รีวิวซีรีส์ Doubt เคลือบแคลง | พ่อเป็นโพรไฟเลอร์ แต่ลูกสาว(อาจ)เป็นฆาตกร

อาชีพโพรไฟเลอร์ หรือ นักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร ดูจะเป็นอาชีพที่สำคัญไม่น้อยในการสืบคดีสมัยใหม่ เพราะตำรวจจำเป็นต้องพึ่งพาความชำนาญของพวกเขาในการไขคดีที่ยากจะปิด แต่ถ้าลูกสาวของโพรไฟเลอร์เกิดต้องสงสัยว่าจะเป็นฆาตกรเสียเองล่ะ แล้วพ่อของเธอจะเลือกทำเช่นไร ซีรีส์เกาหลี ‘Doubt’ หรือชื่อไทย ‘เคลือบแคลง’ เรื่องนี้บอกเล่าสิ่งนั้นครับ

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เรื่องนี้?

ลิมิเต็ดซีรีส์จากเกาหลีที่มีฉายในเน็ตฟลิกซ์ ที่เล่าถึงพ่อและลูกสาวที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม โดยพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรอยู่ในกรมตำรวจ ขณะที่ลูกสาวก็มีพฤติกรรมชวนสงสัยว่าจะเป็นฆาตกร แม้พ่อจะไม่ถูกกับลูกสาว แต่เขาก็พยายามเต็มที่ที่จะปกป้องเธอ ผู้ชมก็จะได้ลุ้นและติดตามไปว่า พ่อจะปกป้องลูกสาวได้สำเร็จหรือไม่ หรือแท้จริงแล้วฆาตกรเป็นลูกสาวหรือคนอื่นกันแน่ ซีรีส์ถ่ายภาพ ตัดต่อ และลงดนตรีประกอบได้เข้าทีเลย ขณะที่ ฮันซอกคยู ก็เล่นได้ดีเช่นที่ผ่านมา ครั้งนี้ปะกบและปะทะกับ แชวอนบิน ที่ฝ่ายหลังก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

ซีรีส์มีความยาว 10 ตอน ซับซ้อนพอตัว ขณะดูต้องปะติดปะต่อและจดจำรายละเอียดกันพอสมควรเลยล่ะ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Doubt’

เรื่องมันก็มีอยู่ว่า จางแทซู (Han Suk Kyu/ฮันซอกคยู อาจารย์หมออัจฉริยะจากซีรีส์ ‘Dr. Romantic’ ทั้ง 3 ภาค) ไพรไฟเลอร์มือวางอันดับหนึ่งผู้เก่งกาจ ความสามารถสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลหาตัวคนร้าย คนที่ใครๆ เรียกเขาว่า หัวหน้าทีมจาง ก่อนที่เขาจะถูกย้ายไปสำนักงานใหญ่ เขาขอทำงานสุดท้ายนี้ให้เสร็จสิ้น แต่มันบังเอิญว่า คดีดังกล่าวมันเกี่ยวเนื่องกับตัวเขาอย่างดิ้นไม่หลุด

หลังจากการหย่าร้างและเมียรักฆ่าตัวตายจากไป ก็กลายเป็นว่า บ้านหลังนี้เหลือเพียงเขากับลูกสาว จางฮาบิน (Chae Won Bin/แชวอนบิน จากซีรีส์ ‘Sweet Home 2’ และ ‘Sweet Home 3’) เท่านั้น

งานของจางแทซูคือการวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากร เขาเพิ่งหาคนเข้าร่วมทีมได้ถึง 2 คน นั้นก็คือ อีออจิน (Han Ye Ri/ฮันเยริ จากซีรีส์ ‘Hello, My Twenties!’ และ ‘My Unfamiliar Family’) และ กูแฮดง (Roh Jae Won/โนแจวอน จากซีรีส์ ‘A Killer Paradox’ และหนังเรื่อง ‘Ditto’) ที่ต่างคนต่างก็มีบุคลิกและความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และเมื่อแทซูกลับบ้าน เขาก็มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูฮาบิน แต่เขาก็ได้รู้ว่า ฮาบินเองก็เกี่ยวข้องกับคดีนี้

ความลำบากของผู้เป็นพ่อก็คือ เขาต้องปกป้องลูกสาว แต่คดีนี้กำลังทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อลูกสั่นคลอนหนักยิ่งกว่าเดิม และแทซูหนักใจยิ่งที่จะต้องเปิดโปงความจริงเบื้องหลังของคดีนี้

รีวิวซีรีส์ ‘เคลือบแคลง’

ซีรีส์ความยาว 10 ตอนที่เล่าเรื่องโพรไฟเลอร์ผู้กลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว และมีปัญหากับการเลี้ยงดูลูกสาวของตนเอง เพราะเหมือนที่ผ่านมา เขาจะไม่เคยทำหน้าที่พ่อที่ดีเลย ทำให้ลูกสาวทำตัวเหินห่าง ขณะเดียวกัน ความเป็นโพรไฟเลอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมของอาชญากร ก็ทำให้เขามักจะชอบจับสังเกตพฤติกรรมของลูกสาวเป็นประจำ

เขาที่กำลังจะย้ายที่ทำงาน แต่ยังไม่ทันได้ย้าย เพราะมองว่าคดีล่าสุดจำเป็นต้องพึ่งพาเขา จึงขอเวลาเพิ่มอีกสองเดือน นักวิเคราะห์พฤติกรรมอาชญากรคนนี้เป็นชายผู้เย็นชา หัวหน้าและผู้ร่วมงานมักจะปวดหัวและรำคาญใจ เพราะเขาดูเป็นพวกชอบลุยเดี่ยว แถมยังพูดจาตรงไปตรงมา แต่เขาก็ได้ลูกน้องเป็น 2 นักวิเคราะห์พฤติกรรมรุ่นใหม่ต่างบุคลิกที่เขาลงมือสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง จากนั้นก็ช่วยกันหาเบาะแส

ทีแรกก็เจอโครงกระดูกของนักเรียนสาว ก่อนที่ต่อมาก็เจอเลือดกองใหญ่ไร้ศพ อะไรก็ไม่เท่า เบาะแสบางอย่างมันเกี่ยวข้องกับ จางฮาบิน ลูกสาวของหัวหน้าจางเอง แถมยังมีอะไรชวนสงสัยถึงเหตุการณ์ในอดีตของครอบครัวนี้ พวกเขาเคยอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพ่อ แม่ ลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็ก แต่ตอนนี้เหลือกันเพียง 2 คน และเพื่อปกป้องลูกสาวที่เขาไม่เคยได้ทำหน้าที่พ่อจริงๆ สักที ทำให้เขาเริ่มที่จะสืบหาความจริงด้วยตัวเอง

งานนี้ พาเราไปรู้จักกับแก๊งหนีออกจากบ้านที่เกี่ยวโยงกับคดีนี้อย่างดิ้นไม่หลุด พวกเขาเป็นเด็กที่หนีออกจากบ้านด้วยสาเหตุต่างๆ กัน ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาไร้ทางเลือกอื่นและต้องกลายเป็นมิจฉาชีพ ส่วนหนึ่งในนั้นเป็นสาวน่ารักอย่าง ซงมินอา (Han Su A/ฮันซูอา จากซีรีส์ ‘Cheer Up’) และพัคจียอน (Park Eun Woo/พัคอึนอู จากซีรีส์ ‘My Dearest’) รวมทั้ง อึนจิน (Lee Do Hye/อีโดฮเย จากซีรีส์ ‘Welcome to Samdal-ri’) สาวน้อยผู้น่าสงสารที่ใจอ่อนช่วยตำรวจ โดยมี ชเวยองมิน (Kim Jung Jin/คิมจองจิน) เป็นหัวหน้าแก๊งใจทรามที่แอบชอบ คิมซองฮี (Choi Yu Hwa/ชเวยูฮวา จากซีรีส์ ‘The Bequeathed’) หญิงเจ้าของบ้านที่คบหาอยู่กับคุณครู พัคจุนแท (Yu Eui Tae/ยูอึยแท จากซีรีส์ ‘Business Proposal’)

ก็จะเห็นว่า เรื่องนี้ใช้ตัวละครเยอะมากตามประสาซีรีส์แนวลึกลับสืบสวน ยิ่งมีตัวละครเยอะก็ยิ่งสร้างเรื่องได้มาก ทำให้สามารถหลอกล่อปั่นหัวทั้งตัวละครหลักและคนดูได้อย่างที่ใจคนเขียนบท โดยจุดตั้งต้นคือความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่างพ่อกับลูก พ่อที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์อาชญากร กับลูกสาวที่ทำตัวให้น่าสงสัยว่าจะเป็นอาชญากรซะเอง แม้ตัวพ่ออยากจะเชื่อลูกสาวแต่ยังไม่อาจเชื่อได้อย่างสนิทใจ แถมลูกยังฉลาดมากอีกต่างหาก

การดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เปิดเผยเรื่องในอดีตมา โดยชอบใช้วิธีสลับภาพของประตู-หน้าต่างจากปัจจุบันไปสู่อดีต ที่ทำให้เราได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในครอบครัวที่กำลังจะล่มสลาย เหตุร้ายแรงและความสูญเสียที่เป็นแผลในใจมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้หัวหน้าจางต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์แสนสาหัส เพราะอีกส่วนหนึ่ง เขาก็คือพ่อที่เหลือลูกสาวเพียงคนเดียว เขาพยายามจะปกป้องลูกราวกับกำลังปกป้องหัวใจตนเอง แต่ยิ่งทำเท่าไหร่ก็ยิ่งเหมือนถูกบีบหัวใจ

นอกจากจะเล่าเรื่องราวของลูกที่รู้ทันพ่อ พ่อที่รู้ทันลูกแล้ว บทก็ยังคอยจะเทไปที่ความสามารถของสองนักวิเคราะห์คนใหม่ ที่บางทีก็ขัดแย้งกันเอง และหลายครั้งความขัดแย้งก็ทำให้การสืบสวนรุดหน้าไปเช่นกัน

สิ่งที่เห็นและเป็นไปก็คือ ยิ่งสืบก็ยิ่งพบว่ามีตัวละครใหม่เข้ามาเรื่อยๆ อะไรที่เรารู้ก่อนหน้านั้นถูกทับด้วยข้อมูลใหม่ เช่นเดียวกับที่จำนวนคนตายก็มากขึ้น เรื่องราวก็สลับซับซ้อนจนพามึนไปไม่น้อย เหตุการณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ข้อมูลใหม่พามึน ทั้งไม่อาจจะแน่ใจได้เลยว่า ชุดข้อมูลที่ได้มา แม้กระทั่งคำพูดของตัวละคร เพราะบางตัวพร้อมที่โกหกเราได้ตลอดเวลา

บทของซีรีส์เหมือนกับจะเดินไปข้างหน้า แต่ว่าบางทีก็สลับด้วยเหตุการณ์ในอดีต บางส่วนก็เล่าย้อนกันไปว่า เหตุใดสองพ่อลูกจึงไม่ถูกกัน เหตุใดแม่จึงฆ่าตัวตาย ลูกชายคนเล็กหายไปไหน ก่อนสลับกลับมาปัจจุบันอีกครั้ง

ยิ่งเรื่องดำเนินไป สองพ่อลูกก็จะยิ่งขัดแย้งกันมากขึ้น และต่างก็ยิ่งรู้สึกเสี่ยงจะถูกเปิดโปงมากขึ้น ก่อนจะผ่านถึงช่วงสุดท้าย ที่เราจะได้รู้กันว่า ตกลงแล้ว พ่อสามารถจะช่วยเหลือลูกสาวได้หรือไม่ หรือแท้จริงลูกสาวคือฆาตกร ทำให้ดิ้นไม่หลุด และพ่อเองก็ต้องโดนร่างแหไปด้วย

ส่วนตัว ผมชอบวิธีการตัดต่อในหลายๆ จุด แม้เรื่องราวจะดูไม่เร่งร้อนนัก ทำให้รู้สึกตื่นเต้นพอประมาณในการติดตาม แต่ก็ยังไม่มากเท่าที่ควร ขณะที่ด้านดนตรีประกอบ มีหลายฉากเลยที่เขาใช้เสียงเครื่องสายในท่วงทีที่แตกต่างกัน งานภาพก็จัดว่าละเอียดลออ ทั้งมุมกล้อง และการจัดแสง ทำให้งานออกมาเนี้ยบไม่น้อย

และในการด้านแสดง ใครที่ชื่นชอบลีลาของฮันซอกคยูอยู่ก่อนแล้ว คงต้องประทับใจกับผลงานของเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์