เราต่างเกิดขึ้นมาบนโลกนี้เพื่อทำอะไรหลายอย่าง หรืออาจไม่ได้เกิดมาเพื่อทำอะไรสักอย่างเลยก็ได้ แต่มนุษย์จำเป็นต้องหาอะไรทำ เพื่อไม่ให้ตัวเองว่างเปล่าเกินไป อีกด้าน ก็เพื่อให้เรารู้สึกเหมือนมีจุดหมายในชีวิต เดินไปด้วยความรู้สึกว่าฉันมีความสุขที่ได้ทำ สิ่งนั้นทำให้ฉันมีแรงพลังที่จะก้าวขึ้นไปเพื่อทำมัน นั่นคือ “ความฝัน” แต่ถ้าความฝันคือการอยู่รอดของมนุษยชาติ การก้าวไปสร้างอาณานิคมที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ล่ะ ‘Lost in Space’ อาจเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่มนุษย์จะทำ
แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าเรื่องมนุษยชาติที่จะได้พบดินแดนแห่งความอยู่รอดแห่งใหม่ ทว่า มันเล่าถึงความผิดพลาดของปฏิบัติการที่ดันไปตกลงไปบนดาวดวงหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ว่าที่ไหน และทำไมถึงได้ตกลงไป
แม้ว่าเราจะเคยดูในเวอร์ชั่นหนัง แต่จริงๆ มันเป็นซีรีส์ที่รีเมกของซีรีส์เก่าเมื่อราวปี 1965 มาอีกที
รีวิวซีรีส์ ‘Lost in Space’
ตอนแรกของ ‘ทะลุโลกหลุดจักรวาล’ บอกเล่าเรื่องของครอบครัวโรบินสันที่ได้โอกาสในการร่วมเดินทางไปกับยานเรโซลูท เพื่อค้นหาและบุกเบิกดาวดวงใหม่ๆ ที่จะได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ พวกเขาผ่านการทดสอบและได้ไปกันทั้งครอบครัว ยานจูปิเตอร์ทูของพวกเขาได้ร่วมไปกับยานขนส่งขนาดใหญ่ แต่อุบัติเหตุบางอย่างพาให้พวกเขาต้องร่อนลงฉุกเฉินบนยานที่ไม่รู้จัก
สภาพยับเยินของยาน และสภาพของภูมิประเทศที่ไม่มีใครคุ้นเคยรู้จัก
เด็กน้อย วิล เด็กชายลูกคนสุดท้องได้รู้จักกับหุ่นยนต์ประหลาด เขาช่วยเหลือมันและมันก็ช่วยเหลือและเชื่อเขาเพียงผู้เดียว
แรกๆ เรื่องราวก็โฟกัสอยู่แค่ครอบครัวนี้ เล่นเล่าสลับกับช่วงที่อยู่บนโลก แต่พอผ่านไปหลายตอนเข้า ก็จะได้พบว่ายังมีมนุษย์อีกหลายคนจากหลายยานที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ ทั้งหมดต้องช่วยกันเพื่อเอาตัวรอดให้จากดาวที่ไม่เคยรู้จัก และเพราะว่ามันไม่เคยรู้จัก มันจึงอันตรายไม่ใช่เล่น
ครอบครัวที่มักจะมีเรื่องขัดแย้งกันเบาๆ มีเด็กที่ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่ นั่นก็ทำให้เรื่องยุ่งพอดูแล้ว นอกเหนือไปจากนั้น ในบรรดาผู้คนที่เหลืออยู่ ดูเหมือนจะมีบางคนที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะทำอะไร สร้างความยุ่งยากให้กับภารกิจเอาตัวรอดเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่ดาวดวงนี้ก็เหมือนกำลังจะวิกฤติขึ้นทุกที
ถ้าจะถามว่า ผมชอบเรื่องนี้ตรงไหน ไม่ชอบตรงไหนบ้าง ผมว่าคำตอบของผมก็คือ ผมชอบที่หนังเดินเรื่องรวดเร็ว ไม่แช่ดราม่านาน เรื่องราวมีการเคลื่อนไหวตลอด ขณะที่งานด้านเทคนิคก็ถือว่าทำได้ดีในการ CG โปรดักชั่นการสร้างฉากบางส่วนอาจจะเป็นคุณภาพแบบซีรีส์ อันนี้ก็พอเข้าใจ ที่ไม่ค่อยชอบใจอยู่บ้าง อาจจะมีตรงที่ดีไซน์ของยานจูปิเตอร์นี่เหมือนมิลเลเนียมฟัลคอนที่ตัดรายละเอียดออก กับตัวละคร ดร.สมิธตัวปลอมที่ดูน่ารำคาญไปนิด ไม่รู้จะมีใครคิดเห็นเหมือนผมหรือเปล่า
ผมชอบตัวละคร เพนนี (Mina Sundwall) เด็กสาวลูกคนกลางที่มีจิตใจดี แต่ขี้ดื้อ มีหน้าตาน่ามองสุดในหนังละ แต่อีกใจก็รู้สึกว่า จูดี้ (Taylor Russell) ลูกสาวคนโต แม้จะผิวสีแต่ก็มีความสวยอยู่นะ
เรื่องราวดราม่าในครอบครัว ความขัดแย้งที่ปนกับสายใยของคนที่รักกัน หุ่นยนต์ที่สร้างมิตรภาพทว่าบางคนเขาไม่วางใจ จินตนาการของสิ่งมีชีวิตและสภาพภูมิประเทศบนดวงดาวที่มีทั้งสวยงามไม่ก็แสนอันตราย การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคม และตัวละครที่พร้อมจะสร้างเรื่องได้ทุกเมื่อ
ตัวละครทั้งหมดต้องช่วยกันหาทางกลับออกไปจากดาวดวงนี้ให้เร็วที่สุด ทว่ามันไม่ได้หยุดแค่ซีซั่นแรกนะครับ เหอๆ
ชื่อซีรีส์: Lost in Space / ทะลุโลกหลุดจักรวาล
ซีซั่น: 1 (2018)
ผู้สร้าง: Irwin Allen, Matt Sazama, Burk Sharpless
นักแสดง: Molly Parker, Toby Stephens, Maxwell Jenkins, Taylor Russell, Mina Sundwall