งาน ‘Cat Expo 5’ เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดกันต่อเนื่องมาถึงครั้งที่ห้าแล้วนะครับ ผมนี่ เรียกได้ว่าไปมาแทบจะทุกปี ตั้งแต่ทีมงานชุดนี้สร้าง FaT Festival ถือว่ายาวนานมากเลยทีเดียว แล้วครั้งนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่พลาด ซื้อบัตรไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ยังเป็น Early Bird บัตรราคา 800 บาทเข้าได้สองวันแถมยังได้ซีดีพิเศษ Cat Code อีก
งานครั้งนี้จัดขึ้น 2 วันเช่นเคย ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2561 ที่สวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ รามอินทรา ที่จะว่าไปก็กลายเป็นสวนสนุกร้าง ไม่มีการใช้พื้นที่ทำอะไร Cat Radio จึงใช้พื้นที่นี้จัดงานมาตลอด ซึ่งขนาดพื้นที่ถือว่าพอเหมาะกับงานดี
ติดที่อาจจะไปลำบากหน่อย พอวันงานจริงๆ รถก็ติดหนึบอย่างกับอะไรดี ถึงแม้จะประชาสัมพันธ์ไม่ให้ขับรถไปเอง มีรถรับส่งให้ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่สะดวกเท่าไหร่อยู่ดี
แต่สำหรับผมเอง งานหนนี้ ดูท่าจะแปลกไปกว่าทุกครั้ง
งานนี้ยังคงคอนเซ็ปต์สนับสนุนงานของศิลปินที่หลากหลาย ไม่ใช่แนวใดแนวหนึ่ง ตลาดก็มา อินดี้ก็มี และเมื่อเมืองไทย วงการเพลงไทย มีสีสันใหม่ๆ อย่างวงไอดอลเข้ามา งานแคทก็พร้อมจะเปิดรับเช่นกัน ไม่ต้องแปลกใจที่คราวนี้จะมีแต่วงสาวๆ เป็นส่วนใหญ่ที่ผมเลือกไปดู สังเกตกันให้ดีๆ ไม่ได้แต่วงไอดอลเท่านั้นนะที่ไปดู เอาล่ะ ผมจะเริ่มเล่าแล้วนะ
Cat Expo 5 วันแรก
ด้วยความที่มีภารกิจที่อื่นตอนบ่าย และมัวโอ้เอ้อยู่กว่าจะได้มางาน รถที่ติดยาวเหยียด ทำให้มาถึงฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้วและต้องหาที่จอดรถอย่างไกล จึงพลาดไปหลายโชว์ที่อยากดู งานนี้ ใช้วิธีเลือกดูโชว์ตามเวทีต่างๆ แล้วพักด้วยการเดินตามบูธต่างๆ ก่อนจะกลับไปดูโชว์คอนเสิร์ตต่อ ผลจึงได้มาเป็นเช่นนี้
สรุปว่าวันแรก ได้ดูไป 6 โชว์ เรียงตามลำดับไปได้ดังนี้ Jelly Rocket, Yellow Fang, The Yers, Jan Chan, Sweat16! และ แสตมป์ อภิวัชร์
วันแรกจบลงไปโดยไม่ได้ช็อปอะไรเลย แต่ได้ 2 แผ่นกลับบ้าน คือ Cat Code และ Molamola Sunshine! X Hers เจอกันใหม่พรุ่งนี้อีกวัน
Cat Expo 5 วันที่สอง
ด้วยความที่วันนี้ ไม่มีภารกิจอะไร จึงไปตั้งแต่เริ่มงาน แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี สี่โมงเย็น ลานจอดเต็มไปแล้ว ลงท้ายก็ต้องไปหาที่จอดเอาเองอยู่ดี เดินไกลแต่ใกล้กว่าเมื่อวาน เดินในงานก็พบว่า ปีนี้มีวงไอดอลป้วนเปี้ยนในงานและเปิดบูธกันหลายวงอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Somei Yoshino 51 วงไอดอลจากเชียงใหม่, Sweat16! และ 7th Sense ส่วน BNK48 ไม่ได้เปิดบูธ (เพราะถ้าเปิดคงทะลักล้นแน่ๆ) จึงได้แค่มาเล่นโชว์บทเวทีเท่านั้น
นอกจากนี้ ก็ยังมีบูธและการแสดงสดของอดีตสมาชิก BNK48 ด้วย ไม่ว่าจะเป็น แจนจัง (Jan Chan) และแคนแคน หรือ แคน นายิกา (Can Nayika) ที่คนแน่นบูธตลอดๆ เลย
งานแคทวันที่สอง ผมก็ยังวนเวียนดูแต่โชว์ของศิลปินสาวๆ นะ พลาด Earth Patravee, V Violette ไป แต่ก็ได้ชมโชว์สดๆ ของ Whale & Dolph, Ink Waruntorn , Molamola Sunshine! (ที่มีทั้ง สิงโต นำโชค, มิวสิค Sweat16! และ Hers มาร่วมร้องด้วย) และ BNK48 แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่สาวๆ หรอกนะ เพราะก็ยังมี Burin, Polycat และ The Toys ด้วยครับ
วันที่สองนี่ให้เวลาการเดินวนไปวนมาแถวบูธศิลปินค่อนข้างมาก แต่ก็เหมือนจะไม่มีทุนเท่าไหร่ เลยได้มาแค่อัลบั้ม ‘Anything Goes’ ของ Plastic Plastic เท่านั้น
สังเกตดูจากผู้คน ก็จะพบว่าปีนี้มีคนมางานแคทเยอะกว่าปีก่อนอยู่พอสมควรเลย เวทีสองนี่แทบจะเต็มตลอดเวลา ต่างจากปีแรกมากมายเลยทีเดียว
ผมชอบในความหลากหลายของศิลปินที่มางานนะ มีจากต่างประเทศมาด้วย มีทั้งวงกระแสหลักอย่าง Potato วงนอกกระแสที่ชาวแคทฟังกัน รวมไปถึงมีวงไอดอลที่เริ่มเข้ามากินพื้นที่ในวงการมากขึ้นเรื่อยๆ งานนี้ไม่ใช่งานแนวๆ อย่างที่ใครหลายคนคิด
แต่เป็นงานที่รวบรวมคนรักเสียงเพลงที่แตกต่างหลากหลายมารวมไว้ในงานๆ เดียวกันต่างหาก
จบงานขับรถกลับถึงบ้านราวตีหนึ่ง เป็นความสุขและสนุกที่เติมพลังให้ชีวิตได้เดินต่อจริงๆ ขอให้แคทจัดงานแบบนี้ไปนานๆ นะครับ แล้วผมจะไปอีก