11 Music Festival ระดับโลกที่ควรไปสัมผัส มีที่ไหนกันบ้าง?

ในวันที่โลกเริ่มจะหายใจได้คล่องคอมากขึ้นเมื่อโรคระบาดเริ่มคลี่คลาย คนจึงไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกใจมากขึ้น เทศกาลดนตรีโดนก็เริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจของประชากรโลกอีกครั้ง เราลองมารวบรวมรายชื่อ Music Festival ระดับโลก กันบ้างดีกว่า ว่าที่ไหน งานใด ที่ผู้คนรู้จักและมุ่งหวังจะเดินทางไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่แห่งเทศกาลดนตรีกันบ้าง

รายชื่อเทศกาลเหล่านี้ อาจไม่ได้อ้างอิงมาจากจำนวนผู้เข้าร่วมงาน หรือขนาดของพื้นที่อันกว้างใหญ่แต่เพียงปัจจัยเดียว แต่รวบรวมเอาเทศกาลที่คนไทยน่าจะรู้จัก บวกกับความพยายามที่จะกระจายหยิบเอางานจากหลายพื้นที่ของโลกมาไว้รวมกัน และคิดเอาไว้ว่า วันหนึ่ง มันอาจจะขยับขยายกลายเป็น 20 หรือ 30 งานเลยถ้าเป็นไปได้

เอาเป็นว่า ไปดูกันเลยครับ

---

เทศกาลดนตรี Coachella

ถ้าพูดถึงเทศกาลดนตรี ผู้คนอาจนึกถึงชื่อนี้เป็นอย่างแรก โคเชลลา ชื่อเต็มๆ ของงานนี้ก็คือ Coachella Valley Music and Arts Festival ด้วยจำนวนคนเข้าร่วมงานที่สร้างสถิติไว้สูงถึง 7.5 แสนคน ความยิ่งใหญ่ของมันนอกจากขนาดและรายได้ที่สะพัดระดับร้อยล้านเหรียญแล้ว ที่นี่ยังคัดเลือกและขนศิลปินสุดโด่งดังมาแสดงสดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Guns N’ Roses, Radiohead, Lady Gaga, Calvin Harris, Ellie Goulding, Taylor Swift หรือ Sia ต่างก็เคยมาขึ้นแสดงที่นี่กันทั้งนั้น ในเทศกาลจะแบ่งออกเป็นหลายเวที เป็นมิวสิคเฟสติวัลที่หลอมรวมทั้งดนตรีและแฟชัน จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ละครั้งก็ยาวไปเลย 2 สัปดาห์ งานนี้คือที่ที่เซเล็บคนดังมากมายที่เข้าร่วมด้วยพวกเขาต้องเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรีชื่อดังของโลกนั่นเอง

อย่างในปี 2022 นี้ก็จะมีศิลปินที่เป็นเฮดไลน์อย่าง Harry Styles, Billie Eilish, Swedish House Mafia x The Weekend และอีกมากมาย อย่าลืมติดตามเฟสติวัลในครั้งถัดไปและลองไปสัมผัสด้วยตัวเองดู ไม่แน่ว่า คุณอาจจะได้เดินเฉียดใกล้คนดังที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตนี้จะได้เจอก็เป็นได้

---

Fuji Rock Festival

อย่างที่รู้กันว่า ญี่ปุ่นเองก็เป็นตัวแทนฝั่งเอเชียในด้านการจัด Music Festival ระดับโลก หนึ่งในนั้น ย่อมต้องเป็น งานฟูจิร็อกเฟสติวัล เป็นงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ แม้สถานที่ในปัจจุบันจะเป็น นาเอบะ สกีรีสอร์ต ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนีงาตะ แต่ที่จริงแล้ว ดั้งเดิม เขาจัดกันที่ เท็นจินยามะ สกีรีสอร์ต ซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ทำให้หลายครั้งที่จัด สภาพอากาศจะไม่ค่อยเป็นใจ จนต้องเปลี่ยนไปจัดที่ใหม่ แต่ก็ยังใช้ชื่อฟูจิร็อกเหมือนเดิมที่ผู้คนรู้จักและเรียกติดปากกันไปหมดแล้ว สถานที่จัดก็แวดล้อมไปด้วยแมกไม้และขุนเขา แถมจัดในช่วงหน้าร้อน บรรยากาศถือว่ากำลังดีเลยสำหรับคนเมืองร้อนอย่างชาวเรา แถมก็บินไปไม่ไกลด้วย จัดว่าน่าไปมากๆ ที่หนึ่งเลยเชียว

‘ฟูจิร็อก’ เป็นเทศกาลที่รวมเอาศิลปินร็อกชื่อดังจากทั่วโลกมาร่วมเล่นในงานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Muse, Mumford & Sons, Foo Fighters หรือแม้กระทั่ง Red Hot Chili Peppers ต่างก็เคยมาเล่นที่นี่ทั้งนั้น คนเข้าร่วมงานแต่ละครั้งก็กว่าแสนคนต่อปี จัดว่าเป็นงานที่ชาวร็อกไม่ควรพลาดเลยทีเดียว แล้วคุณจะพลาดได้ยังไงล่ะครับ

---

เทศกาลดนตรี Summer Sonic

เมื่อเอ่ยถึงงานเทศกาลดนตรีในญี่ปุ่น อีกงานที่จะลืมนึกถึงไปไม่ได้เลยก็คือ ซัมเมอร์โซนิค คือ เทศกาลดนตรีนานาชาติแถวหน้าของญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งละ 2 วันใน 2 เมือง นั่นคือ โอซาก้า และ โตเกียว แบ่งเป็นหลายเวที มักจัดกันในเดือนสิงหาคมของทุกปี เดิมทีนั้นเป็นเทศกาลดนตรีร็อค ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 ก่อนที่ต่อมาจะขยายไปสู่แนวทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นศิลปินร็อกและอินดี้ของญี่ปุ่น หรือจะเป็นศิลปินร็อกและแนวอื่นๆ จากทั่วโลก

และก็ไม่ได้มีแค่ศิลปินญี่ปุ่นและต่างชาติ เพราะศิลปินไทยเองก็มีโอกาสได้ไปแสดงในงาน Summer Sonic มาแล้ว อย่างเช่น Yellow Fang, P.O.P, The Yers, Getsunova, ภูมิ วิภูริศ, แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และ TELEx TELEXs เมื่อปีก่อน (2022) หลังเว้นช่วงไปสองปีเพราะมีโควิด เมื่อกลับมาจัดอีกครั้งก็มีศิลปินไทยอย่าง บิวกิ้น-พีพี ไปร่วมงาน น่าสนใจว่าปีนี้จะมีศิลปินคนใดไปร่วมอีก

---

Ultra Music Festival (UMF)

ลองนึกภาพว่าคนไปงานเทศกาลดนตรีแดนซ์ที่จัดขึ้นในบรรยากาศริมทะเลของไมอามี่ดูสิ มันจะฟินขนาดไหน ถ้าไปเที่ยวทีนึงได้เดินบนหาดทรายชายหาด แล้วยังได้เต้นรำสนุกสนานไปพร้อมๆ กัน งานเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นปีละ 3 วัน ที่ Bayfront Park ไมอามี่เจ้านี้ เขาจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1997 จากจุดเริ่มต้นที่เป็นอีเว้นต์ด้านดนตรีอีเล็กทรอนิกส์ที่ขยายสู่ความเป็นเฟสติวัลในปี 1999 และเฉลิมฉลองการจัดมาครบ 20 ปีไปเมื่อ เดือนมีนาคม 2018 โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 165,000 คน หยุดจัดไปตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากสถานการณ์โควิด และกลับมาจัดต่อในปี 2022

Ultra Music Festival หรือที่หลายคนเรียกว่า UMF ได้รับการโหวตให้เป็นเฟสติวัลอันดับหนึ่งของโลกโด้ย DJ Magazine มา 3 ปีซ้อน แมสขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นอีเวนต์ที่เวียนจัดกันในหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพมหานคร (แต่ของเราแค่จัดเป็น Road to Ultra เท่านั้น) แต่ถ้าต้องการมีส่วนร่วมกับพื้นที่ดั้งเดิมก็คงต้องไปที่ไมอามี่ เห็นไลน์อัปที่ออกมาแล้ว ก็คาดหวังได้เลยว่าคออีเล็กทรอนิกส์ต้องกระหายอย่างไปร่วมแทบจะทนไม่ไหว

---

Glastonbury Music Festival

มาถึงถิ่นอังกฤษกันบ้าง จะมีใครไหมที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อ ‘แกลสตันบูรี’ เพราะมันเป็นเทศกาลดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดของเกาะอังกฤษ เขาจัดกันมาตั้งแต่ปี 1970 แล้วล่ะครับ โดยเขาจะจัดกันทุกปีที่ Worthy Farm เมือง Pilton เมือง Somerset ประเทศอังกฤษ เป็นเทศกาลศิลปะการแสดงร่วมสมัยที่มีทั้งดนตรี เวิร์กช็อป ศิลปะ การเต้นรำ ดีเจ การแสดงตลก คาบาเรต์ ละครสัตว์ โรงละคร และอื่นๆ โดยเขาจะจัดกันยาว 5 วันเต็ม แต่ละพื้นที่ยังมีลักษณะที่เฉพาะทาง ถ้าพูดถึงเฉพาะศิลปินนั้นก็จะมีทั้งป๊อปและร็อกชั้นนำจากทั่วโลกมาโชว์ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่

ด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ราว 900 เอเคอร์ หรือราว 4-5 สนามฟุตบอล มีคนเข้ามาร่วมงานที่พุ่งไปถึง 5.4 แสนคน ในบรรยากาศอุ่นๆ ของเดือนมิถุนายนซึ่งจะเป็นช่วงซัมเมอร์ของอังกฤษ และด้วยพื้นที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ ทางเทศกาลเขาก็มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับความใหญ่งานเทศกาลดนตรี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การขนส่ง น้ำ ไฟ และการรักษาความปลอดภัย เน้นนโยบายความยั่งยืนอย่างเช่นสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมงานพกขวดน้ำหรือแก้วมาเอง โดยเขาจะมีจุดเติมน้ำได้ฟรี หลายคนคงชอบที่จะไปนอนบนพื้นหญ้านุ่มๆ แต่หลายคนก็อาจจดจำภาพของการใส่รองเท้าบูทลุยโคลน จะชอบแบบไหนที่นี่ก็พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้ทุกรูปแบบเลยล่ะครับ

---

Tomorrowland Music Festival

ถ้าคุณสนใจเทศกาลดนตรีอีเล็กทรอนิกส์ล่ะก็ คงต้องไม่พลาดที่นี่ มันถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2005 จัดขึ้นมาเกือบ 20 ปีแล้ว Tomorrowland เป็นเทศกาลดนตรีสำหรับคนรัก EDM เป็นชีวิตจิตใจ และปัจจุบันมันก็กลายเป็นเทศกาลดนตรีอีเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยงานนี้จะจัดขึ้นที่เมือง Boom ประเทศเบลเยี่ยมครับ

แม้จะมีเทศกาลดนตรีแดนซ์ผุดขึ้นมากมาย แต่ที่นี่ก็ยังยืนหยัดอยู่อย่างไม่สั่นคลอน แต่ละปีจะมีคนไปร่วมงานมากมายราว 4 แสนคน ด้วยไลน์อัปดีเจที่ทุกคนรู้จักและคลั่งไคล้ อยากจะได้สัมผัสและเต้นไปพร้อมกัน ดีเจระดับโลกอย่าง Afrojack, Axwell Λ Ingrosso, Martin Garrix, David Guetta หรือว่า The Chainsmokers ต่างก็เคยมาร่วมงานนี้แล้วทั้งนั้น อาจจะหาซื้อตั๋วได้ยากหน่อยเพราะมักจะหมดเร็วเสมอ แต่ละปีก็จะเปลี่ยนธีมให้แตกต่างกันไป ดีไซน์เวทีให้บรรเจิด แสงสีเสียงอย่างอลังไม่ต้องห่วง หากคุณเป็นขาแดนซ์ คงต้องจัดสักครั้งหนึ่งในชีวิตแล้วล่ะ

---

Lollapalooza Music Festival

เทศกาลดนตรีที่มีชื่อแปลกอย่าง Lollapalooza (ลอลลาปาลูซา) งานนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียวนะครับ ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1991 จัดเป็นประจำที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลายมาเป็นเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ที่เปรียบเสมือน Pop Culture King แห่งเทศกาลดนตรี มียอดคนเข้าร่วมงาน 300,000 คน ทั้งยังเป็นเทศกาลที่ขยายไปจัดในหลายมุมโลก ไม่ว่าเป็น ประเทศเยอรมัน ชิลี สวีเดน ฝรั่งเศส บราซิล อาร์เจนติน่า และชิลี

แค่ได้ยินว่าเขาจัดกัน 9 เวที 170 กว่าศิลปิน ก็พอจะบอกได้แล้วว่างานนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เทศกาลดนตรีใดๆ ในโลก มีศิลปินแนวหน้ามากมายแวะเวียนมาแสดงสดที่นี่ และนอกเหนือจากเวทีกับศิลปินต่างๆ แล้ว ภายในงานก็ยังมีทั้งบูธถ่ายรูปเก๋ๆ พื้นที่อินเตอร์แอคทีฟ พร้อมสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ แถมยังมีมินิเฟสต์สำหรับเด็กๆ อีก ภายในงานเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มจากร้านดังในแถบ Windy City งานจัดรวมกัน 4 วันที่ Grant Park ขายบัตรทั้งแบบยาว 4 วันและแบบวันเดียว ใครซื้อบัตรเข้างานแล้วก็อย่าลืมจองโรงแรมที่พักใกล้งานกันแต่เนิ่นๆ นะทุกคน

---

เทศกาลดนตรี Øyafestivalen

อาจจะเป็นชื่อไม่ค่อยคุ้น เพราะ Øyafestivalen เป็นเทศกาลดนตรีที่จัดขึ้นในสวน มีชื่อเรียกกันสั้นๆ ว่า Øya จัดครั้งแรกในปี 1999 และจัดเรื่อยมาจนปัจจุบัน จากเดิมที่ใช้พื้นที่สวนอันเก่าแก่อย่าง The Medieval Park จัดงาน ทว่าหลังปี 2014 เป็นต้นมา เขาก็ย้ายมาจัดที่ Tøyen Park แต่ก็ยังอยู่ในกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์เช่นเดิม ถือเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย โดยจะจัดกัน 4 วันรวด

งานนี้มีศิลปินดังๆ ไปร่วมงานเช่นกัน ที่ผ่านมาจะมีศิลปินอย่าง Beck, Sonic Youth และ Arctic Monkeys เข้ามาร่วมเป็นหัวหอกในไลน์อัป อย่างปีนี้ ก็มีทั้ง Blur, Håkan Hellström และ Wizkid จึงจะเห็นว่า มันเป็นเทศกาลดนตรีที่มีศิลปินดังจากประเทศต่างๆ จากหลากหลายประเทศ ใครอยากได้บรรยากาศดนตรีในสวนกับศิลปินที่ยอดเยี่ยมแต่แตกต่าง เทศกาลนี้เน้นขายอาหารออร์แกนิก ลดการใช้พลาสติกและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายง่าย เน้นความยั่งยืนด้วยการมีพื้นที่ให้รถเอารถจักรยานมาจาอด อยู่ในเมืองจึงสามารถนิยมเดินไปงานกัน อยากไปสัมผัสกับความสุขในเทศกาลนี้ เริ่มด้วยการคลิกไปดูรายชื่อศิลปินของงานปีล่าสุดกันเลยจ้า

---

เทศกาลดนตรี Mawazine

ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากถึง 2.5 ล้านคน และระยะเวลาในการจัดงานที่ยาวถึง 8 วัน แบ่งเป็น 7 เวทีให้เลือกสนุกกับศิลปินและแนวเพลงที่ชื่นชอบ และมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือ เข้าร่วมงานได้ฟรี ไม่ต้องเสียตังค์ค่าบัตร ทั้งหมดรวมกันทำให้ Mawazine (มาวาซีน) กลายเป็นเทศกาลดนตรีที่มีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 2.5 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1-2 ของโลก คำว่า Mawazine นั้นมีความหมายว่า rhythms of the world ครับ

สำหรับศิลปินที่เคยมาร่วมงาน ก็ล้วนแล้วแต่บิ๊กเนม เอ่ยชื่อไปทุกคนต้องรู้จัก ไม่ว่าจะเป็น Shakira, Stevie Wonder, Justin Timberlake, Rihanna, Jennifer Lopez และ Akon แต่ด้วยเพราะสถานการณ์ไวรัสโควิดระบาดหนัก ทำให้มาวาซีนหยุดจัดไปนาน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา และมีข่าวว่าจะกลับมาในปี 2024 ใครสนใจอยากจะได้มีส่วนร่วมกับเทศกาลระดับโลกอย่างงานนี้ อยากซึมซับพลังแห่งคนรักเสียงเป็นนับล้านในที่แห่งเดียว ก็ตั้งตารอคอยกันได้เลย

https://www.youtube.com/watch?v=iTDUkxJ-t5w

---

เทศกาลดนตรี Sónar

มาถึงเทศกาลดนตรีสุดแปลกใหม่ในทวีปยุโรปกันบ้าง โซนาร์ (Sónar) ที่จัดกันในเมืองแห่งวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่าง บาร์เซโลนา จัดงานกันที่ Fira de Montjuïc พื้นที่เทรดแฟร์ขนาดใหญ่ระดับโลก เป็นทั้งสถานที่จัดการประชุมและศูนย์แสดงนิทรรศการอันโด่งดัง แถมไม่ห่างจากมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนอีกด้วย

เทศกาลโซนาร์เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันครับ ความแหวกแนวของเทศกาลดนตรีงานนี้ จะเน้นไปที่อีเล็กทรอนิกส์สุดล้ำ ผสมผสานกับศิลปะสื่อผสมสุดแนว งานเขาจะจัดกัน 3 วันรวด โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ Sónar by Day งานกลางวันเน้นไปที่นิทรรศการศิลปะ และ Sónar by Night งานกลางคืนที่เน้นความสนุกกับปาร์ตี้สุดเหวี่ยงไปกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

ในงาน มีไลน์อัปยอดเยี่ยมของศิลปินยอดนิยมและศิลปินที่น่าตื่นตา เช่นเดียวกับรายชื่อศิลปินที่โด่งดังรองลงมามากมาย ที่เคยมาวาดลวดลายที่นี่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Lana Del Rey, Bonobo, Massive Attack และ The Chemical Brothers ที่น่าสนใจยิ่งกว่า ในงานมีนิทรรศการศิลปะ มัลติมีเดียของศิลปินหน้าใหม่มากมาย มีการฉายภาพยนตร์ นำเสนอนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์ ดึงดูดทั้งคนที่สนใจในเสียงเพลงและงานศิลปะ ใครที่รู้ตัวว่ามีใจรักในแนวทางนี้ก็ไม่ควรพลาดที่จะได้ไปสัมผัสสักครั้งสองครั้งในช่วงชีวิตนี้

---

Primavera Sound Festival

นี่คือเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดของบาร์เซโลนา มีชื่อที่คนเรียกกันว่า Primavera ถือเป็นกิจกรรมทางด้านดนตรีที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เพราะจัดกันครั้งแรกที่ Poble Espanyol ในปี 2001 ก่อนที่จะย้ายมาจัดกันที่ Parc del Fòrum ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ด้วยสถานที่ที่กว้างขวางกว่า และกลายเป็นเทศกาลดนตรีประจำเมืองบาร์เซโลน่าและเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่สุดในยุโรป

ด้วยไลน์อัปที่หลากหลาย ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกเจนเนอเรชัน มีการขยายไปจัดในหลายเมืองรวมทั้งที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา อย่างปีนี้ก็จะมีขึ้นที่ปอร์โต้และมาดริดในเวลาไล่เลี่ยกัน ศิลปินระดับเฮดไลน์ที่เคยมาร่วมงานก็อย่างเช่น Belle and Sebastian, Arctic Monkeys, Nine Inch Nails และ Lorde สำหรับงานในปี 2023 ที่บาร์เซโลน่า ก็จะมีทั้ง Blur, Pet Shop Boys, Halsey, Depeche Mode และ Calvin Harris เลยแหละครับ

---

แต่ไม่ว่าจะวางแผนไปสนุกกับเทศกาลดนตรีระดับโลกที่ไหน วางแผนไว้แต่เนิ่นๆ เป็นการดีที่สุด ทริปนี้จะอยู่กี่วัน ระหว่างนั้นจะไปเที่ยวไหนบ้าง พักที่โรงแรมไหน เดินทางอย่างไร เพื่อจะได้ไม่พลาดในสิ่งที่มุ่งหมาย ที่เหลือ ก็ขอให้ทุกคนรื่นเริงและซึมซับบรรยากาศแห่งการรื่นเริงกันให้เต็มที่ แล้วก็อย่าลืมเก็บความสนุกสนานมาฝากเพือนๆ ด้วยก็แล้วกัน