หลายครั้งหลายหนที่คนใช้งานสตรีมมิ่งออนไลน์ต้องใช้เวลาวนหาคอนเทนต์ที่ถูกใจอย่างในเน็ตฟลิกซ์ บางครั้งเราก็มักคิดหวังว่าจะรับชมหนังหรือซีรีส์ที่แปลกใหม่ไปจากเรื่องก่อน แต่บางหนก็พบว่า การไม่คิดมากและจิ้มเปิดเรื่องที่เขาแนะนำให้ก็อาจจะได้พบสักเรื่องที่คุณจะดูไปจนจบได้ วันนี้เลยมีบทรีวิวเรื่องใหม่มาให้ได้อ่านกัน ‘Bridgerton’ หรือชื่อไทย ‘บริดเจอร์ตัน: วังวนรัก เกมไฮโซ’ ซีรีส์แนวพีเรียดๆ ที่เล่าเรื่องรักของชาวไฮโซ
อันที่เรื่องรักของผู้คนชนชั้นสูง ร่ำรวยเงินทอง ใฝ่หาความเริดหรู นั้นคงไม่ใช่เรื่องใหม่ อาจจะพบเห็นได้กับซีรีส์ที่เล่าเรื่องทั้งปัจจุบัน และทั้งย้อนอดีตไปถึงขั้นร้อยสองร้อยปี ซีรีส์เรื่องนี้ก็คงเป็นเยี่ยงนั้น แต่ด้วยวิธีการหลายอย่างที่ปรุงแต่งให้เล่าให้สนุกและมีสีสัน
นั่นก็อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมเลือกกดดูต่อไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Bridgerton’
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวรอบตัวของ มิสดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน/Daphne Bridgerton (Phoebe Dynevor จากซีรีส์เรื่อง ‘Younger’, ‘Snatch’, ‘Waterloo Road’ และ ‘Prisoners Wives’) ลูกสาวคนโตของครอบครัวบริดเจอร์ตัน ในวันที่เธอเติบโตจนถึงวันต้องหาสามีเป็นตัวเป็นตน ฤดูกาลแห่งงานสังคมครั้งแรกของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สวยใสงดงามเป็นที่ต้องตาของเหล่าผู้คน
ดูเธอจะไม่ต้องการแต่งงานกับชายที่เธอไม่ได้รัก ทั้งพี่ชายของเธอก็ดูจะเจ้ากี้เจ้าการในการเลือกคู่ที่เขาคิดว่าเหมาะสมเสียเหลือเกิน เธอจำต้องหาใครสักคนมาช่วยยืดระยะเวลาเฉิดฉายในฐานะคนโสดให้ยาวออกไป
และในที่สุดเธอก็เจอ…คนนั้น
เขาคือ ไซมอน บาสเซ็ต/Simon Basset (Regé-Jean Page จากหนังเรื่อง ‘Mortal Engines’ ซีรีส์เรื่อง ‘For the People’ และ ‘Waterloo Road’) ดยุกแห่งเฮสติ้งส์ ชายผิวเข้มทายาทคนเดียวของบิดา แต่เขามีเบื้องหลังที่น้อยคนจะล่วงรู้ และเขาเองก็มีเหตุผลที่ไม่ต้องการจะแต่งงานกับใคร
เมื่อทั้งสองมาเจอกัน ดูเหมือนจุดประสงค์ที่สอดคล้อง ทั้งสองตกลงจะเดทกันไปเรื่อยๆ อันจะเป็นโอกาสให้เธอได้พบกับชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรักและตกลงปลงใจจะแต่งงานด้วย
เหตุการณ์เหล่านี้ไม่พ้นสายตาของเลดี้วิสเซิลดาวน์ นักเขียนลึกลับผู้ออกหนังสือพิมพ์เล่าเรื่องซุบซิบเป็นประจำที่ผู้คนต่างติดตามอ่านกันอย่างงอมแงม โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร เหตุใดจึงรู้เรื่องเหล่านี้ทั้งยังว่างมานั่งเขียนขนาดนั้น
รีวิวซีรีส์ ‘บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ’
ซีรีส์ที่เล่าเรื่องรักที่เกิดในแวดวงไฮโซ เอาจริงๆ ก็คงจะมีหลายเรื่องที่หยิบมาเล่ากันไปแล้ว แต่เรื่องนี้เลือกเล่าย้อนไปในยุคเก่าที่เราเกิดไม่ทัน บริบทอะไรต่างๆ ก็แตกต่างไปตามสภาพสังคม แนวความคิดในเวลานั้น ค่านิยม ความเจริญ และบ้านเมือง อะไรๆ ก็แตกต่างไปจากไฮโซในปัจจุบัน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การมีตัวละครที่ไม่คิดเห็นในแนวทางเดียวกับสังคม
และพยายามจะดำเนินชีวิตในทางที่ต้องการเท่าที่สังคมในเวลานั้นมันจะทำได้ ไรงิ
พาคุณไปสู่โลกแห่งแวดวงไฮโซในอดีต…
ปึ 1813 ณ กรุงลอนดอน ในแวดวงของคนร่ำรวยมีอันจะกินทั้งหลาย เรื่องราวที่บอกเล่าถึงสองครอบครัวที่ใกล้ชิดกัน หนึ่งคือ เฟเธอริงตัน และอีกหนึ่งคือ บริดเจอร์ตัน
ครอบครัวแรกนั้นมีลูกสาวสามคนกับมารดาผู้ไร้รสนิยม Prudence, Philipa และ Penelope โดดเด่นที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็น เพเนโลปี้ (Nicola Coughlan) หญิงสาวคนสุดท้ายที่มีรูปร่างอวบ เธอมีจิตใจที่ดีแถมยังซี้กับเอโลอีส ลูกของอีกบ้านหนึ่ง
ครอบครัวสองนั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกชายและลูกสาวอย่างละสี่ ของเลดี้บริดเจอร์สันผู้เป็นหม้าย ครอบครัวนี้ตั้งชื่อลูกไล่จาก A ไป H ตามลำดับดังนี้ Anthony, Benedict, Colin, Daphne, Eloise, Francesca, Gregory และ Hyacinth
แน่นอนว่า ผู้โดดเด่นที่สุดของบ้านย่อมจะเป็น ดาฟนี่ ลูกสาวคนโต ขณะที่แอนโทนี่ (Jonathan Bailey) ลูกชายคนโตของบ้าน ผู้ที่คิดตัวเองมีหน้าที่พิจารณาชายทุกคนที่จะเข้ามาในชีวิตของดาฟนี่จนเจ้ากี้เจ้าการไปเสียทุกอย่าง แต่เขาก็คือชายผู้แอบคบอยู่กับนักร้องในโรงละครอยู่อย่างลับๆ
นอกจากนี้ บ้านเฟเธอริงตันก็ยังรับสาวอีกคน มิสธอมป์สัน (Ruby Barker) ที่เป็นญาติห่างๆ จากแถวชนบทมาอยู่ร่วมชายคา ส่งเข้าประกวดในตลาดโดยที่ไม่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์
ปีนี้ ตลาดการหาคู่ครองได้เปิดขึ้นอีกครั้ง และผู้ที่ก้าวขึ้นเป็นดาวอันเจิดจรัสในคราวนี้เป็น ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน แต่ไม่ว่าจะสาวคนใดต่างก็มุ่งหวังอยากจะถูกตีตราจองด้วยกันทั้งนั้น
แล้วเรื่อง(ในซีซัน)นี้ก็ส่งพระเอกเข้ามาให้กลายเป็นชายผู้ทำให้หญิงตื่นเต้นไปทั่วทั้งลอนดอน เขาคือ ดยุกแห่งเฮสติ้งส์ ผู้ซึ่งเพิ่งกลับมาหลังจากห่างหายไปนาน เขาคือชายหนุ่มผู้ครองตัวโสดหากมีนิสัยเสเพล ไม่คบหญิงใดจริงจัง ชอบชกมวยกับสหาย สนิทชิดเชื่อกับพี่ชายของดาฟนี่ ทั้งยังมีเบื้องหลังอันขมขื่นเกี่ยวกับพ่อของตนเอง
และนั่นเป็นสาเหตุใดเขาเลือกจะครองโสดชั่วชีวิต
…ที่หญิงถูกกดให้ต่ำกว่าชาย
ในยุคนั้น ผู้หญิงถูกอบรมเลี้ยงดูมาเพื่อให้วันหนึ่งที่เธอโตเป็นสาว จะได้พาเข้าสู่งานสังคมตามฤดูกาล เหมือนเปิดตัวสู่ตลาด เปิดให้ผู้ชายที่สนใจเข้ามาหา ตอบรับจะสู่ขอและแต่งงาน พวกเธอดูจะไม่มีคุณค่าใดนอกจากความสวยและความงามตามอย่างที่สังคมต้องการให้เป็น หาพวกเธอหาสามีไม่ได้ พวกเธอก็จะไร้ค่า
ผู้หญิงดูจะเลือกอะไรไม่ได้มากแม้ว่านั่นจะเป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก
หากแม้การแต่งงานด้วยความรักหลายครั้งก็จบไม่สวย แต่ในสมัยนั้น ผู้หญิงไม่มีทางเลือกมากนัก หญิงสาวหลายคนมองเห็นชีวิตของพ่อแม่ตัวเองที่ไม่ได้รักกันแต่ก็อยู่กันมาได้ คงเพราะมีสาเหตุอื่นที่มากกว่านั้น อันที่จริง เมื่อเธอแต่งงานไป การครองชีวิตคู่คืออีกจุดเริ่มต้นหนึ่งของชีวิต เธอยังต้องเรียนรู้และอดทนอีกมากนัก
แต่ยังไงก็ตาม ดาฟนี่เลือกจะประวิงเวลาออกไป หนทางที่มองเห็นได้ว่าเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ การทำความตกลงกับดยุกแห่งเฮสติ้งส์ ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่ได้ต้องการจะแต่งงานกัน พวกเขาจึงเลือกจะคบกันหลอกๆ การออกเดทกันครั้งแล้วครั้งเล่า อาจนำพาชายผู้ที่คู่ควรและรักเธอจริงเข้ามาในชีวิต
หากแต่การทำเช่นนั้นมันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของดาฟนี่และไซมอนก่อเกิดขึ้นมากขึ้นตามวันและเวลา ความรักที่เกิดขึ้นโดยเจ้าตัวกักกันมันไว้ ปฏิเสธว่ามันมีจริงๆ ด้วยเหตุผลที่ต่างคนต่างมี และสุดท้ายเขาและเธอจะหนีพ้นงั้นหรือ?
ชีวิตของเพศหญิงในยุคนั้นช่างยากลำบาก แต่ก็มีหญิงหลายคนในซีรีส์ที่ดูจะขบถต่อขนบความคิดของคนในยุคนั้นอยู่ แต่การทำตัวให้แปลกแยกจากสังคม ว่ายทวนน้ำอันเชี่ยวกราก จะสมหวังในบั้นปลายได้เพียงไหนกัน แม้แต่การอ่านหนังสือก็ยังถูกมองว่าจะทำให้เพ้อเจ้อ
แต่คนไฮโซก็ดูจะชอบอ่านเรื่องราวซุบซิบอื้อฉาวและนินทาที่เขียนโดยเลดี้วิสเซิลดาวน์กันนะ
ตามหาปริศนา เลดี้วิสเซิลดาวน์คือใคร?
เรื่องราวในซีรีส์ดูเป็นอะไรที่คุ้นเคยหากถูกเล่าให้ดูมีชีวิตชีวาน่าสนใจ แม้มันจะฉาบทาด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคนในวงไฮโซ แต่มันก็หลายส่วนที่ชักชวนให้ดูต่อ ตอนแรกอาจจะเฉยๆ แต่พอไปตอนสองตอนสามก็อาจชวนให้ติดตามต่อเนื่อง
เริ่มต้นการพาเราไปรู้จักกับ ดาฟนี่ สาวน้อยวัยใสที่ยังไม่เคยมีความรัก ซึ่งเธอกำลังได้เรียนรู้มันเป็นครั้งแรกจากชายมากหน้าที่แวะเวียนเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ
เธอยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ยังไม่รู้ว่าคนที่แต่งงานกันไป เขาทำกันยังไงให้มีลูก ทั้งยังตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของชายผู้มากประสบการณ์กว่า ในบางช่วงบางตอนของซีรีส์ก็มีฉากชวนสยิวบนเตียงเป็นของกำนัลเสียด้วย
นอกจากดนตรีประกอบที่ค่อนข้างหรูหราและหยิบจับเพลงบรรเลงคลาสสิกมาใส่แล้ว ก็ยังมีเสียงดนตรีเครื่องสายที่หยิบเอาทำนองคุ้นหูของเพลงสมัยใหม่ไปคัฟเวอร์ชวนให้รู้สึกสนใจใคร่รู้ว่าเป็นเพลงใดที่เคยรู้จักอยู่ด้วย
สิ่งที่สำคัญที่เกาะเกี่ยวเรื่องราวไปตลอดทั้งซีซันก็คือ ปริศนาเกี่ยวกับตัวตนของเลดี้วิสเซิลดาวน์ นักเขียนเรื่องซุบซิบในหนังสือที่เธอพิมพ์เองและร่อนแจกฟรีทั่วลอนดอน เธอเป็นใคร เหตุใดเธอจึงรู้เรื่องในแวดวงไฮโซดีนัก ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องด้วยเสียงบรรยายของเลดี้วิสเซิลดาวน์ที่เป็นเสียงของ Julie Andrews ผู้ซึ่งไม่ได้ร่วมแสดงด้วย ผู้ชมต้องช่วยตามหาและคาดเดาเอาเองว่าเธอจะเป็นใคร บทเฉลยจะตรงกับที่คิดไว้หรือไม่
กว่าจะได้รู้ ก็คงดูไปจนจบซีซันแรกซะแล้วล่ะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ชื่อซีรีส์: บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ / Bridgerton
ผู้สร้าง: Chris Van Dusen
ผู้กำกับ: Sheree Folkson, Alrick Riley, Julie Anne Robinson, Tom Verica
ผู้เขียนบท: Phoebe Dynevor, Regé-Jean Page, Harriet Cains, Bessie Carter, Florence Hunt, Jonathan Bailey, Ruby Barker, Nicola Coughlan, Adjoa Andoh
แนว/ประเภท: Drama, Romance
ซีซั่น: 1
จำนวนตอน: 8
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: 25 ธันวาคม 2020
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: Shondaland
บริดเจอร์ตัน วังวนรัก เกมไฮโซ
บทและพล็อต - 7.6
การแสดง - 7.6
เพลง/ดนตรีประกอบ - 8.5
การดำเนินเรื่อง - 7.9
งานภาพ - 7.7
7.9
Bridgerton
มันคือซีรีส์พีเรียดที่เล่าเรื่องรักโรแมนติกในแวดวงคนไฮโซในลอนดอน เมื่อหญิงสาวไม่อยากแต่งงานแสร้งคบหลอกๆ กับดยุก ในสภาพแวดล้อมของอังกฤษในปี 1813 ที่หญิงในบ้านเติบโตขึ้นมาเพื่อจะได้เข้าสู่ตลาดหาคู่ คนที่ประสบความสำเร็จคือการมีผู้ชายตกลงปลงใจมาสู่ขอและแต่งงาน แต่การแต่งงานต่างหากที่เป็นการเริ่มต้นของอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเธอยังไม่รู้