นี่คงเป็นอีกครั้ง ที่ผมกลับไปเยี่ยมดินแดนนี้ในฐานะคนธรรมดาอีกครั้ง ไม่ได้เข้าไปเพื่อทำงาน ไม่ได้เข้าไปในฐานะสื่อ แต่เข้าไปในฐานะผู้มาเที่ยวชมงานมหกรรมดนตรีและบันเทิงของคลื่นอ้วนๆ อย่างเพียวๆ วันนี้ ผมไปเยือนชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี เพื่อเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของงานใหญ่ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี งานที่มีชื่อว่า ‘FaT Festival’
ปีนี้ งานมีชื่อเป็นการเฉพาะว่า “อีนี่ FaT Fest นะจ๊ะ 9 จ๋า” ในฐานะที่เป็นครั้งที่ 9 ของการจัดงาน มีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นด้วยการใส่ความเป็น “แขก” เข้าไปเป็นสีสัน งานจัดขึ้นที่เดิมกับเมื่อครั้งที่แล้วๆ มา แต่บรรยากาศนั้นห่างกันไกล…
เมื่อเข้าไปในงาน เราก็ได้พบกับแผ่นป้ายโฆษณาผืนใหญ่ที่ยาวตลอดแนว การสร้างสรรค์ที่ดูจะไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนนัก เมื่อเดินผ่านเข้าก็ได้พบกับบูธมากมาย จากทั้งฝั่งค่ายเพลง ศิลปิน นิตยสาร-หนังสือ ค่ายหนัง ที่ถูกจัดวางแบบปะปนกัน เชื่อว่า ก็คงไม่ต้องการให้คนไปกระจุกตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งมากเกินไป แต่การจัดวางแบบเขาวงกตที่กลับมาอีกครั้ง ก็ทำให้หาบูธที่ต้องการยากเย็นขึ้นนั่นเอง
ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรมากนักในการจับจ่าย จึงได้แต่เดินไปทั่วเพื่อดูว่ามีบูธไหนน่าสนใจบ้าง เพื่อแวะไถ่ถาม หรือจับจ่าย ดูภาพที่ถ่ายมาน้อยนิดพร้อมคำบรรยายเอาก็แล้วกันครับ
บูธ Happening นิตยสารที่มีทั้งเวอร์ชั่นแจกและขาย มีเล่มเก่าเล่มใหญ่เรียงรายให้เลือกซื้อ
บูธ Smallroom บูธที่ยาวที่สุดในงาน (อีกเช่นเคย) ได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมงานมากที่สุด (อีกเช่นเคย)
สภาพโดยทั่วไปของโซนบูธต่างๆ จะเห็นได้ว่า คนบางตากว่าครั้งก่อนๆ มากเอาการ
จุดนี้ เรียกได้ว่าเป็นจัดนั่งพักของผู้คนที่อาจจะเหนื่อยจากการยืน เดิน เต้น ที่นี่มีป้ายบอกว่า “ห้ามยืน” กำกับไว้ด้วย
ไม่นาน หลังจากเดินวนจนครบ จับจ่ายมาพอหอมปากหอมคอ พูดคุยกับคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันนาน เสร็จแล้วก็คิดว่าได้เวลากลับกันแล้วล่ะ วันนี้ ไม่ได้ร่วมเบียดเสียดกับผู้คนในการชมคอนเสิร์ตโชว์ต่างๆ ของศิลปินทั้งหลาย ถามจากน้องที่ไป เขาว่า คนเลือกไปดูคอนเสิร์ตกันเสียส่วนมาก ไม่ค่อยเห็นมาเดินตามบูธกันสักเท่าไหร่ ครั้งนี้ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้กลายเป็นสีสัน โชว์ต่างประเทศไม่มี ศิลปินต่างชาติไม่มา โซนหนังสือทำมือ เพลงทำมือ หายไป สีสันของงานหายไปเยอะไม่ใช่เพียงแค่จำนวนคนเข้างานที่หายไปเท่านั้น
ต้องรอดูกันไปว่า เหตุการณ์มันจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมคงพูดได้แค่นี้…
รวบรวมมาให้ครับ ในฐานะที่ผมเข้าไปอยู่ในงาน “FaT Festival” มาทุกครั้ง
- Heineken FaT Festival ครั้งที่ 1 ณ โรงงานยาสูบ(เก่า) 1-2 ก.ย. 44
- Heineken FaT Festival ครั้งที่ 2 ณ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว 2-3 พ.ย. 45
- Heineken FaT Festival ครั้งที่ 3 ณ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ 1-2 พ.ย. 46
- Heineken FaT Festival ครั้งที่ 4 ณ สนามม้านางเลิ้ง 6-7 พ.ย. 47
- Heineken FaT Fest Five ณ แดนเนรมิตเก่า 5-6 พ.ย. 48
- FaT Festival ครั้งที่ 6 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี 11-12 พ.ย. 49
- FaT Festival ครั้งที่ 7 ขอบคุณป้าเอ ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี 10-11 พ.ย. 50
- Coke FaT Festival 8 Plaza ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี 8-9 พ.ย. 51
- อีนี่ FaT Fest นะจ๊ะ 9 จ๋า ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี 7-8 พ.ย. 52
ส่วนแฟตเฟสติวัลที่จัดในต่างจังหวัดมีดังนี้
- FaT Fest โชว์เหนือ ณ ลานม่วนใจ๋ ศูนย์การเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า จ.เชียงใหม่ 8 มี.ค. 51
- FaT Festival มันถึงแก่น ณ หอประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น 21 มิ.ย. 51
- FaT Fest โชว์เหนือ ต๋อน โชว์เหนือกว่า ณ ลานม่วนใจ๋ ศูนย์การเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า จ.เชียงใหม่ 24 ม.ค. 52
ผมเคยไปขายของอยู่สองปี
แล้วก็รู้สึกว่ามันค่อยๆ ไกลจากที่ชอบมากขึ้นทุกที
ผมคงคาดหวังอะไรจากความประทับใจแรกของแฟตมากไปหน่อย
(ซึ่งความคาดหวังนี้ไปพ้องกับใครอีกหลายๆ คน)
มีแอบถ่ายเบื้องหลังสาวๆมาด้วย 55+
ไม่ได้ไปมาหลายปีแล้วคับพี่แพท ,,
ปีนี้อยากไปนะคับ ,, (เพราะคิดถึงบรรยากาศ)
แต่เห็นพี่แพทบอกว่า คนเงียบ (ในทวิตเตอร์)
ก็คิดว่าดีแล้วหล่ะ ที่ไม่ได้ไป ,,
ความคาดหวังพ้องกับคุณ iannnnn ครับ
ไปมาเมื่อปีที่แล้ว และรู้สึกว่า Fat Fest อิ่มตัวแล้ว
หลังจากรู้สึกว่าการเริ่มต้นเก็บค่าบัตร
ในนโยบายคัดคนที่ตั้งใจมาจริงๆ กลายพันธุ์เป็นการทำมาหากินอย่างจริงจัง
ตอนนนี้ Fat Fest น่าจะมีสถานะเหมือนวงร็อกที่ต้องเลือก
จะยุบวงเพื่อเป็นตำนาน หรือออกอัลบั้มใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครจำ ออกมาอีก
ถ้าไม่ได้อ่านหัวข้อเอนทรี่ของคุณแพตในนี้
เราก็คงยังงงอยู่นั่นเองว่าทำไมต้องคอนเซ็ปต์อินตะระเดีย
ขอบคุณค่า !
แล้วถ้าจะบอกว่า Fat Fest ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ที่บริษัทพยายาม รีดเม็ดเงินที่พอจะเหลืออยู่มาจัดเพื่อให้แฟนๆ สนุกกันเป็นครั้งสุดท้ายล่ะครับ
ดูจากภาพแล้วโล่งๆเงียบเหงาจริงๆครับ
@OfCauseNot ผมว่า ปีหน้า จัดตามงบที่มี เล็กๆ แบบครั้งแรกๆ ก็ได้ครับ
ดูคนน้อยๆ เงียบเหงามากมาย
หากมันเป็นอย่างที่ OfCauseNot ว่าไว้จริงๆ มันก็คงไม่ต่างจากที่ผมคิดไว้นักหรอก ถึงได้บอกว่า ต้องรอดูกันไปว่า เหตุการณ์มันจะเป็นอย่างไรต่อไป
ก็ว่ากันซื่อๆ เป็นกำลังใจให้คนทำครับ ที่ติก็เพื่อก่อ ไม่หวังโจมตีหรือต่อว่าแต่อย่างใด ผมก็มี Fat Fest เป็นแรงบันดาลใจมาตั้งแต่จัดครั้งแรก
ผมรู้สึกมันไม่ใช่ fat fest ที่ผมรู้จัก ตั้งแต่มันย้ายไป ชาเลนเจอร์ฮอลล์ นี่แหละ
มาอ่าน comment คุณ OfCauseNot ก็พอจะยืนยันได้จริงๆ ว่ามันไม่ใช่ Fat fest
ที่ผมเคยไปมาตั้งแต่สมัยโรงงานยาสูบแล้วจริงๆ
Fat Fest 9 รู้สึกหงอยๆ นะครับ ไม่มีวงต่างประเทศดีๆ
ให้เป็นแรงบันดาลใจ เปิดหูเปิดตา หรือกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์ดีๆ
ครั้งนี้เลยรู้สึกธรรมดาไปหน่อยน่ะครับ
แต่ความสนุกที่ได้ดูวงดนตรี ที่อยากดู และหลากหลาย ไม่ได้ลดลงไปนะครับ
ถ้าคิดว่า fat fest เทศกาลดนตรีของไทย ก็ยังดู ok อยู่
เพราะ theme หลักน่าจะเป็น มาดูดนตรีกัน มาดูวงดนตรีดีๆ มาดูวงที่เราชอบ
และ fat fest 9 ก็ยังมีดนตรีให้เราเลือกดูกันตามใจเหมือนเดิม
แค่เราอาจจะรู้สึกไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆื
ผมว่าเวลาผ่านไป สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนนี่เป็นเรื่องปกตินะครับ
เปลี่ยนไปแล้วดีขึ้น หรือแย่ลง เราคงหวังกับมันไม่ได้หรอกครับ
ดีแล้วที่เรายังมี fat fest 9 ให้ดูในปีนี้นะครับ
ดูจากภาพแล้วเงียบเหงาจัง
งานอะไรอ่ะ ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน “อิอิ”
108blog นี่ขี้ฮกนิ
ชอบแฟตเฟส ปีที่จัดสวนสยามที่สุดแล้ว บรรยากาศแบบเทศการดนตรี ประทับใจ
พอปีแดนเนรมิตก็เริ่มไม่ค่อยประทับใจแหละ
หลังจากนั่นมาที่เมืองทองรู้สึกว่ามันไม่ได้อารมณ์เลย แบบว่าอยากให้จัดงานสถานที่แปลกๆ
เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ฟังแฟตแล้ว ฟังอยู่แต่หนังหน้าไมค์ หรือว่าเราแก่ขึ้นไม่อินกับอะไรแบบนี้แล้ว
ผมรู้สึกว่าแฟตจะอยู่ได้อีกไม่นาน (ไม่ได้แช่งนะ) อาจจะหมดยุคแฟตแล้ว กลายเป็นตำนานไป
small room ไม่ได้สมอลล์อีกต่อไปแล้วเนาะ