ในที่สุด หลังจากคิดว่า จะไม่ได้ไปงานนี้มาสักพัก ไปๆ มาๆ ก็ได้ไปจนได้ ได้บัตรมือสองจาก @naynarajitt มา จึงได้การ บุกตะลุยปากช่องถึง Greenery Resort กันเลยทีเดียว นี่นับเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ผมได้สัมผัสบรรยากาศเทศกาลดนตรีรับลมหนาว ที่ชื่อ Honda Winter Fest’
เดิมที ผมคิดจะไปสนุกกับเทศกาลดนตรีที่จะมีในอีก 1 สัปดาห์ถัดมาอย่าง Big Mountain Music Festival #2 แต่เพราะศิลปินกลุ่มหนึ่ง ที่เป็นแรงผลักให้ผมรู้สึกอยากไปงานนี้ ถ้าไม่ได้ไปงานนี้ ผมคงพลาดอะไรดีๆ ไปแน่ จะใครที่ไหน ก็ ‘Depapepe’ นั่นไงล่ะครับ
ตื่นเช้าที่สุดในชีวิตช่วงนี้ เพื่อไปขึ้นรถทัวร์จากหมอชิต ผจญรถติดโคตรๆ ในบางช่วง ง่วงหลับแล้วหลับอีก จนในที่สุดก็ไปถึงปากช่องจนได้ เจอกับ @samanahavemail ขับรถพาไปถึงที่จอดรถ ได้เวลาแล้วสินะ ได้ยิน Better Weather เล่นอยู่ไม่ไกล นั่งรถสองแถวไปถึงหน้างานกันเลย
มีสิ่งน่าสนใจเล็กน้อย เพราะเขาจะพาเราไปลงทะเบียน ก็กรอกชื่อ กรอกอีเมล กรอกเบอร์โทร และรถรุ่น/ยี่ห้อให้เขาไป เขาก็จะแจกถุงใบสีฟ้าๆ ให้ ข้างในบรรจุผ้าปูนั่งผืนหนึ่ง ก็ดีเหมือนกันนะ ให้ข้อมูลไปแลกกับผ้าใบปูนั่งผืนนึง
ว่าแล้วก็เดินไปดูตามบูธต่างๆ ทั้งบูธ Ukulele, บูธค่ายเพลงต่างๆ ที่นำทั้งซีดีและเสื้อยืดมาขายลดราคากันไป
ที่นี่ยังมีโซนร้านอาหารที่ใช้ระบบคูปอง(แบบไม่รับคืน)ในการซื้อ แม้ว่าราคาจะแพงกว่ามื้อปกติอยู่พอสมควร แต่รสชาติก็ถือว่าผ่านโดยส่วนใหญ่นะครับ ระหว่างนั่งดูไปก็แว้บมาซื้อของกินกันเป็นระยะๆ ช่างชิลล์ดีเหลือเกิน
ขนาดพื้นที่ถือว่าไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป และยังแบ่งบางส่วนไว้เป็นพื้นที่กางเต็นท์อีกด้วย ขณะที่พื้นที่ส่วนคนดู มีปัญหาเล็กน้อยเพราะความลาดเอียง เวทีตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงกว่าคนดู ก็นั่งเอียงๆ เมื่อยๆ กันไป ขณะที่ line up วงที่มาเล่นก็เฉลี่ยวงที่คนสนใจเยอะกับน้อยสลับกัน อากาศเย็นในช่วงเย็น กลายเป็นเย็นมากในช่วงกลางคืน หลายคนเลือกที่จะนอนราบฟังเพลงบนผืนผ้าใบของตัวเอง แต่หลายคนก็ยังนั่งฟังอย่างตั้งใจ
ไล่กันไปตั้งแต่ Better Weather / สิงโต นำโชค / สินเจริญบราเธอร์ส / Singular / Infinity feat. แนน วาทิยา & ลูกปัด ชลนรรจ์ / Koh Mr.Saxman feat. K.O.M., จิ๊บ วิชชุเดช, ฟางข้าว / โต๋ ศักดิ์สิทธิ์
…ก่อนจะได้เวลาของ Depapepe ที่รอคอย
ผมรีบเดินไปหน้าเวทีทันที เผื่อว่าจะได้เก็บภาพของ 2 หนุ่มญี่ปุ่นนักบรรเลงกีตาร์ ที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเล่นให้พวกได้ดู ต้องผจญกับผู้คนมากมายที่ยืนมุงดู เมื่อการแสดงทุกอย่างเริ่มขึ้น ผมก็พยายามจะเก็บภาพเท่าที่จะเก็บได้ ก่อนจะออกมานั่งดูที่ที่ของตัวเอง เพราะไม่ต้องการบังคนที่อยู่ข้างหน้านานเท่าไหร่นัก
ต้องบอกว่า การแสดงของพวกเขาเยี่ยมจริงๆ หลายเพลงเล่นกันเหมือนในอัลบั้มเม็ดต่อเม็ด หลายเพลงก็พยายามเล่นกับคนดู ช่วงระหว่างเพลงพยายามพูดญี่ปุ่น สลับกับภาษาไทย(ที่ต้องอ่านโพย) แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยก็สนุกสนานตามไปด้วยแม้ว่าจะไม่มีเนื้อร้องแบบที่คนไทยชอบฟังเลยก็ตาม จนมาถึงช่วงที่พวกเขาหยิบเพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” มาเล่นในแบบของตัวเอง ก็ทำได้เยี่ยม จนนึกอยากให้หยิบมาทำเป็นอัลบั้มไปเลยจริงๆ
แล้วก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเล่นร่วมกับศิลปินไทย Singular เมื่อ 4 คนจาก 2 วงมาเล่นร่วมกัน เพลง “Kitto Mata Itsuka” ที่เติมเนื้อร้องและเสียงร้องของ ซิน เข้าไป
เวลาผ่านพ้นมาเกือบเที่ยงคืน ผมเข้าใจไปว่า คิวโชว์ถูกสลับทำให้ต้องมาดู Depapepe ในเวลาดึกเช่นนี้ แต่จริงๆ กลับไม่ใช่ ด้วยช่วงเวลาที่เลทสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องรอคอยโชว์นี้กันนานเป็นพิเศษ หลังเดป้าซัง และเปเป้ซังโชว์จบ ก็ถึงเวลาของ Lula แต่พวกเราอยู่กันไม่ไหวแล้ว
เด็กน้อยที่มาด้วยก็ได้เวลานอนของเขาแล้ว พวกเราจึงเดินกลับออกมา พร้อมๆ กับเสียงเพลง “เนื้อคู่”, “ตุ๊กตาหน้ารถ” และ “แค่เพียงได้รู้” กลับมาขึ้นรถที่ลานจอด แล้วกลับสู่กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของเรา คืนนี้ แอลกอฮอล์ไม่ได้ลงกระเพาะเลยสักหยด
กลับถึงบ้าน ในค่ำคืนวันใหม่ วันที่ 5 ธ.ค. 2553 วันพ่อแห่งชาติ หลับฝันดี
แน่นอนว่า ทุกศิลปินที่ขึ้นโชว์ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี หลายโชว์สร้างความสนุกสนานหรรษา และหลายโชว์สร้างบรรยากาศที่มากกว่าแค่การฟังเพลงผ่านเครื่องเล่น แต่ Depapepe คือ โชว์ที่เราคงไม่ได้สัมผัสกันง่ายๆ มันจึงเป็นโชว์ที่พิเศษสำหรับผมมากๆ ในคืนนั้น…
ขอบคุณ: @naynarajitt ที่ช่วยหาบัตรให้, @samanahavemail ที่ร่วมชิลล์ด้วยกัน และช่วยขับรถไปส่ง