ผมไปพบกับซีรีส์สไตล์สายลับเรื่องใหม่ในเน็ตฟลิกซ์ครับ เห็นว่าน่าสนใจดีเลยหยิบมาเขียนถึง ซีรีส์เรื่องนี้มีความยาวเพียง 6 ตอน สามารถเปิดดูจบได้ภายในวันเดียว เรื่องราวของสปายสาวขององค์กรลับนามแบล็กโดฟที่กำลังถูกตามล่าจากคนบางกลุ่ม ‘Black Doves’ หรือชื่อไทย ‘พิราบเงา’ ที่มี เคียร่า ไนท์ลีย์ แสดงนำนั่นแหละครับ
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้?
ซีรีส์แนวสปายที่ใช้เรื่องส่วนตัวมาผสมกับงาน องค์กรลับที่ผุดขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ เมื่อมองว่าฆาตกรรมสามศพที่เกิดขึ้น ทำให้สปายของตนต้องเสี่ยง ทั้งเกี่ยวพันกับการเมืองระหว่างประเทศ จึงต้องลากมือปืนอีกคนเข้ามาช่วยกันสืบหา-สังหารฆาตกรตัวจริง และปกป้องสปายให้ได้รอดชีวิต
ท่ามกลางบรรยากาศหนาวๆ ของลอนดอนปลายปี ตัวละครต้องมาสืบหา ฆ่า และเอาตัวรอดไปด้วยกัน ถือเป็นซีรีส์นักสืบที่ดูสนุกได้พอประมาณ เรื่องราวที่ดูอีรุงตุงนัง ชวนมึนหัวดีไม่หยอก อาจไม่ถึงกับดีมากจนประทับใจ แต่ไม่ได้แย่จนต้องรู้สึกเสียเวลา
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Black Doves’
ในโลกที่มีองค์กรลับนาม แบล็คโดฟ ที่แทรกซึมทำงานด้วยจุดประสงค์บางอย่าง และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น ตอนนี้ เธอใช้ชื่อ เฮเลน เวบบ์ (Keira Knightley จากหนัง ‘The Imitation Game’ และ ‘Collateral Beauty’) สปายสาวที่ฉากหน้าคือภรรยาของวอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ เธอแต่งงานกับเขามา 10 ปีเต็มและมีลูกฝาแฝดสองคนด้วยกัน ที่ผ่านมา และเธอสืบข้อมูลความลับของรัฐบาลให้กับองค์กรได้มากมายมหาศาล
แต่โลกอีกด้านของเธอคือ การลอบคบหากับ เจสัน (Andrew Koji) รักแท้จริงของเธอ แต่ข่าวล่าสุด มีพลเรือนถูกฆ่า 3 คน หนึ่งในนั้นคือเจสัน ชู้รักของเธอเอง และสาเหตุอาจมาจากของขวัญที่เฮเลนได้รับจากเจสัน
และนั่นทำให้ แซม (Ben Whishaw จากหนัง ‘Skyfall’ และ ‘No Time to Die’) เพื่อนมือปืนที่เป็นหนุ่มเกย์ถูกคุณนายรี้ด (Sarah Lancashire จากหนัง ‘Yesterday’) ตามตัวมาเพื่อช่วยสืบหาความจริงและช่วยให้เฮเลนกับครอบครัวรอดพ้นจากการถูกตามฆ่า
รีวิวซีรีส์ ‘พิราบเงา’
อีกครั้งที่มีหนังหรือซีรีส์บอกเล่าถึงองค์กรลับที่แทรกซึมทำงานโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ ทีมงานของพวกเขาเต็มไปด้วยสายลับที่สปายเก็บข้อมูลอยู่ในหลายระดับ เช่นเดียวกับที่เฮเลน เข้าหาสามีที่ตอนนี้กลายเป็นรัฐมนตรีกลาโหม และมีโอกาสจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป องค์กรลับที่เธอทำงานอยู่มีชื่อว่า แบล็คโดฟ หรือ พิราบเงา อันที่จริง ก็เป็นองค์กรแสวงหากำไรจากการรวบรวมข้อมูลแล้วเอาไปขายให้คนที่ชนะประมูล และก็เหมือนทุกที่ เข้าแล้วออกยาก และการออกจากองค์กรอาจหมายถึงความตาย
เหตุของเรื่องนี้มันพัลวันพัลเกกันอย่างสุดๆ ทำให้ช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวต้องกลายเป็นความยุ่งเหยิง การตายของพลเรือนทั้งสามคงจะไม่มีอะไรมาก ถ้าหนึ่งในนั้นไม่ใช่คนสำคัญของเฮเลน ชู้รักที่เธอลอบคบ กับความเป็นไปได้สูงว่า เฮเลนก็กำลังเป็นอีกคนที่จะถูกตามล่า ทำให้องค์กรลับแบล็กโดฟต้องหาช่วยเหลือ และคุณนายรี้ดต้องดึงแซมกลับมาร่วมงาน
ด้วยความที่ซีรีส์มีความยาวเพียง 6 ตอน ซึ่งกลายเป็นเรื่องดี เพราะมันทำให้เล่าเรื่องได้กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ แต่ก็มากพอให้คนดูได้จากรู้จักกับความสัมพันธ์เบื้องหลังของเฮเลนกับแซม
เฮเลนนั้นมีอีกชื่อหนึ่งว่า เดซี่ แบรดชอว์ ด้วยความที่สามารถพูดได้หลายภาษา ทำให้เธอถูกทาบทามมาทำงานแนวสปายสายลับ แทนที่จะเป็นล่ามที่อย่างเธอต้องการ และนั่นก็ทำให้เธอได้เข้าไปรู้จักกับวอลเลซ และนั่นก็ทำให้เธอได้รู้จักกับแซมเช่นกัน
ส่วนตัวแซม บทของซีรีส์ก็ย้อนอดีตเกี่ยวกับพ่อของแซมที่ทำให้เขาต้องมาประกอบอาชีพนักฆ่า ทำให้เราได้รู้ชีวิตรักของเขากับไมเคิล ชายหนุ่มผิวดำ เฮเลนกับแซมเคยได้ร่วมงานกันในช่วงเวลานั้น ก่อนจะห่างกันไปหลังแซมชิ่งไปฝรั่งเศส และเพราะจรรยาบรรณส่วนตัวที่ไม่ยอมฆ่าเด็ก กลับมาตามหลอกหลอนให้เขาต้องกลับมาเช็ดล้างที่ลอนดอนในวันนี้
เฮเลนมีชีวิตโลกอีกใบเป็นชายหนุ่มพลเรือนที่เธอฝ่าฝืนกฎด้วยการเปิดเผยกลายๆ ถึงตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เจสันเป็นชายหนุ่มที่เธอมองว่าเป็นรักแท้ ขณะวอลเลซเป็นแค่สามีของลูกแฝดที่เธอต้องทำตามหน้าที่เท่านั้น ส่วนแซมเองก็มีชีวิตส่วนตัวเป็นไมเคิล ชายคนรักที่จำต้องพลัดพรากเพื่อความปลอดภัย และเพราะโชคชะตาด้วยมั้ง ที่ตามให้เฮเลนกับแซมต้องมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง เพื่อสืบและสังหารนักฆ่ารับจ้างด้วยกัน
ดูเผินๆ มันไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน แต่ว่ามันไม่ใช่ เพราะเหตุการตายของคนทั้งสาม มันมีเหตุการตายของเอกอัครราชทูตจีนเข้ามาอีก จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศขึ้นได้ ไม่เท่านั้น ยังมีเหตุลูกสาวของท่านทูตที่ถูกลักพาตัวไปอีก ทุกอย่างพัวพันจนทำให้ตัวละครหลักทุกตัวล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องไม่เว้นแม่แต่วอลเลซ สามีที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหมของเฮเลนเอง
ขณะที่ตัวละครหลักอย่างเฮเลน ก็ชอบเอาตัวเข้าไปยุ่งซะเหลือเกินทั้งที่ควรจะอยู่เงียบๆ ก็คงเพราะคนรักตายทั้งทีนั่นแหละ จะให้อยู่เฉยได้ยังไง แต่ที่สงสัยก็คือ เธอไม่คิดบ้างเหรอว่า การออกไปลงมือด้วยตัวเองแบบนี้ มันทำให้ครอบครัวต้องเสี่ยงมากขึ้นนะ
บทพาเราไปรู้จักกับอีกแก๊งหนึ่งในลอนดอน ที่นำโดยคุณป้ามหาภัยเลนนี่ (Kathryn Hunter จากซีรีส์ ‘Andor’) คนที่เคยเป็นเจ้านายผู้ติดค้างของแซม ซึ่งก็ทำให้เราได้รู้จักกับเหล่าลูกสมุนสาวๆ ของป้า
ในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะได้พบกับฉากที่ชวนตื่นเต้นอยู่หลายฉาก หนึ่งในนั้น ก็คือฉากที่เฮเลนต้องต่อสู้ในบ้านตัวเองโดยไม่ให้ครอบครัวได้ยินและสามีที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว
โดยรวมแล้ว มันก็คือซีรีส์ที่บอกเล่าชีวิตของสายลับที่ต้องมาอยู่ตรงกลางระหว่างชีวิตส่วนตัวและงาน เฮเลนมีหชายหนุ่มที่เธอรักจริงๆ แต่ต้องใช้ชีวิตเป็นภรรยาของชายที่เธอต้องการข้อมูลจากเขา เธอต้องทั้งตั้งท้องและเป็นแม่ของลูกฝาแฝด ไปๆ มาๆ แทนที่จะสืบพร้อมหาทางกำจัดคนฆ่าชู้รัก กลับต้องมาปกป้องครอบครัวตัวเองแทน
เช่นเดียวกับมือปืนอย่างแซม ที่ชีวิตจริงเขาเป็นเกย์และคบหากับไมเคิลชายหนุ่มผิวดำ แต่เพื่อให้คนรักของเขาปลอดภัย แซมก็เลยจำเป็นต้องห่างเหิน เขาคงไม่คิดว่าวันหนึ่งต้องกลับมาสะสางในสิ่งที่ยังไม่จบ
อีกด้านหนึ่ง ‘พิราบเงา’ เป็นซีรีส์ที่เข้ากับธีมคริสต์มาส ลูกๆ ของเฮเลนและวอลเลซเล่นละครเวทีเกี่ยวกับพระเยซู กลุ่มนักฆ่าที่ต้องใส่หมวกและชุดเพื่อปลอมเป็นนักท่องเที่ยวแต่ที่จริงจะเข้าผับไปฆ่าคน ลอนดอนเต็มไปด้วยไฟประดับและบรรยากาศของงานรื่นเริง ตัดกับเรื่องราวที่ดูจริงจังและมีชีวิตเป็นเดิมพัน
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Black Doves / พิราบเงา |
ผู้กำกับ | Alex Gabassi, Lisa Gunning |
ผู้เขียนบท | Joe Barton |
นักแสดง | Ben Whishaw, Keira Knightley, Sarah Lancashire, Andrew Buchan, Andrew Koji, Omari Douglas |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า, ลึกลับ, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 6 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 5 ธันวาคม 2024 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | A Sister Production, Noisy Bear |
คะแนนรีวิวซีรีส์ พิราบเงา
พล็อตและบท - 7
การดำเนินเรื่อง - 7
การแสดง - 7.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
การถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชั่น - 7
7
Black Doves
ซีรีส์แนวสปายที่ใช้เรื่องส่วนตัวมาผสมกับงาน องค์กรลับที่ผุดขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ เมื่อมองว่าฆาตกรรมสามศพที่เกิดขึ้น ทำให้สปายของตนต้องเสี่ยง ทั้งเกี่ยวพันกับการเมืองระหว่างประเทศ จึงต้องลากมือปืนอีกคนเข้ามาช่วยกันสืบหา-สังหารฆาตกรตัวจริง และปกป้องสปายให้ได้รอดชีวิต ท่ามกลางบรรยากาศหนาวๆ ของลอนดอนปลายปี ตัวละครต้องมาสืบหา ฆ่า และเอาตัวรอดไปด้วยกัน ถือเป็นซีรีส์นักสืบที่ดูสนุกได้พอประมาณ เรื่องราวที่ดูอีรุงตุงนัง ชวนมึนหัวดีไม่หยอก อาจไม่ถึงกับดีมากจนประทับใจ แต่ไม่ได้แย่จนต้องรู้สึกเสียเวลา