ดูเหมือนความใฝ่ฝันจะถูกหยิบจับมาเล่าในซีรีส์ได้ไม่มีวันหมด แต่ครั้งนี้ ผสมเรื่องของการติดเกาะร้างเข้าไปด้วย เล่าเรื่องความรักในตัวศิลปินกับการทำตามความฝัน เพิ่มความน่าฉงนเกี่ยวกับตัวละครพระเอกเข้ามา ว่าเขาจะใช่คนในอดีตหรือไม่ ซีรีส์เกาหลีที่รับบทโดย พัคอึนบิน ที่หลายคนคิดถึง และนี่คือ ‘Castaway Diva’ หรือชื่อไทย ‘แคสต์อะเวย์ ดีว่า’ ติดเกาะ 15 ปี คราวนี้ฉันได้เจอไอดอลของฉันแล้วสินะ
ความคิดเห็นส่วนตัวของนายแพท
หลังจากเปิดดู ‘แคสต์อะเวย์ ดีว่า’ ไปหลายตอน ก็พบว่า มันเป็นซีรีส์เกาหลีที่หยิบเอาชีวิตการเป็นศิลปินนักร้องที่มีทั้งช่วงเกิดและดับในวงการ มาเล่า ใส่ความฝันของคนที่อยากจะเป็นดาวแต่กลับถูกโชคชะตาพัดไปติดแหง็กบนเกาะอยู่เนิ่นนาน ก่อนกลับเข้าสู่เส้นทางเมื่ออายุไม่ใช่ จึงพาเธอไปอีกเส้นทางที่พอจะทำได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่าง บทซีรีส์อาจมีบางส่วนไม่สมจริงอยู่ แต่ก็ใส่รายละเอียดเข้ามาจนทำให้เรื่องมันดูแข็งแรง
และแน่นอนว่า ซีรีส์มันเกี่ยวกับวงการเพลง มันก็ต้องโดดเด่นที่ตัวเพลง ซึ่งบอกได้เลยว่า เพราะทุกเพลงจริงๆ เช่นเดียวกับ พัคอึนบิน นางเอกของเราร้องเอง และเสียงของเธอก็ดีมากซะด้วยสิครับ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Castaway Diva’
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นบนเกาะชุนซัม ที่นั่นมีสาวน้อย ซอมกฮา (Park Eun Bin/พัคอึนบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘The King’s Affection’ และ ‘Hello, My Twenties!’) ลูกสาวเจ้าของร้านปลาดิบ ผู้มีบุคลิกสดใส มองโลกในแง่ดี ที่ฝันจะได้เป็นศิลปินนักร้อง เธอเป็นเด็กสาวที่คลั่งไคล้ในดีว่านาม ยุนรันจู (Kim Hyo Jin/คิมฮโยจิน จากซีรีส์เรื่อง ‘The Good Detective 2’ และ ‘Private Lives’) อย่างมาก และมีความฝันว่าจะได้ร้องเพลงคู่กับดีว่าที่ตนรัก
ด้วยความเสียงดี ร้องดี แต่ฐานะไม่ดี เธอจึงขอให้ จองกีโฮ (Moon Woo Jin/มุนอูจิน จากซีรีส์เรื่อง ‘It’s Okay to Not Be Okay’ และ ‘Once Again’) เพื่อนร่วมชั้นลูกชายตำรวจมาช่วยถ่ายและตัดต่อคลิปแล้วส่งให้ยุนรันจูคัดเลือกเพื่อออดิชัน แต่ระหว่างเดินทางสู่กรุงโซล กลับเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้เธอต้องเคว้งอยู่บนเกาะร้างไร้ผู้คนอยู่นานถึง 15 ปี ก่อนจะได้รับความช่วยเหลือ
แต่มาฮาในวัยสามสิบเอ็ดก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกที่ไม่คุ้นเคย และยังคงไล่ล่าตามความฝันที่จะเป็นดีว่าอยู่เช่นเดิม
รีวิวซีรีส์ ‘แคสต์อะเวย์ ดีว่า’
เรื่องความคลั่งไคล้ในเชิงติ่งที่มีต่อศิลปินคนดัง คือ เรื่องปกติในโลกปัจจุบัน เพียงแต่โลกของซอมกฮา ดูท่าจะมีความแฟนตาซีผสมอยู่มากหน่อย ในวันที่เธอกำลังเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อออดิชัน กลายเป็นวันที่ชีวิตเธอต้องพลิกผันติดเกาะและอยู่อย่างโดดเดี่ยวนานถึง 15 ปี ก่อนที่จะคนมาค้นพบและพาเธอกลับฝั่ง ซึ่งก็เป็นช่วงที่เธอก้าวเข้าสู่วัยสามสิบเอ็ด
เล่าเรื่องความรุนแรงในครอบครัว
ขณะที่กีโฮมองว่ามกฮาเป็นติ่งนักร้องสมองกลวง มกฮาก็มองว่ากีโฮเป็นพวกหน้าเงิน ฤดูร้อนปี 2007 กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของพวกเขาทั้งสองคน
บนเกาะชุนซัม ซอมกฮา (Lee Re/อีเร จากซีรีส์เรื่อง ‘Hellbound’ และ ‘Hello, Me!’) เป็นเด็กในครอบครัวยากจน ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อที่เปิดร้านขายปลาดิบและชอบเมาแล้วใช้กำลังตบตี ถึงขนาดทำลายกีตาร์ที่เหมือนทำร้ายความฝันของเธอ ไม่ต่างกันเท่าไรนักกับจองกีโฮที่ภายนอก เขาอาจดูเหมือนเด็กที่หน้าเงิน คิดทุกสิ่งเป็นเงินเป็นทอง แต่ที่จริงเขามีพ่อที่เป็นตำรวจและชอบใช้กำลังกับเขาเช่นกัน มันผลักดันให้เขาแอบทำงานเพื่อเก็บเงินและหวังจะหนีออกจากบ้านในสักวัน
ความติ่งรันจูบวกกับความสามารถในการร้องและเสียงที่ใสกังวานของมกฮา ทำให้กีโฮใจอ่อนจนช่วยถ่ายคลิปให้ แต่เพราะการได้เห็นว่ามกฮาเองก็มีชีวิตไม่ต่างจากเขา ต้องทนอยู่กับความรุนแรงจากผู้เป็นพ่อ กีโฮจึงช่วยให้เธอได้เข้าไปออดิชันในกรุงโซลและเจอกับยุนรันจู ดีว่าอันดับหนึ่งที่มกฮาแสนคลั่งไคล้ เช่นเดียวกับเขาที่จะได้หนีออกไปจากบ้านนี้สักที โดยไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่พลิกผัน มกฮาต้องกลายเป็นเด็กสาวบนเกาะร้างไร้ผู้คนยาวนานถึง 15 ปี ขณะที่กีโฮที่ช่วยเธอหนีออกจากเกาะก็หายไปไร้ข่าวคราว
จะไปออดิชัน ติดเกาะร้าง กลับเข้าฝั่ง เจอเงื่อนงำ
คนที่ค้นพบเธอบนเกาะเป็นสองพี่น้อง คนพี่คือ คังอูฮัก (Cha Hak Yeon/ชาฮักยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Mine’ และ ‘Familiar Wife’) หนุ่มแว่นนักข่าวแห่ง YGN ที่เป็นบริษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพ ขณะที่น้องชายของเขาคือ คังโบกอล (Chae Jong Hyeop/ชาจงฮยอบ จากซีรีส์เรื่อง ‘See You in My 19th Life’ และ ‘Unlock My Boss’) เป็นโปรดิวเซอร์รายการวาไรตี้อยู่ที่ YGN เช่นกัน พี่น้องสองคนนี้อยู่กับพ่อแม่ที่มีกิจการ ‘ร้านเสริมสวยพี่น้อง’ ที่ชั้นล่าง และตกลงว่าให้มกฮาอาศัยอยู่ชั้นดาดฟ้า
เรื่องราวของ 2 หนุ่มมีเงื่อนงำของคนพี่ที่ชวนให้สงสัย อูฮัก เคยประสบอุบัติเหตุที่หัวตอน ม.ปลาย ทำให้เขาจำอะไรก่อนนั้นไม่ได้เลย และบทซีรีส์ที่พยายามจะทำให้คนดูคิดไปว่า เขาอาจเป็นจองกีโฮคนนั้น ซึ่งก็ต้องติดตามกันไป ว่าจะใช่เขาจริงหรือเปล่า
ในมุมมองส่วนตัว บทซีรีส์ดูตั้งใจจะใส่ความดราม่าจนอาจดูเกินจริงไปบ้าง ขณะที่เรื่องราวและภาพที่เห็นก็ชวนให้รู้สึกเหมือนดูการ์ตูนที่ดัดแปลงเป็นไลฟ์แอ็คชันนิดๆ อย่างเช่น หน้าตา เสื้อผ้า ทรงผม กระทั่งบ้านที่สร้างขึ้นมาบนเกาะ มันดูดีเกินจะเป็นคนติดเกาะร้างยาวนาน 15 ปี หรือฉากที่กีโฮออกมาขวางพ่อของมกฮาจนโดนซ้อมหนัก หนักขั้นสลบเหมือดไปเลยทีเดียว หรือซากศพของพ่อที่ตายไปล่ะ มันหายไปไหน (อาจจะลากไปฝังเองก็เป็นได้) หรือความบังเอิญของกลุ่มเพื่อนๆ พระเอกที่บังเอิญมาถ่ายทำแล้วโดรนก็ดันบังเอิญไปเจอนางเอก และอีกหลายอย่าง แต่ก็คิดไปว่า ทั้งหมดมันคงเป็นสไตล์ของซีรีส์เรื่องนี้
ถ่ายทอดแง่มุมของศิลปินและธุรกิจบันเทิง
มุมหนึ่งมันเล่าเรื่องของชีวิตศิลปิน วันนึง เด็กน้อยที่เกิดบนเกาะห่างไกลกรุงโซล เติบโตกลายเป็นดีว่าผู้โด่งดัง แต่แล้วอีกวัน ก็กลายเป็นอดีตนักร้องที่ตกอับ แถมยังมีติ่งเนื้อที่เส้นเสียงทำให้ร้องเพลงได้ไม่ดีเหมือนเก่า ดาวจรัสแสงกลายเป็นดาวอับแสง ทั้งชอบกินเหล้าและสูบบุหรี่ นักร้องระดับดีว่าชื่อดังในอดีต กลายเป็นคนที่ตัวหดเล็กลงในตอนนี้ อะไรที่ทำให้เธอเป็นเช่นนั้น
ขณะที่อีซอจุน (Kim Joo Hun/คิมจูฮอน จากซีรีส์เรื่อง ‘It’s Okay to Not Be Okay’ และ ‘Big Mouth’) เขาเคยเป็นหัวหน้าอีของยุนรันจูในวันเก่าที่ผันตัวก่อตั้งบริษัทเพื่อดูแลศิลปินอย่างเธอ แต่ในวันที่เธอกลายเป็นดาวดับ เขากลับกลายเป็นผู้บริหารใหญ่ของอาร์เจ เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้ใช้ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ทำให้รันจูกลายเป็นศิลปินที่ตัวหดเล็กลง
สัญญาที่เขียนเอาไว้ เธอต้องได้ยอดขายอัลบั้มถึง 20 ล้านแผ่น หุ้นครึ่งหนึ่งจะกลายเป็นของเธอ แต่ผ่านมา 15 ปี (สัญญายาวนานเหลือเชื่อ) แล้ว และเหลืออีกเพียง 8 หมื่นกว่าแผ่นที่ต้องขายให้ทันภายใน 6 เดือนของระยะเวลาสัญญาที่เหลือ อาจฟังดูยากจะสำเร็จในวันที่แทบไม่มีใครรู้จักชื่อยุนรันจู แต่แตกต่างตรงที่วันนี้ เธอได้พบกับติ่งอย่างซอมกฮาผู้กลับมาจากเกาะพร้อมกับเสียงแห่งดีว่าคือแรงผลักดันที่จะทำให้เธอกลับมาฉายแสงอีกครั้ง แต่…
หลายอุปสรรคที่รวมกัน กลายเป็นเรื่องเป็นราว
แม้ความจริงของจองกีโฮจะยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา แต่เราก็ได้รู้ว่าพ่อของกีโฮยังมีชีวิตอยู่ หลักถูกให้ออกจากอาชีพตำรวจเพราะโดนแจ้งความเรื่องใช้ความรุนแรงในครอบครัว อดีตตำรวจร้อยเวรจองคนนี้ก็ยังคงหวังจะเจอลูกตนอยู่เสมอ เขาจากบ้านไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงโซลเพื่อตามหาลูกชาย และเมื่อเห็นข่าวมกซอากลับมา เขาจึงตามสืบที่อยู่ของเธอ
ด้านมกฮา วันที่เธอกลับมาจากเกาะร้าง เธอได้อยู่ในบ้านที่มีผู้ชายวัยใกล้เคียงถึง 2 คน โดยที่หนึ่งในนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจว่า เขาจะเป็นจองกีโฮหรือเปล่า แม้มันจะมีเงื่อนงำชวนให้สงสัยอยู่ แต่อีกสิ่งที่คนดูอย่างนายแพทรู้สึกได้ก็คือ เธอในวันนี้อายุ 31 ปีแล้ว จะให้ไปเริ่มต้นเป็นเด็กฝึกหัดก็คงจะช้าไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่วงการเขาทำกันอยู่ การศึกษาก็ไม่เพียงพอ กลับมาอยู่ในสังคมที่แตกต่างไปมากก็ต้องปรับตัว แต่เสียงและสกิลการร้องของเธอดูจะไม่ตกไปเลย แถมยังมาเจอยุนรันจูที่เส้นเสียงพังไปอีก การทำให้ดีว่าผู้กลายเป็นอดีตกลับมาขายแผ่นได้อีกครั้งผลักให้เธอกลายเป็นเงาเสียงไปโดยปริยาย
การออกไปร้องลิปซิงค์ต่อหน้ากล้องและคนดู ด้วยเสียงที่เป็นของอีกคนแต่ไม่เปิดเผยให้ใครรู้ ความจริงมันก็คือการโกหกผู้คน โกหกแฟนคลับของตนเองนั่นแหละ แม้ว่ามันจะช่วยสานฝันที่ทำให้เสียงของมกฮาผ่านไปถึงผู้คนได้ แต่มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี และสักวันหนึ่งก็จะถูกเปิดโปงอยู่ดีเช่นกัน
เพราะรายละเอียดและการแสดงที่ทำให้อิน
หลายฉากอาจทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นเรื่องเล่าที่ดูไม่สมจริง และก็มีหลายช็อตที่ทำเราน้ำตาไหล พัคอึนบิน ยังคงเป็นนักแสดงเล่นได้ถึงอารมณ์ น้ำเสียงและน้ำตายังคงเรียกความเศร้าสะเทือนใจในตัวเราขึ้นมาทำงาน ด้วยความสามารถที่มี เธอสามารถจะเล่นคนเดียวเป็นหลายตัวตนยามกินข้าวคนเดียวก็ได้ แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะนอกจากความสวย ที่ไม่แต่งหน้าก็ดูดีเป็นธรรมชาติ แต่พอแต่งหน้าแต่วตัวขึ้นเวที ก็กลายเป็นสวยจัดไปเลย ที่สำคัญคือ เสียงร้องที่ดีจนคิดว่า ถ้าไปเป็นนักร้องก็เข้าทีเลยแหละเนี่ย
บทซีรีส์ใส่รายละเอียดของหลายสิ่งหลายอย่าง ที่คนดูต้องจดจำภาพของตอนก่อนหน้าให้ได้ เพราะมันจะหยิบมาเล่าซ้ำอีกครั้งในอีกบริบทหรืออีกช่วงเวลา หรืออยากฉากที่ซอมกฮาเล่นกีตาร์ร้องเพลง ที่เนื้อหาของมันนี่เหมือนแต่งให้กับกีโฮคนที่เคยเป็นแรงใจในวันเก่า นอกจากเพลงจะเพราะแล้ว เนื้อหามันก็รีเลทกับเรื่องราว รวมกันมันก็ยิ่งทำให้อินได้อีก
บทซีรีส์หยิบเอาแง่มุมบางส่วนของวงการเพลงที่เกี่ยวโยงกับแวดวงข่าวและทีวีเข้ามาร้อยเกี่ยวเข้าด้วยกัน ผสมเข้ากับความลึกลับของความจริงที่ต้องค้นหา พระเอกใช่คนวันวานของนางเอกหรือไม่ ใส่ความฝันวัยหนุ่มสาวที่ต้องแหลกสลายไปเพราะผู้ใหญ่ สูญหายไปในกาลเวลาถึง 15 ปี ก่อนจะกลับมาในวันที่อายุกลายเป็นอุปสรรค เลยต้องเลือกให้ตัวเองอยู่ใกล้ๆ กับสิ่งที่รัก ไม่ได้เป็นดีว่าก็ยังได้เป็นผู้จัดการ
แต่การเป็นเสียงลิปซิงค์ให้มันคงไม่เรื่องน่าดีใจนักสำหรับคนเคยเป็นดีว่า คำชื่นชมที่นักข่าวเขียนให้ในวันนี้ ล้วนเอ่ยถึงในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเธอเอง แล้วเธอจะภูมิใจมันได้จริงๆ มั้ยนะ เอาล่ะ ได้เวลาดูกันต่อแล้วล่ะว่าเขาจะเล่าอะไรให้เราได้ติดตามอีก
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Castaway Diva / แคสต์อะเวย์ ดีว่า / 무인도의 디바 |
ผู้กำกับ | Oh Choong-Hwan/โอจุงฮวาน (เจ้าของผลงาน ‘Big Mouth’, ‘Start-Up’ และ ‘Hotel Del Luna’) |
ผู้เขียนบท | Park Hye Ryun/พัคฮเยรยอน (เจ้าของผลงาน ‘Dream High’ และ ‘While You Were Sleeping’) |
นักแสดง | Park Eun Bin/พัคอึนบิน, Kim Hyo Jin/คิมฮโยจิน, Chae Jong Hyeop/แชจงฮยอบ, Cha Hak Yeon/ชาฮักยอน |
แนว/ประเภท | คอมเมดี้, ดราม่า, ดนตรี, โรแมนติก |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 28 ตุลาคม – 3 ธันวาคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Baram Pictures, Kakao Entertainment, Studio Dragon, tvN, CJ ENM, Netflix |
คะแนนซีรีส์ แคสต์อะเวย์ ดีว่า
พล็อตและบท - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7
การแสดง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.5
7.6
Castaway Diva
หลังจากเปิดดู 'แคสต์อะเวย์ ดีว่า' ไปหลายตอน ก็พบว่า มันเป็นซีรีส์เกาหลีที่หยิบเอาชีวิตการเป็นศิลปินนักร้องที่มีทั้งช่วงเกิดและดับในวงการ มาเล่า ใส่ความฝันของคนที่อยากจะเป็นดาวแต่กลับถูกโชคชะตาพัดไปติดแหง็กบนเกาะอยู่เนิ่นนาน ก่อนกลับเข้าสู่เส้นทางเมื่ออายุไม่ใช่ จึงพาเธอไปอีกเส้นทางที่พอจะทำได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่าง บทซีรีส์อาจมีบางส่วนไม่สมจริงอยู่ แต่ก็ใส่รายละเอียดเข้ามาจนทำให้เรื่องมันดูแข็งแรง