รีวิวซีรีส์ Jeongnyeon: The Star is Born | พาย้อนสู่เกาหลียุคที่ละครกุกกึกรุ่งเรือง

บางครั้งบางหน เราก็อาจมองเห็นว่า รอบกายของคนมีพรสวรรค์ ต้องมีแต่คนริษยา ยิ่งผู้คนรับรู้ว่าเป็นลูกสาวคนดัง ก็ยิ่งจำเป็นต้องฟันฝ่าทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตนเอง คิมแทรี ได้บทบาทใหม่ที่เธอทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกแล้ว เรื่องนี้ ‘Jeongnyeon: The Star is Born’ เธอต้องเล่นเป็นนักแสดงละครกุกกึก อันเป็นละครที่เคยรุ่งเรืองในช่วงหนึ่งของเกาหลี และเป็นบทที่ทำให้เธอต้องฝึกฝนการร้องอย่างหนัก และเธอก็ทำมันออกมาได้ดีซะด้วย

คิมแทรี กับบท จองนยอน หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมกับเสียงสวรรค์ประทาน
source: tvN

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เรื่องนี้?

ซีรีส์เกาหลีความยาว 12 ตอนเรื่องนี้ พาเราย้อนกลับสู่เกาหลียุคที่ยังมีละครกุกกึก ศิลปะการแสดงแนวละครเวทีที่ผสมผสานทั้งการร้อง แสดงและเต้นเข้าด้วยกัน โดยคณะละครที่ซีรีส์โฟกัสเป็นคณะที่ใช้ตัวแสดงเป็นหญิงล้วน บอกเล่าชีวิตของแต่ตัวละครในคณะ ตั้งเด็กฝึกไปจนถึงหัวหน้าคณะ ในช่วงเวลาที่กระแสใหม่อย่างทีวีและภาพยนตร์กำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่ความนิยม เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราได้เห็นความสามารถทางด้านการร้องของนักแสดงหลายคน เป็นเหมือนเรื่องราวซ้อนเรื่องราว

และเขาก็ทำให้เราเหมือนไปนั่งอยู่หน้าเวทีของโรงละครที่เราเพิ่งจะได้รู้จัก


ซีรีส์ ‘Jeongnyeon: The Star is Born’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?

เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้ ย้อนกลับไปยังเกาหลีในช่วงปี 1905’s หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง ยุนจองนยอน (Kim Tae Ri/คิมแทรี จากซีรีส์ ‘Revenant’) ลูกสาวคนรองที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านการร้อง วันไหนที่เธอร้องเพลงที่ตลาดเมืองมกโพ ก็มักจะเป็นวันที่ขายปลาได้หมดทุกครั้งไป แม้แม่ของเธอเอ่ยห้ามอย่างเด็ดขาด หากสิ่งที่จองนยอนใฝ่ฝันก็คือการเดินทางเข้ากรุงโซลเพื่อสร้างความร่ำรวยจากการเป็นนักแสดงในคณะละครกุกกึก

โชคชะตาพาให้เธอได้มาพบกับมุนอ๊กกยอง (Jung Eun Chae/จองอึนแช จากซีรีส์ ‘Anna’ และ ‘Pachinko’) พระเอกของเมรันกุกกึกดัน คณะละครชื่อดังที่ใช้ตัวแสดงเป็นหญิงล้วน และได้เข้าดูการแสดงของคณะละครดังกล่าวที่มีหัวหน้าเป็น คังโซบก (Ra Mi Ran/รามีรัน จากซีรีส์ ”) จุดประกายในการเข้ามาร่วมออดิชันเป็นเด็กฝึกคนใหม่ของคณะละคร

ตัวอย่างซีรีส์ ‘JeongNyeon: The Star is Born’ [ซับไทย]

นี่คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามในการก้าวขึ้นเป็นดาวเด่นในคณะละครหญิงแห่งชาติ ในยุคที่ทีวีและภาพยนตร์กำลังเข้ามาแทนที่ แม้ในวันแรกที่เข้าไป เธอจะมองว่ามันทำให้เธอมีเงินมีทองใช้ และไม่ได้มีความรู้ในด้านดังกล่าวเลยก็ตามที


รีวิวซีรีส์ ‘Jeongnyeon: The Star is Born’

ดูเป็นซีรีส์ที่มีความแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ อยู่พอสมควร ด้วยเพราะมันหยิบเอาศิลปะการแสดงบนเวทีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยมในสังคมเกาหลียุคหนึ่ง ศิลปะที่รวมเอาลีลาการร้อง เต้น และแสดง เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสำหรับคนที่รู้จักเกาหลีแบบผิวเผิน นี่ถือเป็นสิ่งใหม่ที่ได้เข้าไปทำความรู้จัก การร้องพันโซรีและคณะละครกุกกึกหญิง ที่ถูกบอกเล่าโดยโฟกัสที่ตัวละครหญิงผู้มีความสามารถและพรสวรรค์ด้านการร้อง แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเต้นและแสดง แต่มุ่งมั่นพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเวลาที่ละครกุกกึกกำลังอยู่ช่วงขาลง เพราะทีวีและภาพยนตร์เริ่มเข้ามาแทนที่ความนิยม

ซีรีส์แนวมิวสิคัลที่พาเราไปรู้จักกับละครกุกกึกของเกาหลีสมัยโน้น

มันเล่าเรื่องชีวิตของตัวละครที่อยากถีบตัวเองขึ้นมาจากความยากจน ชนชั้นที่ต่ำต้อย เลี้ยงชีพด้วยการขายปลาในตลาด เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปชมละครเวทีที่ใช้การร้องที่เธอรัก แถมสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ มีชีวิตที่สุขสบายกว่าที่เธอเติบโตมา จึงมองว่านี่คือหนทางที่ใช่และกระโจนเข้าใส่อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ใช้พลังความอยากรู้ อยากพัฒนาอย่างเต็มที่ ก่อนจะรู้ว่าระหว่างทางนั้นมันไม่ง่าย ความฝันพร้อมถูกทำลายลงตลอดเวลา ทั้งคนที่พยายามขัดขา ทั้งการแข่งขันที่เอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะได้เป็นอันดับหนึ่งแทนที่คนเก่า

อันที่จริง ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาเว็บตูนชื่อเดียวกัน ที่เล่าเรื่องหญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับเสียงสวรรค์ประทาน เติบโตมาท่ามเสียงห้ามปรามของผู้เป็นแม่ ก่อนเข้าสู่คณะละครและไต่เต้าขึ้นไปจากจุดต่ำสุด แท้จริงแล้ว เธอคือลูกสาวของดาวเด่นดาวดังของคณะละครแห่งนั้นนั่นเอง แม่ของเธอเคยเพื่อนร่วมคณะกับหัวหน้าคนปัจจุบัน ด้วยเหตุบางอย่างที่แม่เคยได้ประสบ ทำให้เลือกจะห้ามปรามลูกสาวไม่ให้ก้าวเดินในเส้นทางเดียวกัน

เป็นซีรีส์ที่หยิบเอาวัฒนธรรมที่ถดถอยและสูญหายไปนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ว่า มันอยู่ในช่วงเวลาที่ละครกุกกึกกำลังหวาดหวั่นว่าจะต้องเดินมาถึงวาระสุดท้าย

หลากเรื่องราวบนเส้นทางของการเป็นนักแสดงละคร

ส่วนหนึ่ง มันเล่าถึงชีวิตของหญิงสาวในครอบครัวยากจนที่อยากจะถีบตัวเองขึ้นมาเป็นคนที่ร่ำรวย และมองเห็นช่องทางจากการใช้พรสวรรค์ของตนเอง แต่ความไม่สมบูรณ์แบบของเธอนั่นแหละที่พาให้ชีวิตของเธอเจอแต่เรื่องต่างๆ นานา ระหว่างทางของการพัฒนาตนเองภายในคณะละคร เธอได้พบทั้งมิตรภาพและคู่แข่งที่สร้างแรงผลักดันให้ก้าวหน้า ทว่าบางครั้งก็พาเธอลงเหวได้เช่นกัน

ชีวิตในนั้น จองนยอน มีทั้งเพื่อนสนิทอย่าง ฮงจูรัน (Woo Da Vi/อูดาบี จากซีรีส์ ‘Melancholia’) ที่พร้อมช่วยเหลือกันทุกทาง แต่โชคชะตาก็ยังชักพาให้เกิดเรื่องขึ้นได้ ด้วยความที่ทั้งสองคนต่างก็เป็นเด็กฝึกที่จำเป็นต้องแข่งขันซึ่งกัน นับประสาอะไรกับ คนที่ประกาศตัวเป็นฝั่งตรงข้ามอย่าง ฮอยองซอ (Shin Ye Eun/ชินเยอึน จากซีรีส์ ‘Revenge of Others’) ที่ภาพลักษณ์ดั่งราชนิกุล แถมยังได้เป็นรูมเมทของจองนยอนซะอีก ทำให้สองคนได้ปะทะกันบ่อย แต่ก็อีกนั่นแหละ ยองซอก็แค่คนที่แข็งนอกแต่อ่อนใน เธอไม่ได้เกลียดชังจองนยอนตลอดเวลาแบบนั้นหรอก

โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของซีรีส์ ‘Jeongnyeon’
source: Disney+ Hotstar Thailand

ตัวร้ายอีกตัวที่ค่อนข้างร้ายออกนอกหน้า แต่เป็นพวกขี้อิจฉาซะมากกว่า ก็คือ พัคโชรก (Seunghee/ซึงฮี จากซีรีส์ ‘Oasis’) ลูกสาวตระกูลร่ำรวยที่มีพวกพ้อง และตั้งหน้าตั้งหน้ากลั่นแกล้งจองนยอน ทั้งที่ตัวเองก็มีฝีมือที่ด้อยกว่ามากเหลือเกิน

เรื่องราวในคณะละคร ยังมีอีกหลายอย่าง นอกจากเหตุที่หัวหน้าคณะคนปัจจุบันคือเพื่อนของแม่ของนางเอกแล้ว ก็ยังมีเรื่องของนักแสดงที่เป็นแม่เหล็กอีก อ๊กกยอนและซอฮเยรัง (Kim Yoon Hye/คิมยุนฮเย จากซีรีส์ ‘Goodbye Earth’) คู่พระนางที่ได้รับความนิยมสูง มีแฟนคลับคลั่งไคล้ติดตามมากมาย เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้แมรันกลายเป็นอันดับต้นๆ และอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้

อ๊กกยอนมองจองนยอนเป็นผู้สืบทอดบทพระเอก จึงเสนอบทออดิชันของการแสดงทางการที่ไม่ใช่บทของเด็กฝึกให้ ทำทุกทางเพื่อให้จองนยอนได้ก้าวหน้าและขึ้นมาแทนตนเอง ขณะที่ฮเยรังกลับคิดเห็นตรงกันข้าม เธอพยายามขัดขวางทุกทางไม่ได้จองนยอนก้าวขึ้นมา เพราะไม่ต้องการสูญเสียตำแหน่งอันสำคัญของตนกับอ๊กกยอนไป

เรื่องราวของหญิงสาวที่พยายามพิสูจน์ตนเอง

นอกเหนือจากตัวละครจองนยอนที่เป็นแกนกลางของเรื่องแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังมีตัวละครแวดล้อมที่น่าสนใจอยู่หลายตัวเลยนะครับ หนึ่งในนั้น ก็คือ ฮายองซอ นี่แหละ เธอเป็นลูกสาวคนรองของฮันกีจู (Jang Hye Jin จากหนังเรื่อง ‘Love in the Big City’) แม่ที่เคยเป็นนักร้องโอเปร่าผู้โด่งดัง แถมยังเป็นแม่ที่ปรารถนาจะได้รับแสงอย่างต่อเนื่อง แสงที่ได้รับมาจากลูกสาวที่เธอคาดหวัง หนึ่งแสงที่แม่สมใจไปแล้วคือลูกคนโตที่กลายนักร้องโอเปร่าชื่อดังตามรอยแม่

สิ่งที่แม่ต้องการสร้างความกดดันให้กับยองซอเป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้ เธอยังเป็นได้แค่เด็กฝึกโนเนมในคณะละครกุกกึก ยองซอแสวงหาการยอมรับจากผู้เป็นแม่เรื่อยมา และมันก็ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ดูเย็นชาทว่าภายในอ่อนไหว ยองซอมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างแรงกล้าเพื่อจะทำให้แม่มองเห็น ขณะที่แม่เองกลับไม่เคยเชื่อใจในความสามารถของลูกเลยแม้แต่น้อย สนใจแต่ความมีหน้ามีตาจากความสำเร็จของลูกๆ ก็เท่านั้นเอง

ขณะเดียวกัน มันก็เล่าถึงรุ่นลูกที่กลับมาสานต่อสิ่งที่รุ่นแม่ทำไว้ไม่สำเร็จด้วยเหตุผลบางอย่าง จองนยอนได้รับรู้เรื่องราวแต่หนหลังว่า แม่ของเธอก็เคยอยู่ในเส้นทางนี้มาก่อน แต่ไม่รู้สาเหตุที่ทำให้แม่ต้องออกจากเส้นทางทั้งยังกำชับหนักหนาไม่ให้เธอเดินเข้ามาซ้ำรอย แม่ของเธอเคยเอาชนะการแข่งขันระดับชาติ เธอเป็นนักร้องพันโซรีในชื่อ แชกงซอน และเธอก็พยายามที่จะไม่เติบโตภายใต้เงาของแม่

คิมแทรี กับบทบาท จองนยอน ที่ยืนอยู่ท่ามกลางเด็กฝึกร่วมรุ่นในคณะละคร
source: tvN

ด้วยพรสวรรค์ด้านการร้องที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แม้จองนยอนจะไม่เก่งด้านการแสดงและเต้น แต่ก็ขวนขวายพุ่งเข้าชนทุกอย่างเพียงเพื่อจะได้อยู่กับคณะละครนี้ต่อไป เธอเลือกจะออดิชันบทเล็กๆ เพื่อหวังจะสังเกตดูการแสดงของคนอื่น แต่บางก็กดดันตัวเองเกิน แถมไม่ฟังใครจนพาตัวเองให้ต้องลำบาก แต่การฟาดฟันของคู่รักคู่แค้นที่ถูกมองว่าจะคู่พระนางคู่ต่อไป ก็เป็นแรงผลักดันให้ต่างเติบโตและพัฒนาขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว

การเติบโตในเส้นทางนี้ จองนยอนต้องได้บทเรียนหลายอย่าง อย่างเช่นการแสดงบทตัวประกอบให้โดดเด่นกว่าตัวพระเอกถือเป็นการทำลายการแสดง การได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชมอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป หรือเรื่องบท ไม่ใช่ว่าคนๆ นึงจะเล่นได้ทุกตัว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแต่ละคนมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่บทก็ส่งให้จองนยอนที่เจออุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า จะว่าไป ก็ดูจะเป็นคนที่โชคดีมากมายนอกเหนือจากการเกิดมาเป็นลูกสาวของกงซอน เจ้าแห่งพันโซรีที่เคยโด่งดัง

รวมนักแสดงเก่งร้องไว้ด้วยกัน

ในเรื่องนี้ คิมแทรีได้เล่นเป็นสาวบ้านนอกด้วยท่าเดิน สำเนียงการพูดจา สีหน้าท่าทางที่ดูเป็นพวกจริงใจตรงไปตรงมา บทของเธอส่งให้เห็นถึงบุคลิกที่หลากหลาย ทั้งสดใสร่าเริง ขี้เล่น ใส่ท่าทีเด็กบ้านนอกได้น่ารักน่าชัง พอเวลาเศร้าสะเทือนใจก็แสดงสีหน้าเจ็บปวด ในอีกด้านหนึ่ง เราก็จะได้เห็นว่า เธอต้องร้องเล่นซี่งก็น่าจะใช้พลังอย่างมาก เบื้องหลัง เธอต้องฝึกร้องพันโซรีจนสามารถทำมันออกมาได้อย่างน่าทึ่ง มันทำให้เราเห็นว่า เธอมีความสามารถด้านการร้องอย่างมาก เช่นเดียวกับชินฮเยอึนที่นายแพทเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน ทำให้เพิ่งได้รู้ว่า เธอก็มีความสามารถทางด้านนี้เช่นกัน

อีกคนที่ผมชอบมากก็คือ อูดาบี ด้วยใบหน้าที่สวยคมคาย เธอเล่นเป็นเพื่อนสนิทของนางเอกได้อย่างดี มีความรักเพื่อนอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมทั้งยังได้โชว์การร้องด้วย

ชินเยอึน เจ้าของบทบาท ที่เป็นคู่แข่งในคณะละครกุกกึกของจองนยอน
source: tvN

ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่มีบทนำเป็นเพศชายเลย มุ่งเน้นดราม่ากันแทบจะเพียวๆ ด้วยเพราะมันเล่าถึงชีวิตในคณะละครหญิงล้วน เน้นการแสดงที่เหมือนพาเราเข้าโรงละครในยุคนั้น ได้รู้จักการละครกุกกึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ได้เห็นอีกความสามารถของนักแสดงหลายๆ คน เช่นเดียวกับบทที่จัดว่าตรึงคนดูได้อย่างตลอดรอดฝั่ง

เรื่องนี้จัดซีรีส์น้ำดีที่พิถีพิถันทั้งด้านบทและการแสดง คาดว่าปีนี้คงต้องรางวัลติดไม้ติดมือกลับมาพอสมควรเลยล่ะ


รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์

ชื่อซีรีส์Jeongnyeon: The Star is Born / 정년이
ผู้กำกับJung Ji In
ผู้เขียนบทSeo Yi Re (webcomic), Na Mon (webcomic), Choi Hyo Bi
นักแสดงKim Tae Ri, Shin Ye Eun, Ra Mi Ran, Jung Eun Chae, Kim Yoon Hye, Woo Da Vi
แนว/ประเภทดราม่า, ดนตรี, มิวสิคัล
จำนวนตอนซีซัน 1: 12 ตอน
ช่องทางรับชมDisney+ Hotstar
เริ่มออกอากาศ12 ตุลาคม – 17 พฤศจิกายน 2024
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์Management Mmm, NPIO Entertainment, Studio N, tvN

คะแนนรีวิวซีรีส์ Jeongnyeon: The Star is Born

พล็อตและบท - 8.6
การแสดง - 8.8
การดำเนินเรื่อง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 8.4

8.4

Jeongnyeon: The Star is Born

รีส์เกาหลีความยาว 12 ตอนเรื่องนี้ พาเราย้อนกลับสู่เกาหลียุคที่ยังมีละครกุกกึก ศิลปะการแสดงแนวละครเวทีที่ผสมผสานทั้งการร้อง แสดงและเต้นเข้าด้วยกัน โดยคณะละครที่ซีรีส์โฟกัสเป็นคณะที่ใช้ตัวแสดงเป็นหญิงล้วน บอกเล่าชีวิตของแต่ตัวละครในคณะ ตั้งเด็กฝึกไปจนถึงหัวหน้าคณะ ในช่วงเวลาที่กระแสใหม่อย่างทีวีและภาพยนตร์กำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่ความนิยม เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราได้เห็นความสามารถทางด้านการร้องของนักแสดงหลายคน เป็นเหมือนเรื่องราวซ้อนเรื่องราว และเขาก็ทำให้เราเหมือนไปนั่งอยู่หน้าเวทีของโรงละครที่เราเพิ่งจะได้รู้จัก

User Rating: Be the first one !
Exit mobile version