ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือซีรีส์ ที่เล่าเรื่องของเหตุการณ์จี้เครื่องบินทั้งหลาย คงยากจะหนีพ้นสไตล์ของความระทึกขวัญ มันคงเป็นสิ่งที่มาพร้อมกันอย่างหลีกไม่พ้น แต่หนังหรือซีรีส์บางเรื่องก็เลือกมุ่งเน้นไปที่แอ็คชัน ขณะบางเรื่องผสมดราม่าเข้าไปด้วย อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Hijack’ ซีรีส์ทาง Apple TV+ ที่มีทั้งดราม่าและระทึกขวัญปะปนกัน
ผลงานการแสดงนำเรื่องใหม่ของพระเอกผิวดำสุดเท่อีกคนของวงการ Idris Elba ก่อนหน้านี้ เราเคยรู้จักเขาในฐานะ Stacker Pentecost จากหนังเรื่อง ‘Pacific Rim’, Heimdall จากหนังเรื่อง ‘Thor: Ragnarok’, Dr. Nate Samuels จากหนังเรื่อง ‘Beast’, เป็นทั้ง Bloodspot จากหนังเรื่อง ‘The Suicide Squad’, เป็น DCI John Luther ในซีรีส์เรื่อง ‘Luther’ และเป็นอะไรต่อมิอะไรในหนังอีกหลายเรื่อง
แต่หนนี้ เขาจะเป็น Sam Nelson ในซีรีส์สุดระทึกพล็อตจี้เครื่องบินบ้างละนะ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Hijack’d
เรื่องของเรื่องคือ มันมีเที่ยวบิน KA29 ที่จะบินออกจากนครดูไบสู่จุดหมายนครลอนดอน เที่ยวบินที่น่าจะเป็นอีกเที่ยวธรรมดาที่ใช้เวลาเดินทางยาวนาน 7 ชั่วโมง พาผู้โดยสารจากเมืองหนึ่งในเอมิเรตส์ไปอีกเมืองในสหราชอาณาจักร แต่ดันเป็นปัญหาขึ้นเมื่อมีผู้โดยสารกลุ่มหนึ่งควักปืนออกมากระจายตัวกันควบคุมทั้งผู้โดยสาร ลูกเรือ และนักบิน
งานนี้เกิดเหตุแรกที่ทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน มีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งพบเห็นปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในห้องน้ำ ทำให้กลุ่มอาชญากรต้องรีบเร่งลงมือก่อนเวลา และบนเที่ยวบินนี้ มี Sam Nelson (Idris Elba จากหนังเรื่อง ‘Thor: Love and Thunder’ และ ‘The Dark Tower’) ชายหนุ่มผิวดำนักเจรจาต่อรองผู้ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจอยู่ด้วย ด้วยความช่ำชองของเขาจะพาให้ทั้งลำรอดพ้นวิกฤตินี้ได้หรือไม่
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นกำลังสับสนกับการหาคำตอบว่าเกิดเหตุจี้เครื่องบินบนฟ้าจริงหรือไม่ คนบนเครื่องก็กำลังดิ้นรนเพื่อที่จะรอบกลับไปหาครอบครัวของตนเอง
รีวิวซีรีส์ ‘Hijack’
อย่างที่รู้กันว่า นี่มันเป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องการจี้เครื่องบิน ความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือ มันเล่า 7 ตอนแบบเรียลไทม์ 1 ตอนยาว 1 ชั่วโมงบ้าง ไม่ถึงบ้าง แต่ไม่รีบเล่าแบบตัดตอนช่วงเวลาใดออก ถ้าเราดูรวดเดียวทั้ง 7 ตอน จะเหมือนร่วมเดินทางไปจริงๆ กับผู้โดยสาร ลูกเรือและนักบินของเที่ยวบินนี้นะเองครับ
มันเป็นซีรีส์ที่มีตัวละครมากมายและมากพอจะทำให้กลายเป็นเรื่องราวที่เดาทางไม่ค่อยถูก มันมีเรื่องให้บอกเล่าได้ตลอดเวลา จากมุมไปมุมนี้โดยที่ไม่มีตอนไหนให้หยุด แม้ว่า Idris Elba จะเป็นตัวเอกของเรื่อง แต่เพราะมันมีตัวละครบนเครื่องบินลำนั้นอย่างเพียบ เขาจึงไม่ได้มีบทบาทตลอดเวลาจนกลบคนอื่นซะหมด
และก็ไม่ใช่มีแค่ตัวละครบนเครื่องบินลำนั้นเท่านั้น เพราะตัวละครที่บนพื้นดินก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อน แถมยังมีมากมายจนจำหน้าจำชื่อกันไม่หวาดไม่ไหว จนหลังๆ เริ่มไม่จำชื่อละ จำหน้าเท่านั้นก็พอ
ผู้โดยสารของเที่ยวบิน KA29 ดูจะโชคดีหน่อย ที่มี แซม เนลสัน นักเจรจาต่อรองคนนี้เดินทางมาด้วย ความชาญฉลาดของเขาทำให้พอจะคุมเกมของกลุ่มแก๊งอาชญากรรมพวกนี้ได้บ้าง ส่วนหนึ่งก็เพราะเขามีคอนเนคชันที่ดีบนภาคพื้นดิน ทำให้สามารถแจ้งข่าวเท่าที่จะเป็นไปได้ แฟนเก่าของเขาที่กำลังคบหากับแฟนใหม่ที่เป็นตำรวจ นอกจากนี้ ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่ของหลายประเทศที่สังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากลของเที่ยวบินนี้ จนในที่สุด ก็เกิดการประชุมระดมกำลังความคิดเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาที่กึ่งๆ จะเป็นก่อการร้ายครั้งนี้ขึ้น
เริ่มต้นจากที่คนดูแทบไม่รู้อะไรเลยว่า กลุ่มคนที่จู่ๆ ก็ออกมาก่อเหตุจี้เครื่องบินครั้งนี้ พวกเขาเป็นใคร มีเป้าประสงค์อะไร แต่ดูไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเห็นข้อมูลมากขึ้น แถมบางทีก็เริ่มจะเห็นใจบางตัวละครที่ก่อเหตุจี้เครื่องบินเสียด้วยซ้ำ
Taglines
Let them think they’re in control.
แม้ว่าแผนการทุกอย่างจะถูกคิดมาพร้อมสรรพแล้ว แต่เรื่องผิดแผนมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่การจี้เครื่องบิน เหตุมีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่พบเห็นกระสุนในห้องน้ำแล้วดันบอกผิดคน ส่งผลให้แผนเปลี่ยน จากที่ไฟล์ยาวๆ แบบนี้ จะจี้ก็ควรจะรอให้มันผ่านไปหลายชั่วโมงก่อน แต่กลับต้องเริ่มเร็วจนส่งผลให้ทุกอย่างมันผิดแผนไปซะทั้งหมด
แต่มันก็ไม่ง่ายนักที่นักต่อรองของเราจะรับมือไหว เขาเก่งด้านเจรจา แต่ไม่ได้เก่งเรื่องต่อสู้ ทุกจังหวะจำเป็นต้องคิดคำนวณให้ถ้วนถี่ และใช้ไหวพริบของนักต่อรองให้เป็นประโยชน์ บางปัญหาน่าปวดหัวก็จะมาจากผู้โดยสารที่ร้อยพ่อพันแม่ ย่อมจะควบคุมกันยาก ชวนโกลาหลอยู่ไม่น้อย และแน่นอนว่า บทซีรีส์มันต้องมีช่วงที่ตัวเอกต้องโดนเอาคืนบ้างอยู่แล้ว ไม่ได้ถึงกับคาดเดายากจนเกินไป
บทของซีรีส์เล่าเรื่องให้ชวนลุ้นระทึกกันตลอด ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ที่หลายคนต้องดูต่อกันและยาวไปจนจบ แม้บางส่วนอาจทำให้คิดว่ามันยังไม่ถึงกับเมกเซนส์บ้าง แต่เราระทึกไปกับมัน เพราะว่ามันเล่าได้สนุกดี
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Hijack |
ผู้สร้าง | Jim Field Smith, George Kay |
ผู้กำกับ | Jim Field Smith, Mo Ali |
นักแสดง | Idris Elba, Neil Maskell, Max Beesley, Ben Miles, Kaisa Hammarlund |
แนว/ประเภท | ดราม่า, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 7 ตอน |
ช่องทางรับชม | Apple TV+ |
เริ่มออกอากาศ | 28 มิถุนายน – 2 สิงหาคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | 60Forty Films, Green Door Pictures, Idiotlamp Productions |
คะแนนซีรีส์ Hijack
พล็อตและบท - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7.9
การแสดง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.5
7.6
Hijack
ซีรีส์ 7 ตอนที่เล่าเรื่องการจี้เครื่องบินของคนกลุ่มหนึ่งที่มีจุดประสงค์บางอย่าง ไม่ง่ายนักที่นักต่อรองของเราจะรับมือไหว เขาเก่งด้านเจรจา แต่ไม่ได้เก่งเรื่องต่อสู้ ทุกจังหวะจำเป็นคิดคำนวณให้ถ้วนถี่ และใช้ไหวพริบของนักต่อรองให้เป็นประโยชน์ บางปัญหาน่าปวดหัวก็จะมาจากผู้โดยสารที่ร้อยพ่อพันแม่ ย่อมจะควบคุมกันยาก ชวนโกลาหลอยู่ไม่น้อย และแน่นอนว่า บทซีรีส์มันต้องมีช่วงที่ตัวเอกต้องโดนเอาคืนบ้างอยู่แล้ว ไม่ได้ถึงกับคาดเดายากจนเกินไป บทของซีรีส์เล่าเรื่องให้ชวนลุ้นระทึกกันตลอด ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ที่หลายคนต้องดูต่อกันและยาวไปจนจบ