บางครั้งบางคราว เราก็ชอบที่จะเสาะหาซีรีส์เกาหลีเรื่องเก่าที่เคยพลาดชมไปในวันที่ว่างและรอเรื่องใหม่ผ่านเข้ามา และเรื่องนั้นที่ถูกเลือกก็คือเรื่องนี้ ‘Live Up To Your Name’ หรือชื่อไทยว่า ‘คุณหมอสองภพ’ ซีรีส์ที่รวมหลากแนวเข้าไว้ด้วยกัน มันเป็นได้ทั้งซีรีส์แนวคุณหมอ เป็นซีรีส์แฟนตาซีข้ามเวลา ไม่พอยังเป็นซีรีส์เกาหลีแนวรอมคอมได้อีก เรื่องราวของคุณหมอฝังเข็มยุคโชซอนที่ข้ามเวลามาอยู่ในเกาหลีปัจจุบัน พบเจอและคบหากับศัลยแพทย์สาวคนที่เกลียดการฝังเข็ม ฟังแค่พล็อตก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะครับ
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
คือซีรีส์ที่ผสมผสานหลาย genre เข้ามาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว มีความเป็นซีรีส์ย้อนเวลา (แถมยังย้อนกลับไปกลับมาได้ด้วย) พาไปเจอกับโชซอนยุควุ่นวาย มีสงคราม คนหนีหาย แถมยังมีญี่ปุ่นบุกเมือง มีความเป็นซีรีส์การแพทย์ มีทั้งฉากผ่าตัดและฝังเข็ม หยิบสองศาสตร์ของหมามีผสมผสานกัน มีความเป็นซีรีส์รอมคอม เพราะพระเอกเป็นหมอฝังเข็มในยุคโชซอนที่มีบุคลิกหลุกหลิกชวนฮา และได้มารักกกับนางเอกที่เป็นศัลยแพทย์หัวใจ แถมยังมีความเป็นซีรีส์แนวลึกลับที่พาคนดูไปค้นหาว่า ครั้งหนึ่ง มันเคยเกิดการย้อนเวลาแบบนี้มาก่อนแล้ว และครั้งนั้นเป็นใครกัน
ซีรีส์หยิบเรื่องของคนจริงที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์ บริบทจริงที่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินเกาหลี มาผูกเป็นเรื่องเป็นราวที่เล่าได้สนุก แถมนางเอกสวยมาก ดูแล้วไม่เสียเวลาแน่นอนครับ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Live Up To Your Name’
เกาหลียุคปัจจุบัน มีคุณหมอคนสวยที่ชื่อ ชเวยอนคยอง (คิมอาจุง/Kim A Joong จากซีรีส์เรื่อง ‘Grid’ และ ‘Sign’) ศัลยแพทย์ทรวงอกและหัวใจผู้ไม่เชื่อถือในแพทย์แผนโบราณที่รักษาด้วยวิธีฝังเข็ม
ตัดกลับไปที่เกาหลีในยุคโชซอน หมอฮออิม หรือหัวหน้าหมอฮอ (คิมนัมกิล/Kim Nam Gil จากซีรีส์เรื่อง ‘Song of the Bandits’ และหนังเรื่อง ‘Emergency Declaration’) เป็นแพทย์หนุ่มฝีมือดีที่เชี่ยวชาญในการตรวจชีพจร วินิจฉัยโรค รมยาและฝังเข็ม ทำงานในโรงหมอชื่อแฮมินซอ
แล้ววันหนึ่ง โอกาสที่ดีก็มาหาหมอฮอ เขาได้เข้าถวายการรักษาอาการปวดเศียรของฝ่าบาท พร้อมกับกล่องใส่เข็มที่จู่ๆ ก็มาอยู่ในมือ แต่เมื่อเข้าไปรักษาจริงๆ มือเกิดสั่น แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ โดนทหารไล่ล่ายิงธนูใส่ ลูกศรกระแทกร่างจนร่วงลงไปในแม่น้ำ และเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบตัวเองอยู่ในโลกปัจจุบัน
โชคชะตาพาคุณหมอของสองยุคมาเจอกัน หมอฮอหน้าเงินที่เชี่ยวชาญการฝังเข็ม ย่อมไม่คุ้นเคยกับโลกที่เปลี่ยนไปมากมาย ได้มาเจอกับหมอชเวที่เกลียดชังวิชาการฝังเข็ม ทั้งสองคนจะรักกันยังไง มีอะไรที่พาให้เขาทั้งสองมาเจอกัน แล้วเรื่องมันจะลงเอยยังไงนะ ว้าวุ่นเลยทีนี้
รีวิวซีรีส์ ‘คุณหมอสองภพ’
ซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าเรื่องของหมอสองคนที่มีชีวิตอยู่บนคาบสมุทรเดียวกันแต่ต่างเวลา ที่มาเจอกันได้เมื่อฝ่ายหนึ่งข้ามมาโดยไม่ตั้งใจ มาเจอกับอีกฝ่ายที่ก็เป็นหมอเหมือนๆ กัน แต่ต่างกันที่ฝ่ายหนึ่งแผนโบราณ อีกฝ่ายเป็นแผนปัจจุบัน ฝ่ายหนึ่งสนใจใคร่รู้ในสิ่งใหม่ แต่อีกฝ่ายเลือกจะปิดตัวเอง
รู้จักกับ 2 หมอจาก 2 ภพกันก่อน
ฝ่ายชายคือ ฮออิม เป็นหมอฝังเข็มผู้เก่งกาจ แต่เกิดในตระกูลต่ำต้อยจึงไม่ได้เป็นหมอหลวง มีหน้าที่รักษาคนไข้ก็จริงแต่ก็ไม่ใส่ใจจะรักษาคนจนเท่าไรนัก ตกกลางคืนเขามักออกไปรักษาพวกขุนนาง หอบเงินหอบทองมากองเก็บซ่อนไว้ จนถูกตราหน้าว่าเป็นหมอหน้าเงิน ลุ่มหลงเงินทอง ไม่ได้จิตวิญญาณความเป็นหมอจริงๆ
กับอีกคนเป็น ชเวยอนคยอง หญิงสาวที่มีชีวิตเป็นศัลยแพทย์ทรวงอกในโรงพยาบาลใหญ่ในเวลาปัจจุบัน ชอบเที่ยวผับ ไม่เชื่อในเรื่องการฝังเข็ม ไม่กินยาสมุนไพร พูดง่ายๆ ไม่เชื่อในแพทย์แผนโบราณเพราะมองว่าเป็นสาเหตุให้แม่ต้องเสียชีวิต เธอค่อนข้างปวดหัวกับชีวิตในโรงพยาบาลอยู่หน่อยๆ เคยผ่าตัดผิดพลาด ต้องแข่งขันกับบรรดาหมอผู้ชาย แถมหมอใหญ่ก็ดูจะไม่ปลื้มเธอเท่าไหร่ แต่อย่างน้อย เธอก็ยังเป็นหลานของเพื่อนผู้อำนวยการคลินิกแพทย์แผนตะวันออกแหละน่า
หมอสองคนนี้มีความเกี่ยวข้องกันอยู่นิดหน่อย ตรงที่หมอชเวมีคุณปู่เป็นหมอแผนตะวันออกที่ตั้งชื่อคลินิกว่า แฮมินซอ ชื่อเดียวกับโรงหมอที่หมอฮอทำงานอยู่ในยุคโชซอน แน่นอนว่าคุณปู่ของหมอชเวต้องรู้จักหมอฮออิมเป็นอย่างดี เรื่องนี้มีเงื่อนงำเพราะคุณปู่เองก็เคยพูดว่า “อีกครั้ง” ฉะนั้น การข้ามภพแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกอย่างแน่นอน
ที่น่าสนใจก็คือ หมอฮอ เป็นหมอที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 500 ปีก่อน เมื่อข้ามมาเจอโลกปัจจุบัน จึงพบแต่ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว แม้ภาษาจะไม่ต่างกันนัก แต่โลกปัจจุบันนี้ ผู้หญิงก็เป็นหมอได้ หมอฮอผู้มาจากสังคมที่แบ่งชนชั้นเข้มข้น มาเจอโลกที่ผู้หญิงทำอะไรได้ไม่ต่างจากผู้ชาย เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยขึ้นไปเยอะ ก็ต้องตื่นตกใจบ้างล่ะ ทั้งยังพบว่า ยุคนี้ก็ยังมีแพทย์แผนโบราณหรือแผนตะวันออกอยู่เช่นกันนะ
ความฮาที่มาไม่หยุดหย่อน พร้อมกับความลึกลับบางอย่าง
แม้จะประกาศตัวว่าเป็น ซีรีส์แนวคุณหมอ นำเอาแพทย์แผนตะวันออกมาปะทะแพทย์แผนปัจจุบัน นำเอาการรักษาแบบฝังเข็มมาปะทะกับการผ่าตัด เป็นหนทางใหม่ๆ แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะมันยังมีทั้งพล็อตข้ามเวลา แถมยังข้ามไปข้ามมาด้วย และอีกมุมหนึ่ง มันก็มีความโบ๊ะบ๊ะ มีความฮาด้วยลีลาการแสดงของ คิมนัมกิล ชายคนนี้เล่นคอมเมดี้ได้เก่งไม่เบา ทั้งสีหน้าท่าทาง ชวนขำไปหลายตลบ เป็นซีรีส์ที่พาอารมณ์ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บทของเขา คือหมอที่เชี่ยวชาญการฝังเข็มในยุคโชซอน เมื่อมาอยู่ในโลกปัจจุบัน บทก็เขียนให้วนเวียนอยู่รอบตัวหมอชเวแบบดิ้นไม่หลุด ไม่ว่าจะเป็นการอ้างตัวว่าเป็นแฟนของเธอ หาเรื่องเจ็บป่วยให้เธอต้องมาช่วยเหลือ แถมยังข้ามสู่อดีตไปด้วยกันอีก สิ่งที่น่าสงสัยเกี่ยวกับอดีตของหมอชเว ก็คือ จู่ๆ หมอก็เป็นลมล้มพับหลังเห็นคนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้มองว่าเธอน่าจะมีปมในใจอะไรสักอย่าง และเหตุเช่นนี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อได้พบกับหมอฮอ
ด้านหมอฮอน่ะเหรอ ก่อนก้าวทะลุมิติมาปัจจุบัน เขาพบกล่องใส่เข็มลึกลับ (ซึ่งเขาก็ดันใช้มันกับพระราชาซะด้วย) ที่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ถูกไล่ล่าเพราะข้อหาดูหมิ่นกษัตริย์ ถูกญาติผู้ป่วยอาฆาตแค้น ทั้งนิสัยห่วงทรัพย์สินมากกว่าจรรยาบรรณหมอก็ยังสร้างความแคลงใจให้กับหมอชเว เพราะเธอรู้สึกว่าเขาไม่ยังน่าจะใช่หมอที่ดี
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องลึกลับอื่นที่ชวนให้ค้นหา อย่างเช่น ชายกลางคนที่อยู่ในคุก เหมือนจะรู้เรื่องการข้ามมิติเป็นอย่างดี กระทั่งคุณปู่ก็ดูจะรู้จักหมอฮออิม แล้วยังอาการของหมอชเวที่เหมือนเห็นภาพอดีตอะไรนั่นอีก เรียกว่า มีสิ่งน่าสงสัยเยอะไปหมด
ได้เจอกับ 2 สาวที่กลายเป็นนักแสดงคนดัง
เคยคิดว่าจะเปิดดูมาพักใหญ่ละ ซีรีส์ที่ฉายในปี 2017 นี้ พาเราไปรู้จักกับดารามีชื่อที่เคยรับบทบาทสมทบในวันเก่า ไม่ว่าจะเป็น มุนกายอง ที่เล่นเป็น มักแก ลูกมือคนสนิทของหมอฮออิม แล้วก็ยังได้เจอ โนจองอี ที่เล่นเป็นโอฮารา คนไข้เด็กวัยรุ่นขี้เอาแต่ใจของหมอชเว แท้จริงแล้ว เธอมีปัญหาเรื่องหัวใจและต้องผ่าตัดด่วน แต่ก็ไม่ยอมผ่าเพราะปัญหาในครอบครัว
มีคนในอดีต ก็ต้องมีคนในปัจจุบัน
ตัวละครพระนางของเราต้องย้อนไปย้อนมาระหว่างโชซอนและเกาหลีปัจจุบัน ตัวละครบางตัวก็จะหน้าเดียวกัน อย่างเช่น ยูแจฮา (ยูมินคยู/Yoo Min Kyu จากซีรีส์เรื่อง ‘Arthdal Chronicles: The Sword of Aramun’ และ ‘Mr. Queen’) ในเวลาปัจจุบัน เขาเป็นหลานชายของผู้อำนวยการ เพิ่งกลับจากเมืองนอกเมืองนา แต่ว่ามีความเชี่ยวชาญในวิชาการฝังเข็มด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เขาเด็กกว่าหมอชเว 1 ปี และก็พยายามจีบหมอชเวอย่างไม่ลดละ ยิ่งได้เห็นหมอฮอใกล้ชิดกับหมอชเวก็ยิ่งหมั่นไส้ หมอฮอจึงกลายเป็นคู่แข่งในโรงพยาบาล
อีกบทบาทของ ยูมินคยู ก็คือการเป็น ยูจินโอ คนสูงศักดิ์ในยุคโชซอนที่เป็นศัตรูกับหมอฮออิม และเมื่อเขาเห็นหมอชเวที่ข้ามเวลาไปก็ถูกใจอยากได้เป็นภรรยา ทำให้หมอฮอมีคู่แข่งหน้าเดียวกันทั้งในยุคโชซอนและเกาหลียุคปัจจุบัน
อ้างอิงเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี
ซีรีส์เรื่องนี้ บางคนจะจดจำในชื่อเต็มๆ ว่า ‘Live Up To Your Name, Dr. Heo’ มันก็คือเรื่องเดียวกันแหละ และเอาเข้าจริง สิ่งที่ซีรีส์เล่าก็มีความจริงของทางประวัติศาสตร์แทรกอยู่นะ
หนึ่งคือในยุคนั้น เมืองหลักของอาณาจักรโชซอน ก็คือ ฮานยาง (หรือบางคนก็เรียก ฮันยาง) ซึ่งก็คือกรุงโซลในปัจจุบันนั่นเอง อีกสิ่งที่มีอยู่จริงก็คือ หมอฮออิม เป็นบุคคลที่มีอยู่จริง จากข้อมูลในเว็บคอซีรีส์ เป็นหมอที่เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มในยุคโชซอน แต่เกิดในครอบครัวชั้นทาส พอดีว่าช่วงเวลานั้น บ้านเมืองเกิดสงคราม ทำให้คนส่วนใหญ่หนีออกนอกประเทศ จนมีโอกาสได้เข้าถวายรักษาเชื้อพระวงศ์ และต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการระดับสูง มีชื่อเสียงเลื่องลือและเขียนตำราเรื่องการฝังเข็มไว้มากมาย
อีกส่วนก็คือ เกาหลีในอดีตนั้นเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยเรื่องชนชั้น แถมมีความเหยียดกันในระดับสูง ในซีรีส์จึงมีบทพูดที่แสดงถึงความเย่อหยิ่งในความเป็นคนระดับสูงที่รังเกียจคนชั้นต่ำอยู่บ่อยๆ ยิ่งในช่วงสงคราม คนหนีออกไปกันเยอะ ก็จะเหลือแต่คนชั้นต่ำที่ไม่มีที่ให้ไป นอกจากนี้ ช่วงเวลานั้นก็มีพวกญี่ปุ่นที่บุกเข้ามาทำลายเมือง
เรื่องต่อมา คือ เรื่องการเข้าถวายการรักษาพระอาการประชวรของกษัตริย์ ถ้าหมอทำพลาด แม้กระทั่งรักษาไม่สำเร็จ พระอาการไม่ดีขึ้น ก็มีสิทธิจะถูกประหารได้ การเป็นหมอนอกวังและได้เข้าถวายการรักษาของหมอฮออิมถือเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ แต่การไปทำมือสั่นระหว่างจ่อเข็มจะถูกมองเป็นการดูหมิ่น ช่างเป็นความเสี่ยงอันใหญ่หลวงของคนเป็นหมอ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ต้องถูกทหารไล่ล่าจนเป็นที่มาของการข้ามมิติ
สรุปเลยแล้วกันนะ
สิ่งหนึ่งที่จะรู้สึกสงสัยมากหน่อยในระหว่างดู ก็คือเรื่องความสะอาดของเข็มที่หมอฮออิมใช้ เท่าที่ดู เข็มแต่ละเล่ม ไม่เคยมีการฆ่าเชื้อ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันสะอาดพอ เพราะมันใช้กับผู้คนมากหน้า ที่จริงถ้าบทใส่เข้ามาบ้างว่าหมอทำความสะอาดยังไงก็น่าจะคลายข้องใจไปได้บ้างแหละ
ยอมรับในความเก่งด้านการแสดงของ คิมนัมกิล เล่นออกมาเพี้ยนๆ ไม่ห่วงหล่ออะไรเลย ชวนขำได้ตลอดๆ บทจะดราม่าก็เปลี่ยนปุบปับแต่ทำเราน้ำตาซึมได้ทันที ขณะที่ คิมอาจุง นางเอกสาวคนนี้สวยสะดุดใจตั้งแต่แรกเห็น เป็นคนที่ได้ดูผลงานของเธอน้อยมาก คาแรกเตอร์ของเธอในเรื่องนี่เป็นคนอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เข้าใจยากอยู่นะ บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจตรรกะของนางสักเท่าไหร่
บทของเรื่องนี้ จะทำให้เราได้เห็นถึงหัวใจของการเป็นหมอ เข้าใจความรู้สึกของหมอฮออิมว่าทำไมเขาจึงกลายเป็นคนแบบนั้น และการข้ามเวลาไปมาเนี่ย จะทำให้เขากลายเป็นหมอฮออิมผู้ลื่อเลื่องในยุคของเขาได้ยังไง ซีรีส์เรื่องนี้มันน่าสนใจตรงที่หยิบเอาแพทย์แผนปัจจุบันกับแพทย์แผนตะวันออกมาปะทะและประสานกัน เป็นเรื่องที่ดูสนุกเพราะมันรวมเอาทุกหมวดหมู่มารวมกัน ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะพอดีที่เปิดมาดูระหว่างรอซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่มา
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Live Up To Your Name / คุณหมอสองภพ / Deserving of the Name / 명불허전 |
ผู้กำกับ | Hong Jong Chan/ฮงจงชาน (เจ้าของผลงาน ‘Link: Eat, Love, Kill’ และ ‘Juvenile Justice’) |
ผู้เขียนบท | Kim Sun Soo/คิมซอนซู (เจ้าของผลงาน ‘Ghost Doctor’) |
นักแสดง | คิมอาจุง/Kim A Joong, คิมนัมกิล/Kim Nam Gil, ยูมินคยู/Yoo Min Kyu, มุนกายอง/Mun Ka Young, โนจองอี/Roh Jeong Eui |
แนว/ประเภท | ดราม่า, แฟนตาซี, โรแมนติก, คอมเมดี้ |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 16 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 12 สิงหาคม – 1 ตุลาคม 2017 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Bon Factory Worldwide, Studio Dragon, tvN, Netflix |
คะแนนซีรีส์ คุณหมอสองภพ
พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานภาพ โปรดักชั่น และเทคนิคพิเศษ - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 8
7.7
Live Up To Your Name
คือซีรีส์ที่ผสมผสานหลาย genre เข้ามาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้อย่างลงตัว มีความเป็นซีรีส์ย้อนเวลา (แถมยังย้อนกลับไปกลับมาได้ด้วย) พาไปเจอกับโชซอนยุควุ่นวาย มีสงคราม คนหนีหาย แถมยังมีญี่ปุ่นบุกเมือง มีความเป็นซีรีส์การแพทย์ มีทั้งฉากผ่าตัดและฝังเข็ม หยิบสองศาสตร์ของหมามีผสมผสานกัน มีความเป็นซีรีส์รอมคอม เพราะพระเอกเป็นหมอฝังเข็มในยุคโชซอนที่มีบุคลิกหลุกหลิกชวนฮา และได้มารักกกับนางเอกที่เป็นศัลยแพทย์หัวใจ แถมยังมีความเป็นซีรีส์แนวลึกลับที่พาคนดูไปค้นหาว่า ครั้งหนึ่ง มันเคยเกิดการย้อนเวลาแบบนี้มาก่อนแล้ว และครั้งนั้นเป็นใครกัน ซีรีส์หยิบเรื่องของคนจริงที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์ บริบทจริงที่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินเกาหลี มาผูกเป็นเรื่องเป็นราวที่เล่าได้สนุก แถมนางเอกสวยมาก ดูแล้วไม่เสียเวลาแน่นอนครับ