หนึ่งเรื่องราวที่ยังไม่เคยมีคนหยิบมาขยายและเล่าขาน เหตุการณ์จลาจลต่อต้านจักรวรรดิกาแลกติก เรื่องราวการผจญภัยบนเส้นทางที่ถูกลิขิต ของชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษ นามของเขาคือ แคสเซียน แอนดอร์ ในซีรีส์ที่มีความยาว 24 ตอน แบ่งเป็น 2 ซีซัน และมีชื่อสั้นๆ ‘Andor’ ที่แฟนานุแฟนของมหากาพย์สตาร์วอร์สต้องรู้จัก
นี่คือซีรีส์ออริจินัลจาก Lucasfilm ที่จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 5 ปีก่อนเหตุในภาพยนตร์เรื่อง ‘Rogue One: A Star Wars Story’ เรื่องราวของฝ่ายกบฏที่ลุกขึ้นมาก่อการต่อต้านฝ่ายอิมพีเรียลผู้กดขี่ทุกชีวิตทั้งจักรวาลมานานปี ซีรีส์ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับรายละเอียดต่างๆ ที่เรายังไม่เคยรู้ พาไปรู้จักกับตัวตนของแอนดอร์ผู้ที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งตนเองจะกลายเมาเป็นวีรบุรุษ พาไปรู้จักกับกลุ่มก้อนกองกำลังที่เล็กเพียงหยิบมือ แต่กระทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่สะเทือนไปทั่วทั้งจักรวาล
เอาล่ะ โม้มากไปแล้ว เริ่มเข้าเรื่องกันเลยจะดีกว่า…
เรื่องย่อซีรีส์ ‘แอนดอร์’
ซีรีส์เรื่องนี้จะเข้าไปสำรวจมุมมองใหม่ของกาแล็กซี Star Wars ผ่านเรื่องราวของ Cassian Andor ผู้ค้นพบว่าแท้จริงแล้วเขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ ซีรีส์เรื่องนี้ยังเล่าถึงเหตุการณ์การจลาจลต่อต้านจักรวรรดิกาแลกติกที่กำลังขยายตัวขึ้น รวมถึงสาเหตุที่ผู้คนและดาวเคราะห์ต่าง ๆ ต้องเข้ามาเกี่ยวพันกัน นี่คือยุคที่เต็มไปด้วยอันตราย การหลอกลวง และกลอุบาย และเป็นยุคที่แคสเซี่ยนได้เริ่มออกเดินทางบนเส้นทางที่ถูกลิขิต จนกลายเป็นวีรบุรุษฝ่ายกบฏ
เรื่องราวมันเริ่มขึ้นที่ แคสเซียน แอนดอร์ (Diego Luna จากซีรีส์เรื่อง ‘นาร์โคส: เม็กซิโก’, หนังเรื่อง ‘If Beale Street Could Talk’ และแน่นอน ‘Rogue One’) ที่แฝงตัวอยู่ใน มอร์ลานา วัน เขตพื้นที่ของบริษัทพรีมอร์เพื่อตามหาน้องสาวชาวเคนารีที่หายตัวไป และเขาก็เกิดพลั้งมือสังหารสองพลรักษาความปลอดภัยของพรีมอร์จนตาย เขาเลยต้องชิ่งไปยังดาวเฟอเรกซ์ ที่นั่นมีทั้งหุ่นบีสีแดง และมาร์ว่า (Fiona Shaw จากซีรีส์เรื่อง ‘Killing Eve’ และหนังเรื่อง ‘เอโนลา โฮล์มส์’) แม่ของเขา บนดาวดวงนี้ เขาดำเนินธุรกิจขายชิ้นส่วนกับบิ๊กซ์ (Adria Arjona จากหนังเรื่อง ‘มอร์เบียส’, ‘6 ลับ ดับ โหด’ และ ‘Sweet Girl’) เพื่อหวังจะหลบหนี
ทว่า รองสารวัตรคนหนึ่งของพรีมอร์ไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ พยายามตามล่าหาตัวเขาจนเริ่มรู้ชื่อ หน้าตา และเบาะแสของเขาแล้ว ขณะที่ชายผู้ต้องการซื้อของก็กำลังเดินทางมา แคสเซียน ต้องการขายของชิ้นนี้ที่มีราคาสูงเพื่อหวังจะหนีไปกบดานได้ไกลและนานพอ
รีวิวซีรีส์ ‘Andor’
เปิดตัวด้วยการเล่าสลับไปมาระหว่างชีวิตของแคสซ่าในวัยเด็กบนดาวเคนารี่ ดาวที่ถูกทิ้งร้างหลังเหตุหายนะเหมืองอิมพีเรียล เมื่อมียานลำหนึ่งตก แคสซ่าออกไปสำรวจกับพวกนั้นโดยทิ้งน้องสาวไว้เบื้องหลัง กับอีกช่วงเวลาหนึ่ง เป็นชีวิตวัยผู้ใหญ่ที่แอนดอร์กำลังตามหาน้องสาว หลบหนีการตามล่า และขายของให้กับคนๆ หนึ่ง
เริ่มต้นปูเส้นทางด้วยการเล่า 3 ตอนรวด
ในตอนที่สาม ทุกอย่างที่ถูกบอกเล่ามาอย่างละนิดละหน่อยเริ่มจะมาบรรจบกัน เหตุใด แคสซ่าจึงได้รู้จักกับหุ่นบีและมาร์ว่า จากนั้น จะส่งต่อยังคำถามที่ว่า ผู้ที่มาซื้อของจากแคสซ่าเป็นใคร แท้จริงแล้วเขามีจุดประสงค์ใดจึงลอบมาพบกับแคสซ่า เรื่องราวดูเข้าใจไม่ยาก แถมยังน่าติดตามดี
แท้จริง ชายผู้นี้ต้องการจะเล่นงานจักรวรรดิ เขาต้องการรวบรวมผู้คนและขโมยของบางสิ่งจากจักรวรรดิ เขาน่าจะรู้จักแคสซ่าดี และเฝ้ามองแคสซ่ามาตลอด คำพูดที่น่าสนใจของคนสองคนบ่งบอกว่า แคสเซียน แอนดอร์ ใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนตลอดมา เอาตัวรอดด้วยการไม่ทำตัวเด่น ขโมยเล็กขโมยน้อยไปเรื่อย แต่มันก็ทำให้รอดเพียงคนเดียวซึ่งก็ไม่น่าจะรอดไปได้นานนัก
ขณะที่คนอีกกลุ่มคิดใหญ่และคิดไกลกว่านั้น ผู้นำกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองเพื่อมาชักชวนแต่ก็ใช้เงินเป็นสิ่งหลอกล่อ ก็ใครเล่าจะไปรู้ว่า จากคนที่มาอย่างไม่เต็มใจ วันนึงจะกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในฝ่ายกบฏไปซะได้ อีกอย่างหนึ่ง งานนี้จะสำเร็จได้มันต้องมีคนที่เข้าถึงข้อมูลสำคัญ นอกจากกลุ่มที่หลบซ่อนอยู่บนดาวอัลดานีแล้ว ก็ยังผู้หมวดกอร์น (Sule Rimi) ที่เป็นสายในหน่วยทหาร และก็ยังมีเจ้าของร้านขายของหายากอย่าง ลูเทน (Stellan Skarsgård จากหนังเรื่อง ‘ธอร์ ด้วยรักและอัสนี’, ‘ดูน’ และ ‘Cinderella’) คนที่อยู่บนดาวคอรัสซังที่แทรกซึมทำงานอยู่เช่นกัน
เล่าเรื่องของตัวละครทั้งสองฝ่าย
‘แอนดอร์’ ซีซันหนึ่ง ไม่ได้เล่าเรื่องแค่ด้านของฝ่ายกบฏเพียงอย่างเดียว หากยังเล่าเรื่องของฝ่ายอิมพีเรียลด้วย ไม่ว่าจะเป็นการที่รองสารวัตรซีริล คาร์น (แสดงโดย Kyle Soller) ผู้พบเห็นเหตุสองเจ้าหน้าที่ถูกฆ่าตายและดึงดันสืบเสาะหาความจริง หรือจะเป็นเหล่าทหารระดับผู้หมวด-นายพลที่ขัดแย้งกันเองในเชิงการทำงาน บางคนสงสัยในเหตุขโมยชิ้นส่วนที่อาจเป็นพวกกลุ่มกบฎ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาบางคนมองว่ามันหยุมหยิมและมองข้ามไป ทำให้เราได้เห็นว่าบางตัวละครมีบทบาทโดดเด่นขึ้นมา หนึ่งในนั้น คือผู้หมวดมีโร (Denise Gough)
และซีรีส์ก็ไม่ได้เล่าแค่เรื่องภารกิจของฝ่ายกบฎ หรือความขัดแย้งกันในเชิงการทำงานของฝ่ายอิมพีเรียลเท่านั้นนะ แต่เขายังเล่าไปถึงชีวิตส่วนของตัวของตัวละครด้วย เช่น เรื่องของครอบครัววุฒิสมาชิกหญิงมอน มอธมา (Genevieve O’Reilly จากหนังเรื่อง ‘Rogue One‘ และซีรีส์ ‘Star Wars: Rebels’) ที่มีสามีกับลูกสาว ที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราว แต่ก็ไม่พ้นต้องเกี่ยวจนได้ อีกด้านหนึ่ง สว. มอน ก็กำลังร่วมงานอยู่กับเทย์ โคลมา (Ben Miles) สว. อีกคน ที่ช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาในด้านเงินทุนกับเธอ หรืออย่างรองสารวัตรคาร์นนั่นก็เช่นกัน หลังพยายามจะจับตัวแคสซ่าแต่ต้องคว้าน้ำเหลว ชีวิตของเขาก็เป๋ถึงขั้นต้องกลับบ้านไปหาแม่เพื่อพักใจ แต่ใครก็รู้ว่าเขาเป็นตัวละครสำคัญ เดี๋ยวเขาต้องกลับมาอีกแน่
แต่สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ การที่คนเขียนบทพาเราไปทำความรู้จักกับความรู้สึกนึกคิดของเหล่าคนฝ่ายกบฎ พวกเขาคิดอะไร รู้สึกยังไงกับการที่ถูกกดขี่เรื่อยมา จนมันผลักดันให้พวกเขาต้องออกค้นหากลุ่มคนที่คิดเหมือนกัน และร่วมมือกันเพื่อแสดงออกและเพื่ออิสรภาพที่เป็นความใฝ่ฝัน นายแพทรู้สึกชอบใจที่มีซีรีส์เรื่องนี้เกิดขึ้น มันทำให้เห็นมุมมองของคนตัวเล็กๆ อยู่มีชีวิตอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ภายใต้การกดขี่ของจักรวรรดิ พวกเขากำลังรวมตัวและร่วมมือกันก่อการใหญ่ ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าเรื่องของเจได ไม่ได้เล่าเรื่องพลัง ด้านมืดด้านสว่าง ทุกอย่างใกล้เคียงมนุษย์จริงๆ มากกว่าทุกเรื่องเล่าในจักรวาลสตาร์วอร์ส มันน่าสนใจที่ตรงนี้
การตอบโต้ของฝ่ายจักรวรรดิ ที่ส่งผลต่อเหล่าตัวละครในฝ่ายกบฏ
แค่เรื่องราวในซีซันแรกก็ทำให้คนดูค่อยๆ มองเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงการกดขี่ของอิมพีเรียลที่ทำให้แคสซ่าค่อยๆ ปรับเปลี่ยนมุมมอง จนถึงวันที่เขาต้องตัดสินใจเข้าร่วมฝ่ายกบฏแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่ทหารรับจ้างแบบที่เคยเป็น
ไม่ว่าจะเป็นมาตรการตอบโต้หลังถูกปล้นเงินที่ถือเป็นการลูบคมจนไม่อาจยอมรับได้ ตนเองถูกปล้นแต่ผลกระทบกลับไปตกอยู่กับประชากรที่ไม่รู้อะไรด้วย ทั้งยังยกระดับการสืบสวนให้เข้มข้น ริดรอนเสรีภาพของผู้คนให้มากขึ้น การจับกุมคนที่สงสัยแบบไม่ต้องถาม ต่อให้ไม่ผิดก็ยังติดคุกได้
ตัวละครที่โดดเด่น คือ เคลย่า (Elizabeth Dulau) คนที่ทำงานร่วมกับลูเทนในร้านขายของเก่า สาวสวยที่มีความฉลาดเฉลียว แถมยังดูจะเป็นตัวละครสำคัญในฝ่ายกบฏเสียด้วย กับอีกคน เธอคือ บิ๊กซ์ (Adria Arjona) สาวหน้าคมที่เคยคบหากับแคสซ่า ที่ดันไปคบกับทิมม์ที่สร้างปัญหาให้กับแคสซ่าแทนซะงั้น ในใจก็มุ่งหวังให้เธอร่วมงานกับแคสซ่าอีกครั้ง นี่คือ สองสาวสวยที่โดนใจนายแพทอย่างมาก
นอกจากสองคนข้างบน ก็ยังมี เวล (Faye Marsay) และซินต้า (Varada Sethu) หญิงสองคนนี้ก็เป็นส่วนสำคัญในการก่อกบฏเช่นกัน บทบาทในซีรีส์ของพวกเธอยังคงมีอยู่ตลอด แล้วก็ยังมี ซอล เกอร์เรรา (Forest Whitaker) ที่เขาจะได้เป็นผู้นำกองทัพพันธมิตรอีกด้วยนะ นี่พยายามจะเขียนตัวละครให้มากที่สุดแล้วนะ แต่ก็ยังขาดไปหลายคนอยู่ดี
เท่าที่รู้ ‘แอนดอร์’ จะมี 2 ซีซัน ซีซันละ 12 ตอน สำหรับซีซันสองนั้น น่าจะถ่ายทำเสร็จในช่วงราวเดือนสิงหาคมปีหน้า และจะออนแอร์ในช่วงปลายปี 2023 โดยทั้งสองซีซันจะเล่าถึงตัวละครต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในหนัง ‘Rouge One’
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Andor |
ครีเอเตอร์ | Tony Gilroy |
ผู้เขียนบท | Tony Gilroy, Dan Gilroy, Stephen Schiff |
นักแสดง | Diego Luna, Stellan Skarsgård, Alex Ferns, Genevieve O’Reilly, Kyle Soller, Wilf Scolding, Adria Arjona |
แนว/ประเภท | แอคชัน, ผจญภัย, ดราม่า, ไซไฟ, ระทึกขวัญ |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 12 ตอน, ซีซัน 2: 12 ตอน |
ช่องทางรับชม | Disney+ Hotstar |
เริ่มออกอากาศ | 21 กันยายน 2022 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Lucasfilm |
แอนดอร์
พล็อตและบท - 8.9
การแสดง - 8.2
การดำเนินเรื่อง - 8.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.2
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8.5
8.5
Andor
ซีรีส์ในจักรวาลสตาร์วอร์สที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย ในขณะที่แมนโดเน้นเล่าภารกิจและพูดน้อย แอนดอร์จะเน้นเรื่องราวที่เดินไปพร้อมๆ กับบทพูดที่แสดงถึงเจตนา ก่อนที่แอนดอร์จะกลายเป็นวีรบุรุษของฝ่ายกบฏ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ด้านฝ่ายจักรวรรดิ พวกเขารับมือกันอย่างไร ปัญหาภายในที่ทำให้เลินเล่อ เมื่อมองเห็นปัญหาจะปรับท่าทีเป็นแข็งกร้าวกันอย่างไร เป็นซีรีส์เสริมเรื่องราวที่มีอยู่ก่อนแล้วให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น