ซีรีส์วัยรุ่นสัญชาติอังกฤษที่โด่งดังไปทั่วโลก และเป็นซีรีส์ที่หลาย ๆ คนรอคอย คงไม่พ้นเรื่อง Sex Education ที่อยู่ในแพลตฟอร์มที่โด่งดังอย่าง Netflix เป็นซีรีส์ที่เลือกหยิบประเด็นเรื่องเพศมาถ่ายทอด โดยพูดถึงสารพัดปัญหาที่วัยรุ่นต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน การถูกพ่อแม่สอดแนมดูพฤติกรรมลูก การถูกเปรียบเทียบ การถูกบูลลี่ในรูปแบบต่าง ๆ ในขณะเดียวกันตัวซีรีส์เองก็มีความพยายามที่จะให้แง่คิดกับบรรดาผู้ปกครองในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การรับฟังปัญหาของลูกแบบไม่ตัดสินใจไปก่อน การปรับความเข้าใจกัน พร้อมก้าวข้ามปัญหาต่าง ๆ และเรียนรู้ที่จะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่และเปิดกว้าง มาพร้อมกับการเล่าเรื่องที่สอดแทรกด้วยมุกตลกอารมณ์ขัน ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นกระแสและโด่งดังอย่างไม่คาดคิด! วันนี้เราเลยมีคลาสเกี่ยวกับเพศศึกษาสมัยใหม่มาให้ชมกัน ไปดูพร้อม ๆ กันดีกว่าว่าซีรีส์ Sex Education จะให้บทเรียนและหลักสูตรอะไรให้กับเราบ้าง ไปดูกัน!
เปิดโลกกว้างเกี่ยวกับเพศศึกษา
เนื่องจากพระเอกเปิดคลินิกให้คำปรึกษาเรื่องเพศในโรงเรียน ทำให้แต่ละตอนดำเนินไปด้วยเคสของคนที่มาปรึกษาในประเด็นต่าง ๆ โดยเนื้อเรื่องก็ได้พูดถึงหลาย ๆ ประเด็นที่เปิดโลกมาก เช่น ความจริงเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ฮอร์โมนที่พุ่งพล่านไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย, การทำความเข้าใจและพูดคุยกับคู่นอนก่อนชอบแบบไหน หรือแม้กระทั่งประเด็นของ Asexuality หรือการไม่ฝักใฝ่ทางเพศ ทำให้เราได้เข้าใจว่าการเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ ยังมีความรู้เรื่องเพศในเชิงการเพศอีกด้วย อาทิ เรื่องโรคติดต่อ และการสวมถุงยางที่จะช่วยไม่ให้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงวิธีการป้องกัน และการคุมกำเนิด เป็นต้น
การถูกคุกคามทางเพศเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
เรื่องเล่าของ ‘เอมี่ กิบส์’ ที่ระหว่างอยู่บนรถบัส เธอถูกลวนลามจากคนแปลกหน้าด้วยการช่วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ความกลัวที่ซ่อนเอาไว้ได้ประดังประดาเข้ามาก่อตัวในจิตใจเธอ จนทำให้เธอมีปมในใจถึงขั้นไม่กล้าขึ้นรถบัสอีกเลย นอกจากนี้ เพื่อนสาวของเธอก็ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ออกมา เช่น ถูกจับหน้าอกที่สถานีรถไฟ ถูกผู้ายเดินตาม หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวที่โดนแซวเรื่องกางเกงสั้น เรื่องเหล่านี้กลายเป็นปมในใจของหญิงสาวตัวเล็ก ๆ พวกเธอจึงเอาชนะความกลัวด้วยกัน ด้วยการมาเจอกันที่ป้ายรถบัสและขึ้นรถไปโรงเรียนพร้อมกับเอมี่
ประเด็น LGBT+ ความหลากหลายทางเพศ
การนำเสนอเรื่อง LGBT+ เป็นอะไรที่น่าประทับใจและทำออกมาได้ดีมาก ซึ่งในเรื่องตัวละครที่ชื่อ เอริค เอฟฟิออง เพื่อนสนิทที่สุดของพระเอก ได้นำเสนอภาพลักษณ์และแนวคิดที่น่าประทับใจ แม้ตัวเอริคจะต้องเผชิญกับการดูถูก พูดจาเหยียดเพศ และกลั่นแกล้งสารพัดจากนักเรียนคนอื่น แต่เขาก็ภูมิใจในการเป็นตัวเองอย่างเต็มที่ แถมพระเอกที่เป็นเพื่อนสนิทยังสนับสนุนเขาด้วยการแดรก (Drag) ประจำวันเกิดทุกปีอีกด้วย และอีกหนึ่งพาร์ทที่ชอบที่สุด คือ ประเด็นการยอมรับของคนในครอบครัว พวกเขากลัวคนอื่นจะว่าและดูถูกลูก แต่อย่างไรก็ตาม เอริคได้พูดประโยคกินใจว่า “ความกลัวของพ่อไม่ช่วยผมเลย มันทำให้ผมรู้สึกอ่อนแอ” แม้ว่าตัวเขาจะเจ็บแค่ไหน แต่แลกกับการเป็นตัวเองก็ถือคุ้ม!
การกลั่นแกล้ง Bully ในโรงเรียน
อีกหนึ่งประเด็นที่เป็นปัญหาไปทั่วทุกมุมโลก มีซีรีส์หลายเรื่องที่ได้หยิบประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาถ่ายทอด ทั้งพยายามชี้ให้เห็นปัญหา การวางพล็อตเป็นฝั่งคนดีและคนไม่ดี บางเรื่องพยายามช่วยกันหาทางออก ซึ่งหากพูดถึงการบูลลี่แล้วนั้น อาจจะสื่อถึงอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น เรื่องเพศ หน้าตา ฐานะ ความต้องการเป็นที่ยอมรับ ความรู้สึกไม่เท่าเทียม ฯลฯ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องของเด็ก ๆ ทั้งที่จริงแล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถยุติปัญหานี้ลงได้
การกินยาคุมไม่ใช่เรื่องน่าอาย
เนื้อเรื่องชี้ให้ถึงประเด็นที่ว่า การกินยาคุมไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอะไร รวมไปถึงการซื้อผ้าอนามัย ถุงยาง ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ด้วย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ให้มองเป็นความรับผิดชอบและการป้องกันที่ควรกระทำ โดยซีรีส์ได้เล่าเรื่องราวความเละเทะจากปาร์ตี้ของโอทิส ซึ่งเขาเมาและมีเซ็กส์กับดาวโรงเรียนอย่างรูบี แต่ปัญหาคือไม่มีใครจำได้ว่าได้ใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ ทั้งคู่ถึงตัดสินใจไปร้านยาเพื่อซื้อยาคุมฉุกเฉิน ด้านเภสัชกรนั้นที่ขายให้นั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเหยียดหยามอะไร เธอมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่น จากนั้นเธอก็ได้ถามรายละเอียดทันที เพื่อที่ได้แนะนำวิธีการกินและจ่ายยาได้อย่างถูกต้อง
ประเด็นเรื่องท้องและทำแท้งในวัยรุ่น
แน่นอนว่าเนื้อเรื่องไม่ได้บอกตรง ๆ เลยว่า การทำแท้งดีกว่า หรือห้ามทำแท้งนะมันบาป แม้ตัวเรื่องไม่ได้พูดชัด ๆ แต่กลับเป็นการให้ข้อคิดและเสนอมุมมองที่ดีมาก ๆ ตือต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่บนพื้นฐานเรื่องทั้งเรื่องการแพทย์ ศาสนา สังคม เศรษฐกิจ รวมไปถึงการเมือง ทำไมถึงเกี่ยวข้องกัน ? เนื่องจากในโลกนี้มีประเทศที่การยุติการตั้งครรภ์ถูกกฎหมาย แต่ในทางกลับกันก็จะมีประเทศที่ไม่ยอมรับในการทำแท้ง เพราะอาจจะอยู่พื้นฐานของศาสนา เป็นต้น ทำให้มุมมองหลายอย่างมันต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามในเนื้อเรื่องก็ได้ยกตัวอย่างเคสของนางเอก ที่ได้เข้าไปตรวจที่โรงพยาบาล และคุณหมอก็ไม่ได้มองเหยียดหยามอะไร แต่กลับในคำแนะนำและความรู้แทน นอกจากนี้ ยังมีอีกประโยคทัชใจที่เป็นไวรัลไปทั่วทวิตเตอร์ที่พูดว่า “การไม่ได้เป็นแม่ ดีกว่าการเป็นแม่ที่ไม่ดี” ซึ่งก็เป็นการให้ข้อคิดที่ดีมาก ๆ เพราะการเลี้ยงดูคนคนนึงให้ดีมันไม่ง่ายเลย
จบไปแล้วกับคลาสเกี่ยวกับเพศศึกษา หลังจากที่ได้ดู Sex Education ก็ทำให้เห็นว่าแก่นสารที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอนั้นมันดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำให้วัยรุ่นเข้าใจเกี่ยวกับเพศศึกษาในช่วงคาบเกี่ยวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การบอกและสอนวิธีป้องกันต่าง ๆ มันดีกว่าการห้ามไม่ให้ทำอย่างไร เพราะการทำความเข้าใจสำหรับวัยนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด อย่าไปห้าม แต่พยายามใช้วิธีการอธิบายให้เขาเข้าใจทั้งโทษและคุณของมันตรง ๆ ดีกว่า แล้วปล่อยให้ทุกคนออกไปเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงอย่างมีภูมิคุ้มกันด้วยตัวเอง ใครที่รู้สึกว่าชอบการเล่าเรื่องและอยากลองทำความเข้าใจมุมมองวัยรุ่นดู ก็สามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix เลย!
Shopee 12.12 Birthday Sale ช้อปส่งท้าย เซอร์ไพรส์จัดเต็มทุกโปร 12.12 จากแบรนด์ดังชั้นนำกับขบวนสินค้ายอดฮิตมากมายลดแบบจัดหนัก รับโค้ดส่วนลด 2,000.- และโค้ดลด 50% ช้อปส่งท้ายปีฟินกว่าเดิมด้วยโปรส่งฟรีทั่วไทยขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. – 12 ธ.ค. ที่ Shopee 12.12 Birthday Sale!