มีบางวันเหมือนกันที่อยากจะหยิบซีรีส์ในบริการของ Apple TV+ มาเขียนรีวิวเล่าสู่กันอ่านบ้าง เพราะเหมือนจะน้อยครั้งเหลือเกินที่จะเดินผ่านเข้าไปแอปนี้ และส่วนตัวที่เป็นคนชอบเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวอยู่แล้ว ทำให้สนใจจิ้มเข้าไปดู ‘Invasion’ ซีรีส์ฝรั่งที่เล่าเรื่องการมาเยือนของบางสิ่งจากต่างดาว
ไม่มีใครล่วงรู้จักกับสิ่งนี้มาก่อน จู่ๆ มันก็บุกรุกคุกคามจนส่งผลเสียหายบนหลายพื้นที่ทั่วโลก เมื่อมีใครสักคนบอกว่ามันคือเอเลี่ยน คนได้ฟังก็คิดว่ามันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ บทซีรีส์ที่เริ่มต้นก็ไม่บอกอะไรมากนัก หลายส่วนมีแต่ข้อมูลการถูกโจมตี และความเสียหาย บอกเล่าแต่ชีวิตของมนุษย์โลกเพียงบางคน มันจึงได้เป็นซีรีส์แนวดราม่าที่มีส่วนของความไซไฟ
จนอาจกลายเป็นซีรีส์ที่น่าเบื่อสำหรับบางคน
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Invasion’
ซีรีส์เรื่องนี้ เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงเหตุการณ์วันเริ่มต้นของเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก เล่าเรื่องของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งในนิวยอร์ก ที่ประกอบด้วยอาเหม็ด (Firas Nassar) สามีผู้กำลังคบชู้กับสาวคนใหม่ สร้างความปวดใจให้กับ อนีชา (Golshifteh Farahani จากหนังเรื่อง ‘Extraction II’ และ ‘Body of Lies’) ภรรยาที่ต้องเลิกเรียนหมอกลางคันเพราะมีลูก ทั้งสองคนมีลูกชาย ลุค (Azhy Robertson) และลูกสาว ซาร่าห์ (Tara Moayedi) ในวันที่ภรรยารู้ความจริง กลับเป็นวันที่ต้องเผชิญกับเหตุร้ายไม่รู้ที่มา ทั้งครอบครัวจึงต้องพากันอพยพ โดยที่ลุคลูกของเขาคือคนที่ได้ยินเสียงในหูคนเดียวว่า “วาโจ”
อีกซีกหนึ่งของโลก มิตสึกิ (Shioli Kutsuna จากหนังเรื่อง ‘Deadpool 2’) หญิงสาวฝ่ายสื่อสารในโครงการอวกาศของญี่ปุ่นที่ต้องสูญเสียคนรักนักบินอวกาศระหว่างเดินทางออกไปนอกโลกด้วยกระสวยอวกาศ เหมือนยานจะชนเข้ากับอะไรบางอย่างแล้วขาดการติดต่อไป ทำให้เธอพยายามหาสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้
ในลอนดอน แคสปาร์ (Billy Barratt จากหนังเรื่อง ‘Blinded by the Light’) เด็กหนุ่มที่เป็นโรคประจำตัวที่มักโดนเด็กเกเรหัวโจกอีกคนบูลลี่และกลั่นแกล้งตลอดมา เดินทางไปรถบัสก่อนจะประสบอุบัติเหตุ รถตกลงไปกลางหุบเหว ครูบาดเจ็บหนัก มีความสามารถในการรับรู้บางสิ่งที่ไม่เหมือนกับคนอื่น
เทรวานเต โคล (Shamier Anderson จากหนังเรื่อง ‘John Wick: Chapter 4’) ทหารหนุ่มผิวดำที่ปฏิบัติการอยู่ในตะวันออกกลาง แต่ต้องพบกับยานเอเลี่ยนรูปทรงประหลาด ก่อนระเบิดจะทำให้เขาเหลือตัวคนเดียวท่ามกลางพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย เขาพยายามเดินทางกลับบ้านแต่หนทางมันช่างยากเย็น
รีวิวซีรีส์ ‘Invasion’
เริ่มต้นสนใจดูเพราะว่ามันเป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยเรื่องของเอเลี่ยนบุกโลก ดูแบบไม่ได้รู้มาก่อนว่าเสียงตอบรับจะเป็นเช่นไร พบว่า การเดินทางของเรื่องราวมันเป็นการเล่าสลับไปมาระหว่าง 4 เมืองของคน 4 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่เริ่มถูกจู่โจมโดยที่มนุษย์โลกยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร เล่าผ่านชีวิตและการรับมือของกลุ่มคนทั้งสี่ ซึ่งกว่าโลกจะรู้ว่ามันเป็นเอเลี่ยนก็ผ่านไปถึงตอนที่ 5 แล้วล่ะ
หนังเริ่มต้นด้วยชีวิตการทำงานวันสุดท้ายของนายอำเภอที่เล่นโดย Sam Neil (จากหนังเรื่อง ‘Jurassic Park’) ที่ต่อมาก็หายไปในอากาศ เมื่อดูไปเรื่อยๆ ผู้ชมก็ลืมเลือนตัวละครของเขาไปแล้ว
ระหว่างทาง เหมือนซีรีส์ปล่อยให้คนดูอดทนรอว่าจะพบเจอเอเลี่ยนตอนไหน แต่ก็พบเจอแต่กับการดราม่ากันไปมาระหว่างตัวละครของครอบครัวที่ผัวมีชู้แต่ต้องรีบอพยพ เพิ่มเติมชีวิตของหญิงสาวที่ต้องกลายเป็นแม่ก่อนจะได้เป็นหมอ เรื่องราวพาร์ทนี้มีความเป็นโร้ดมูฟวี่ไม่ต่างจากพาร์ทของทหารขี้ขลาดที่ปฏิบัติการอยู่ในประเทศทะเลทราย ผู้มีบุคลิกน่ารำคาญตรงที่มักเอาปืนจ่อหัวทุกคนที่เจอไปเรื่อย ทีแรกก็หาเพื่อนทหารด้วยกัน แต่สุดท้ายก็พยายามจะกลับบ้านตัวเอง
อีกพาร์ทก็เล่าถึงกลุ่มเด็กนักเรียนบนรถบัสที่กำลังจะไปไหนสักที แต่ดันเจออุบัติเหตุบางอย่างจนรถตกลงไปในหุบเหวทั้งคัน แต่มีแค่ครูที่เจ็บหนัก ส่วนนักเรียนแทบไม่เป็นอะไร แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นตัวเกเรที่พยายามวางอำนาจเหนือเพื่อนๆ อีกต่างหาก พาร์ทนี้ก็น่ารำคาญอยู่พอประมาณ มีแค่ 2 ตัวละครอย่าง แคสปาร์ เด็กที่เป็นโรคลมชักผู้มักถูกบูลลี่ กับ เจมิล่า (India Brown) เพื่อนสาวคนสนิท นั่นแหละที่ดูน่าติดตาม
แล้วก็มาถึง พาร์ทญี่ปุ่น เรื่องราวพนักงานองค์การจาซา (JASA) ที่คบหากับสาวนักบินอวกาศ แต่ต้องพบเหตุไม่คาดฝัน เมื่อจู่ๆ ยานก็ขาดการติดต่อ พาร์ทนี้มีความพยายามที่จะสื่อสารกับต่างดาว แต่เพราะความวุ่นวายของการบริหารจัดการยามเกิดวิกฤตินั่นแหละ ที่ทำให้เธอเจอปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยรวมแล้ว ซีรีส์มันเล่าถึงคนตัวเล็กๆ แหละ ครอบครัวหนึ่งครอบครัวที่พยายามเอาตัวรอดในวันที่ความสัมพันธ์ภายในเริ่มจะแตกสลาย ทหารหนึ่งขี้ขลาดที่สูญเสียเพื่อนในภารกิจและเฝ้าคิดถึงคนสำคัญที่ทำหล่นหาย หญิงสาวที่ต้องการตามหาสัญญาณของคนรัก เด็กหนุ่มที่เกิดมาโรคและความสามารถพิเศษ ผู้เดินทางกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนสาว
ในวันที่โลกกำกลังล่มสลายเพราะเอเลี่ยนที่บุกรุก บทสนทนาอาจเป็นเรื่องสำคัญของพวกเขา แต่อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับพวกเรา เมื่อต้องเจอกับบทสนทนาที่ส่วนใหญ่น่าเบื่อ เพื่อไปเจอกับการฮุคแรงๆ ในซีนท้าย
เมื่อผ่านไปถึงตอนที่ 7-8 เราจึงค่อยเริ่มเห็นการรับมือของมนุษย์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น มิตสึกิที่พยายามหาวิธีสื่อสารกับเอเลี่ยน ลุคค้นพบกับวิธีจัดการกับบางสิ่งจากต่างดาว แคสปาร์เริ่มคิดจะใช้ความสามารถของตนให้เป็นประโยชน์ ตัวละครพาร์ทหนึ่งเริ่มจะมาเจอกับอีกพาร์ทหนึ่ง
ความรู้สึกของการดู ‘Invasion’ นี่ส่วนตัวรู้สึกไม่ต่างกับตอนดูเรื่อง ‘Walking Dead’ เพราะมันเน้นดราม่ายาวๆ ก่อนจะได้พบกับฉากระทึกใจ แต่ก็แปลกดีที่เรายังคงเฝ้าติดตามเรื่องของมันต่อ คงเพราะอยากรู้ว่า เอเลี่ยนมันจะหน้าตายังไง มาเยือนโลกเพราะเหตุใด และมนุษย์โลกที่เหลือรอดจะรับมือกับพวกมันยังไงกันบ้าง นัยว่าแม้จะเล่าได้ค่อนข้างผลักคนดูออก แต่ก็ยังมีพลังความอยากรู้บางอย่างภายในใจเราที่ผลักดันให้ยังไปต่อ อะไรประมาณนั้น
ซีซัน 2 ก็มาหลายตอนแล้วด้วยนะ ไปต่อกับมันอีกสักซีซันเลยมั้ยนิ?
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Invasion |
ผู้สร้าง | Simon Kinberg, David Weil |
ผู้กำกับ | Amanda Marsalis, Jakob Verbruggen, Alik Sakharov, Jamie Payne, Brad Anderson |
นักแสดง | Golshifteh Farahani, Shamier Anderson, Shioli Kutsuna, Billy Barratt, Firas Nassar, Paddy Holland, India Brown, Azhy Robertson, Tara Moayedi |
แนว/ประเภท | ดราม่า, แฟนตาซี, ไซไฟ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 10 ตอน ซีซัน 2: 10 ตอน |
ช่องทางรับชม | Apple TV+ |
เริ่มออกอากาศ | ซีซัน 1: 22 ตุลาคม – 10 ธันวาคม 2021 ซีซัน 2: 23 สิงหาคม – |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Genre Films, K Films, Platform One Media, Apple TV+ |
คะแนนซีรีส์ Invasion
พล็อตและบท - 6
การดำเนินเรื่อง - 6
การแสดง - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.5
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.5
6.6
Invasion
เป็นซีรีส์ทาง Apple TV+ ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับโลกมนุษย์ที่เผชิญกับเหตุสิ่งมีชีวิตต่างดาวบุกรุก เดินเรื่องด้วยการเล่าสลับไปมาระหว่างตัวละคร 4 กลุ่มจาก 4 มุมของโลก ที่เผชิญหน้ากับเหตุเอเลี่ยนบุกโลกที่แตกต่างกัน แต่ก็ค่อนข้างเดินช้าและเต็มไปด้วยดราม่าน่าเบื่อ แม้จะฮุคได้หนักพอตัว กระนั้น ก็มีแรงผลักดันมากไปพอให้ดูต่อไปเรื่อยๆ