ในที่สุด ผมก็เลือกไปดูหนังเรื่อง ‘Wrath of The Titans’ ในโรงมา จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่เถอะ 2 ชั่วโมงในโรงหนังวันนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่สร้างความบันเทิงให้กับผมพอสมควร แม้จะมึนๆ งงๆ อยู่บ้าง เพราะไม่เข้าใจความสัมพันธ์และความขัดแย้งของตัวละครเท่าที่ควรก็ตาม
หลายคนอาจจะสงสัยว่า มันเกี่ยวอะไรกับภาพยนตร์เมื่อ 2 ปีก่อนหน้าที่ชื่อ ‘Clash of the Titans’ ก็คงต้องบอกว่า มันเป็นภาคต่อมาของ Clash of the Titans นั่นเองครับ ถ้าสังเกตดูก็จะพบว่าชื่อตัวละครและชื่อนักแสดงเกือบจะเป็นชุดเดียวกันเลย แต่ผู้กำกับเป็นคนละคนกันนะ
‘Clash of the Titans’ เป็นจุดเริ่มต้นของหนังที่ยำตำนานเทพเสียจนไม่มีชิ้นดี กำกับฯ โดย Louis Leterrier ออกมาในสภาพที่เนื้อเรื่องธรรมดา ดำเนินเรื่องไม่หวือหวา แถม CG ยังพอถูไถ ผ่านไป 2 ปี กลับมาใหม่ในภาคต่อ คราวนี้กำกับฯ โดย Jonathan Liebesman เจ้าของผลงาน ‘Darkness Falls (2003)’, ‘The Texas Chainsaw Massacre: The Beginning (2006)’ และ ‘Battle Los Angeles (2011)’ มาคราวนี้ก็เห็นว่า โดนบ่นเรื่องพล็อตที่ไม่ได้ดีขึ้นอะไรมากมาย ขณะที่งานด้านภาพถือว่าดีขึ้นมาก
รีวิวหนัง ‘Wrath of The Titans’
ในภาคนี้ เป็นช่วงเวลาที่บุตรแห่ง Zeus (Liam Neeson) นาม Perseus (Sam Worthington) ผู้เป็นครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ที่อยากจะใช้ชีวิตแบบมนุษย์มนาทั่วๆ ไป กลับต้องเข้าสู่สงครามมหาเทพอีกครั้ง เมื่อผู้เป็นพ่อมาขอความช่วยเหลือในความพยายามยับยั้งการปลดปล่อยปิศาจที่ร้ายกาจนาม “ไททันโครนอส” ที่ถูกจองจำไว้ลึกลงไปใต้ปฐพี ในวันที่เหล่าทวยเทพเริ่มมีพลังอ่อนล้าเพราะผู้ไม่เลื่อมใสศรัทธาถึงขั้นไม่สวดภาวนาให้
จุดที่ตัวเอกอย่าง Perseus ต้องเจอก็คือ เขามีบุตรชายหนึ่งคนผู้ซึ่งเขาไม่คิดจะให้จับดาบ จะให้เป็นแต่ชาวประมง กับเขามีพ่อทีเดือดร้อนอุตส่าห์วิ่งโร่มาขอความช่วยเหลือ เขาจึงต้องเลือกว่าจะทำอย่างไหน ขนาดเทพ Poseidon (Danny Huston) ผู้ให้กำเนิดลูกพี่ลูกน้องอีกคนที่ไม่ค่อย “ดัง” อย่าง Agenor (Toby Kebbell) ก็ยังจะไปไม่รอด เพราะการลุกขึ้นมาก่อการของเทพแห่งสงครามอย่าง Ares (Édgar Ramírez) และ Hades (Ralph Fiennes) น้องชายของ Perseus เอง
นี่มันปัญหาครอบครัวชัดๆ เลยนี่
เรื่องที่ดูไม่น่าจะซับซ้อน ก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่กลับทำให้ผมงงงันไปได้ ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีตัวละครฝ่ายหญิงมาให้ชุ่มชื่นใจ เพราะยังมี Andromeda (Rosamund Pike) ที่เข้ามาเสริมให้เราได้ลุ้นไปกับความรักครั้งใหม่ของพระเอก
การดำเนินเรื่องถือว่า พอใช้ได้ ไม่เนือยไม่อืด ผมเคยนั่งดูหนังตัวอย่างของ ‘Wrath of The Titans’ อยู่หลายหน และพบว่าตื่นตามากเมื่อได้ชมในแบบ 3 มิติ พอวันนึงไปดูโรง 2 มิติ เจอตัวอย่างเดียวกันนั้น รู้สึกได้ทันทีว่า “มันไม่ใช่อะ” สุดท้าย ก็เลยเลือกโรงที่เป็น RealD 3D ของ Paragon Cineplex ซึ่งก็พบว่า ภาคนี้ ค่อนข้างทำงานภาพและงาน 3 มิติได้ดีทีเดียว หลายช็อตต้องบอกว่า มันเจ๋งมาก สวยงาม อลังการ ไม่เหมือนใครจริงๆ
สรุปว่า ถ้าอยากดูเรื่องนี้ ไม่ต้องสนใจเนื้อเรื่องมากนัก ไปนั่งดู CG ก็มันแล้วครับ
ชื่อภาพยนตร์: Wrath of The Titans / สงครามมหาเทพพิโรธ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jonathan Liebesman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Dan Mazeau (screenplay), David Johnson (screenplay),
นักแสดง: Sam Worthington, Liam Neeson, Rosamund Pike, Ralph Fiennes, Toby Kebbell, Édgar Ramírez
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
เรท: ไทย/ท, USA/PG-13
ความยาว: 99 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Legendary Pictures, Thunder Road Pictures, Warner Bros. Pictures
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 มีนาคม 2555