จากวันเก่าที่เคยร้องห่มร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรกับหนังรักอย่าง ‘The Letter’ เวลาผ่านไปหลายปีดีดัก วันนี้ได้มาพบกับหนังรักที่เป็นเรื่องราวของความรักของคนอีกรุ่น จากวันวานที่เรายังโต้ตอบกันทางจดหมาย แต่วันนี้ เราใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารต่อกัน หนังก็เลย พาเรามาสื่อสารในแบบทันสมัยด้วยกัน ได้เวลาบอกเล่าเรื่องราวของหนังรักชวนเสียน้ำตาอย่าง ‘Timeline จดหมาย ความทรงจำ’ กันเสียทีหนอเรา
คนเขียนบทอย่าง เกียรติ ศงสนันท์ และ อภิเชฐ กำภู ณ อยุธยา สานต่อเรื่องราวของความสัมพันธ์ผ่านจดหมายของคนรุ่นก่อนให้กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง โดยการปรับให้เข้ากับยุคด้วยความรักของวัยรุ่นแทนที่จะพูดเรื่องความรักของคนวัยทำงานอย่าง ‘The Letter’
ไม่เพียงจะเล่าไปถึงความรักระหว่างแม่กับลูก แต่ก็ยังขยายไปถึงความรักระหว่างคนวัยผู้ใหญ่ด้วยกันอีกด้วย ทำให้นี่เป็นรักที่ค่อนข้างซับซ้อนพอตัวทีเดียว
มัท (ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก) หญิงที่เลือกจะทำไร่อยู่ในชนบททางตอนเหนือของประเทศ ณ จุดที่เป็นดั่งความใฝ่ฝันของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว เฝ้าเลี้ยงดูลูกชายเพียงหนึ่งเดียวที่เกิดกับเขาจนถึงวัยอุดมศึกษา แทน (เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข) เลือกที่จะเดินในทิศทางที่แม่ไม่ได้คาดหวัง คือ การออกไปค้นพบโลกที่กว้างกว่า ทิ้งแม่ไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก่อจะได้พบกับ จูน (เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ) เพื่อนร่วมรุ่นที่นิยมชมชอบแทนแต่ไม่อาจบอกความในใจ ด้วยเพราะเห็นว่าใจของแทนเฝ้าคิดถึงแต่ผู้หญิงรุ่นพี่อีกคน
เราได้เห็นมุมมองด้านความรักที่แตกต่าง
เราได้รู้จักกับการรักใครสักคนแล้วเลือกจะเก็บความฝันของคนที่เรารักนั้นมาทำให้มันเป็นฝันของเรา เราได้รู้จักกับความรักที่ไม่ต้องการได้ครอบครองแต่กลับผลักดันคนๆ นั้นตลอดเวลา เราได้รู้จักกับความรักที่มีให้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจก็ตาม และเราได้เห็นความรักที่เกิดและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแต่กลับสิ้นสุดลงอย่างง่ายดาย
ดูเหมือนว่า การสื่อสารกันของคนสมัยใหม่จะสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาได้อย่างฉับไว แต่การยืนระยะของมันนั้นก็หลากหลายพอสมควร
บทบาทที่น่าจะโดดเด่นที่สุดคงไม่พ้น เต้ย ที่เป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่ทำให้เราได้ทั้ง ยิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ในเรื่องเดียวกัน ขณะที่ป๊อกก็ส่งอารมณ์ได้โดดเด่นไม่ว่าจะกับตัวละครใด ส่วน ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ผู้ที่มีความรักให้กับมัทเสมอมาไม่ว่าจะได้รักตอบหรือไม่ ก็แสดงได้ดีแม้บทจะไม่ส่งเสริมนักก็ตาม ขณะที่เจมส์จิยังแสดงได้ล้นไปบ้างในบางฉาก แต่ก็ทำได้ดีในบางฉากเช่นกัน
‘Timeline จดหมาย ความทรงจำ’ ทำผมสับสนอยู่บ้างในการเล่าเรื่องส่วนของ แทน ลูกที่อยากจะออกนอกบ้านเพื่อหลุดพ้นจากใต้ร่มเงาของพ่อ เพราะวัยเด็กของเขาไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่พอโตกลับแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่แง่มุมของความเป็นคนโลเลอย่างผู้ยังไม่ค้นพบตัวเองนั้น พอจะเห็นได้ชัดเจนกว่า
หนังยังเลือกที่จะหยิบส่วนเล็กส่วนน้อยของชีวิตประจำวันของคนมาบอกเล่าผ่านคนสองรุ่นไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังเลือกที่จะเก็บสิ่งเหล่านั้นกลับมาเล่าอีกครั้ง เราจึงอาจเห็นเหตุการณ์ที่มักเกิดขึ้นสองหนในหนัง แต่อาจจะต่างที่เกิดกับบุคคลคู่ไหนและอยู่ในสภาวการณ์ใด นานแล้ว ที่เราไม่ได้เห็นหนังไทยทำให้เราได้รู้สึกแบบนี้…
แต่กระนั้น ก็ยังดูเหมือนหนังจะมุ่งเน้นหลายปมมากเกินจนไม่รู้ว่าอะไรเด่นอะไรรอง และยังมีหลุดเล็กหลุดน้อยในบางซีน การใช้เพลงประกอบก็ยังดูขัดๆ ขณะที่การสร้างบทเพื่อสนับสนุนโฆษณาแฝงบางส่วนก็ยังดูประเจิดประเจ้อไปบ้าง แต่หลายๆ อย่างที่ดูเป็นจุดบกพร่องนี้ก็ยังพอจะทำให้มองข้ามไปบ้าง เมื่อดูถึงความตั้งใจจะเล่าเรื่องที่แง่มุมดีๆ กระจายอยู่เต็มเรื่อง โลเกชั่นหลากแบบทั้งภูเขาและทะเล ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ มุมกล้องและภาพที่สวยงาม (แม้จะมีบางช็อตที่หลุดโฟกัสไปบ้าง) และลีลาการแสดงที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ จัดหนักในช่วงท้าย ชนิดที่ใครเป็นคนอ่อนไหวคงต่อมน้ำตาแตกยาวต่อเนื่องเป็นแน่
ผกก. นนทรีย์ นิมิบุตร พยายามจะเชื่อมโยง “จดหมาย” รูปแบบของการสื่อสารที่เชื่องช้าของคนในสมัยก่อน กับ “Timeline” รูปแบบของการสื่อสารที่แสนรวดเร็วในยุคสมัยนี้ พร้อมๆ กับบอกเราว่า ไม่ว่าคนเราจะเกิดมาในยุคสมัยใด
“ความทรงจำ” จะเป็นสิ่งที่จะอยู่คู่ไปกับชีวิตพวกเขาเสมอ
ชื่อภาพยนตร์: Timeline / ไทม์ไลน์ จดหมาย ความทรงจำ
ผู้กำกับภาพยนตร์: นนทรีย์ นิมิบุตร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: เกียรติ ศงสนันท์, อภิเชฐ กำภู ณ อยุธยา
นักแสดงนำ: เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข, ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก, เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม
แนว/ประเภท: Drama, Romance, Comedy
ความยาว: นาที
เรท: ไทย/ , USA/
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 13 กุมภาพันธ์ 2557
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Cinemasia (ซีเนมาเซีย), สหมงคงฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
1 คอมเมนต์