด้วยคอนเซปต์ของการย้อนเวลา ตัวละครจะได้เรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงอนาคตไม่ใช่เรื่องง่าย บางสิ่งก็เปลี่ยนได้ แต่บางสิ่งเปลี่ยนไปก็อาจเกิดผลอีกสิ่งแทน ซึ่งพวกเขาจะไม่อาจรู้ล่วงหน้าต้องไปเจอเอาเอง

นอกจากนี้ มันก็ยังมีเรื่องอันตรายอย่างอาชญากรจากฆาตกรโชเฟอร์แท็กซี่คนนั้น ที่มีบทบาทเข้ามาในหลายช่วงเวลา ก็ต้องคนดูต้องลุ้นระทึกไปว่า เหตุการณ์จะพลิกผันอย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลหลอมรวมกัน ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ยอดนิยมของคนดูใน VIU และก้าวข้ามมาถึงสมาชิก Netflix ที่ได้รับชมกันต่อเนื่องทั้ง 16 ตอน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์