ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่มักจะเลือกเสพซีรีส์เกาหลีโดยใช้ปัจจัยหลักจากนักแสดง นอกเหนือไปจากเรื่องราวที่ชวนให้ฉุกใจในสองสามตอนแรก หนึ่งในดาราเกาหลีที่ผมสนใจและเลือกจะหยิบมาเปิดดูก็คงจะเป็นคนนี้ แบซูจี หรือ Bae Suzy นั่นแหละครับ
หน้าขาวที่ดูเรียบๆ ของเธอนั้น กลับช่างดูมีเสน่ห์น่ามองเสียมากมายอย่างที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร บางทีอาจจะเขียนชื่อเธอว่า แพซูจี บางคนก็เรียกเธอสั้นว่า ซูจี แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็คือคนๆ เดียวกัน
ประวัติอันย่นย่อของ แบซูจี
เธอเกิดวันที่ 10 ตุลาคม 1994 ที่ควังจู เคยศึกษาที่ Seoul Arts High School เคยเป็นนางแบบให้กับร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ เคยเข้าประกวด Mnet Superstar แต่ถูกคัดออก ก่อนจะถูกแมวมองทาบทามเข้าเป็นนักร้องฝึกหัดในสังกัด JYP Entertainment จนได้เป็นอดีตสมาชิกวง Miss A เดบิวต์ด้วยซิงเกิล ‘Bad Girl Good Girl’ จากนั้นก็มีทั้งงานวง งานเดี่ยว งานละครซีรีส์ติดตามมา ในที่นี้จะขอพูดถึงงานซีรีส์และรวมไปถึงงานหนังของซูจีก็แล้วกัน
รวมซีรีส์เด่น ผลงานดังของ แบซูจี
แม้ว่า ซูจี จะมีความโดดเด่นในเรื่องงานเพลงกับเสียงร้องอันน่าฟังของเธอแล้ว แต่ผลงานการแสดงก็เป็นอีกสิ่งที่โดดเด่นมากๆ เช่นกัน บทความนี้จึงจะขอรวบรวมงานการแสดงของเธอเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เผื่อว่า ใครตามมาอ่านจะได้ไม่พลาดชมผลงานดีๆ ของ Suzy คนนี้ไงเล่าครับผม
ปี 2011 – Dream High / มุ่งสู่ดาว ก้าวตามฝัน
ผลงานซีรีส์ชิ้นแรกที่มีภาคสองติดตามมา(แต่ใช้นักแสดงชุดใหม่) เรื่องราวชีวิตวัยรุ่น 6 คนที่ไล่ล่าหาความฝัน เข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะและการแสดงคิริน ด้วยความมุ่งหวังจะได้กลายเป็นดาวในวงการเพลงและนักแสดงเกาหลี แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังฝึกฝนทักษะและพัฒนาตนเองนั้น พวกเขาก็เริ่มมีความรักซึ่งกันและกัน
และเมื่อเป็นซีรีส์เล่าเรื่องวงการเพลงแล้ว เธอก็มีผลงานเพลงประกอบออกมาด้วย โดยได้ร้องเพลง ‘겨울아이 (Winter Child)’ กับเพลง ‘Dream High’ ร่วมกับ แทกยอน, อูยอง, คิม ซู-ฮยอน และจู ด้วย แต่ในภาคสองแม้ซูจีจะไม่ได้ร่วมแสดงแต่ก็ได้โผล่ไปอยู่ในตอนที่ 15 แถมเธอยังได้ร้องเพลงประกอบ ‘You’re My Star’ ด้วยนะ
รางวัลที่ซูจีได้รับ
- Best New Actress บนเวทีการประกาศรางวัล 2011 KBS Drama Awards
- Best Couple Award คู่กับ Kim Soo Hyun/คิมโซฮยอน บนเวทีการประกาศรางวัล 2011 KBS Drama Awards
ปี 2012 – Big / รุ่นไหน หัวใจก็จะรัก
เรื่องนี้ ซูจี ได้เล่นซีรีส์ร่วมกับ กงยู (Gong Yoo) และอีมินจอง (Lee Min Jung) ในซีรีส์ชื่อสั้นๆ ว่า ‘Big’ เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 18 ที่บังเอิญไปอยู่ในร่างของชายวัย 30 แพทย์หนุ่มที่ประสบความสำเร็จและหมั้นอยู่กับนางเอกผู้เป็นครูไฮคูลของเด็กหนุ่มวัย 18 คนนั้น ที่ยุ่งเหยิงกว่าเดิมก็คือ แพทย์หนุ่มวัยสามสิบผู้นั้นดันไปตกหลุมรักหญิงสาวอีกคนที่แสดงโดยซูจีนี่แหละ
เรื่องนี้เขียนบทโดยพี่น้องตระกูลฮง และเรื่องนี้ ซูจีก็ร้องเพลงประกอบเอาไว้อีกเช่นกัน นั่นคือ เพลง ‘I Still Love You’ ครับ
รางวัลที่ซูจีได้รับ
- Popularity Actress Award บนเวทีการประกาศรางวัล 2012 KBS Drama Awards
ปี 2013 – Gu Family Book / คังชิ คัมภีร์ตระกูลจิ้งจอก
งานนี้ ซูจีได้รับบทที่โดดเด่นขึ้นมาก และได้เล่นคู่กับอีซึงกิ ในซีรีส์แนวโรแมนติกแฟนตาซีที่มีเรื่องราวพื้นหลังเป็นเกาหลียุคโบราณ อีซึงกิสวมบทเป็นกูมีโฮครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ ที่ต้องดิ้นรนในฐานะมนุษย์แถมยังวุ่นวายกับเรื่องความรัก
รางวัลที่ซูจีได้รับ
- Best Actress (mini series) บนเวทีการประกาศรางวัล 2013 MBC Drama Awards
- Best Couple Award คู่กับ Lee Seung Gi/อีซึงกิ บนเวทีการประกาศรางวัล 2013 MBC Drama Awards
ปี 2016 – Uncontrollably Fond / หยุดหัวใจไว้ลุ้นรัก
ในช่วงปี 2014 ซูจีไปเล่นรับเชิญในตอนที่ 17 ของซีรีส์ ‘You Who Came from the Stars’ (ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว) ก่อนที่ต่อมาในปี 2016 ซูจีจะได้รับบทนางเอกในซีรีส์เรื่อง ‘Uncontrollably Fond’ คู่กับ Kim Woo Bin/คิมอูบิน เรื่องราวของพระเอกที่มีอาชีพนักแสดงแต่มีปัญหากับฉากที่ตัวละครต้องตาย ทั้งมีปมในใจ เขาได้เจอโปรดิวเซอร์รายการเปิดโปงที่ตกงานจนจำเป็นต้องรับงานสัมภาษณ์พระเอกเพื่อทำสารคดี
ซีรีส์เรื่องนี้ ซูจีได้ร้องเพลงประกอบหลายเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Dream’ ร้องกับ แบคฮยอน, ‘Ring My Bell’ และ ‘When we were’
ปี 2017 – While You Were Sleeping / ลิขิตฝันฉันและเธอ
เรื่องราวของสาวหน้าใสผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักข่าว มีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งคือการฝันเห็นอนาคตล่วงหน้า และอนาคตที่เธอเห็นนั้นคือการอยู่ในอ้อมกอดของพระเอกที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านตรงข้าม ในเรื่องนี้ ซูจีเล่นกับ อีจงซอก (Lee Jong Suk) ที่เป็นอัยการ และได้เจอกับ จองแฮอิน (Jung Hae In) ในบทตำรวจ ทั้งสามต้องคลี่คลายเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างร่วมกัน
รางวัลที่ซูจีได้รับ
- Best Actress (Wednesday & Thursday drama) บนเวทีการประกาศรางวัล 2017 SBS Drama Awards
- Best Couple Award คู่กับ Lee Jong Suk/อีจงซอก บนเวทีการประกาศรางวัล 2017 SBS Drama Awards
ปี 2019 – Vagabond / เจาะแผนลับเครือข่ายนรก
หนึ่งสาวกับหนึ่งหนุ่มที่มาเจอกันเพราะชะตาลิขิต ซูจีกับบทบาทของนักสืบสาวผู้กำลังมองหาผลงาน กับสตั๊นต์แมนที่สูญเสียหลานชายไปบนเครื่องบิน เพราะความสงสัยในเงื่อนงำทำให้ทั้งสองได้พบเจอกัน สองหนุ่มสาวจึงต้องทั้งหลบหนีและไล่ล่าในสถานการณ์ที่ไม่อาจไว้ใจใคร
ซูจีได้กลับมาร่วมเล่นกับอีซึงกีอีกครั้ง และกลายเป็นซีรีส์แอคชั่นสุดระทึกที่พาเอาผู้คนติดใจกันทั่วบ้านเมือง
รางวัลที่ซูจีได้รับ
- Best Actress บนเวทีการประกาศรางวัล 2019 SBS Drama Awards
- Best Couple Award คู่กับ Lee Seung Gi/อีซึงกิ บนเวทีการประกาศรางวัล 2019 SBS Drama Awards
ปี 2020 – Start-up / สตาร์ทอัพ
ซีรีส์ที่บอกเล่าธุรกิจรุ่นใหม่วัยเริ่มต้น สตาร์ทอัพ ที่มีองค์กรพี่เลี้ยงคอยชี้แนะแนวทางการทำธุรกิจบวกจัดหาเงินทุน เรื่องราวของสองพี่น้องที่ถูกแยกไปคนละทางหลังแม่ไม่ชอบใจในตัวพ่อของพวกเธอ ก่อนจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่พี่สาวน้องสาวเข้าร่วมประกวดในโปรเจกต์แซนด์บอกซ์และได้เจอกับพระเอกสุดหล่อ นัมโดซาน ที่แสดงโดย นัมจูฮยอก (Nam Joo Hyuk) และมีพี่เลี้ยงสุดเก่งอย่าง หัวหน้าฮันจีพยอง ที่แสดงโดย คิมซอนโฮ (Kim Sun Ho)
ซีรีส์ที่ฉายใน Netflix แถมได้รับนิยมมีคนพูดถึงอย่างท่วมท้น
ปี 2022 – Anna / อันนา
ซีรีส์ในบริการ Prime Video ที่มีสองเวอร์ชันให้เลือก 6 ตอน หรือ Director’s Cut 8 ตอน ทุกสิ่งเริ่มขึ้นจากคำโกหกอันแสนเรียบง่าย อียูมี หญิงสาวที่เกิดในครอบครัวร้านตัดเสื้อที่ยากจน ถีบตัวเองขึ้นมาด้วยคำโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า จนมันกลายเป็นตัวเธอโดยสมบูรณ์ วันนี้ เธอกลายเป็น อีอันนา หญิงสาวผู้ร่ำรวยมีหน้ามีตามีหน้าที่การงานที่ดี มีสามีเป็นเจ้าของธุรกิจไอทีที่กำลังเข้าสู่วงการการเมือง
เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราได้เห็นถึงความสามารถทางการแสดงของหญิงสาวผู้ก้าวมาจากการเป็นไอดอลคนนี้ ซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่เชี่ยวชาญในด้านการต้มตุ๋น หยิบฉวยเอาตัวตนคนอื่นมาเป็นของตน เป็นเรื่องราวที่เล่าถึงชนชั้น ความแตกต่างระหว่างความรวยกับความจน และซูจีถ่ายทอดบทบาทหญิงผู้ขโมยตัวตนคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม
ปี 2023 – Doona! / ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน
ซีรีส์เกาหลีที่ฉายทาง Netflix รวดเดียว 9 ตอน เล่าเรื่องราวของ อีดูนา อดีตสาววงไอดอลที่ลาออกมาอยู่ในแชร์เฮ้าส์ชั้นหนึ่งทั้งชั้นแบบไม่ทำอะไร แล้ววันหนึ่ง ก็มีหนุ่มน้อยจากบ้านนอกเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงโซลมาเช่าพักอยู่ชั้นสอง ก่อนที่ความสัมพันธ์ต่างๆ จะเริ่มต้นขึ้น โดยมีเรื่องปวดหัวสไตล์รักสามสี่เส้าเข้ามากวนหัวใจ
ซูจีกับผลงานภาพยนตร์
นอกเหนือจากงานด้านซีรีส์แล้ว ซูจีก็ยังมีงานด้านภาพยนตร์อีกด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ขอสรุปมาเพียงคร่าวๆ ดังนี้
- ปี 2012 – Architecture 101 / รักแรกในความทรงจำ – ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของซูจีและได้เล่นคู่กับอีเจฮุน เป็นหนังแนวโรแมนติก ซึ่งกำกับโดย อียองจู เล่าเรื่องราวของความรักของนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่ตกหลุมรักนักศึกษาจากสาขาดนตรีอย่างหัวปักหัวปำ ก่อนที่พวกเขาจะมาพบเจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน
- ปี 2015 – The Sound of a Flower – หนังที่สร้างจากเรื่องราวจริงของชินแซฮโยและแชซอน เรื่องราวของนักร้องที่ไม่มีโอกาสได้แสดงเนื่องด้วยการกีดกันทางเพศในยุคโชซอน
- ปี 2017 – Real (ในฐานะ Cameo) – หนังที่คิมโซฮยอนเล่นนำ สวมบทบาทเป็นนักฆ่าที่มีชื่อเสียงในโลกอาชญกรรม ผู้มุ่งหมายจะเป็นเจ้าของคาสิโนในสักวัน
- ปี 2019 – Ashfall – หนังแนวมหันตภัยที่เล่าเรื่องคาบสมุทรเกาหลีที่เผชิญกับเหตุภูเขาไฟระเบิด และจำเป็นต้องพึ่งพาทีมที่เกิดจากกลุ่มคนหลากหลายช่วยกันกอบกู้แก้ไข
ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยังคงรอคอยผลงานชิ้นใหม่จาก แบซูจี หรือ Suzy กันต่อไปเหมือนเดิมครับ