ผมรู้สึกว่า ช่วงนี้ ผมมักจะเลือกเช่าดีวีดีได้เก่งพอตัว อาจจะดูไม่ได้เก่งอะไรสำหรับคนอื่น แต่นี่คือความรู้สึกที่ผมมีต่อตัวเอง ช่วงนี้ เช่าเรื่องไหนก็โดนเรื่องนั้น บางทีก็สวนทางกับการเลือกดูหนังในโรงซะงั้น ทั้งที่ ผมมักจะเลือกได้ดีพอประมาณเลยนะนั่น 3 เรื่อง 3 รส มันอย่าบอกใคร (แต่ก็บอกไปแล้ว)
The Butterfly Effect เรื่องนี้ได้ยินชื่อพร้อมเสียงเล่าลือมานาน มาได้ประจักษ์แก่ตาตัวเองก็วันนี้แหละ แต่ตัวหนังเล่าเรื่องได้สนุก และเดาทางได้ยากยิ่ง Shooter หนังแอ็คชั่นมันๆ ที่ไม่มานั่งเล่นกับซีนอารมณ์เหมือนบางเรื่อง เมื่อเป็นหนังมันก็ต้องให้มันสมชื่อ หนังถ่ายได้สวยในหลายฉาก ถ้าเป็นในโรงคงกระหึ่มเอามากๆ มิเสียแรงที่โฆษณาว่าใช้กระสุนเปลืองที่สุดในฮอลลีหวูด The Prestige เหมือนไปอยู่หลังเขาที่ไหนมา เพิ่งจะได้มาดูหนังเรื่องนี้ มายากลในยุควิคตอเรีย เรื่องราวความอาฆาตและชิงไหวชิงพริบที่สุดจะคาดเดาได้อีกเช่นกัน ต้องยกนิ้วให้จริงๆ
ว่ากันไปละเรื่องเลยแล้วกันครับ…
เริ่มต้นกันที่
The Butterfly Effect ชื่อไทยว่า “เปลี่ยนตาย…ไม่ให้ตาย”
บางคนว่า “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” บางคนว่า “ผีเสื้อขยับปีกทำให้เกิดพายุ” เอาเถอะ ดูเหมือนจะเวอร์ไปหน่อย แต่ไอเดียตรงนี้ถูกนำมาสานต่อเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วละ อีแวน ทรีบอร์น ผู้ค้นพบการย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต ช่วงวัยเด็กของเขาไม่ค่อยโสภานัก มีเพื่อนไม่ค่อยดีที่ชวนกันพาไปทำเรื่องร้ายแรงเข้า ถูกเพื่อนเหม็นขี้หน้าที่ไปคบกับน้องสาว ความหวังดีกลายเป็นความยุ่งยากย้อนกลับมาหาตัวเอง
เมื่อเขาย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง เพื่อช่วยเพื่อน เพื่อช่วยตัวเองให้สมหวังในความรัก หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันกลับเกิดเอฟเฟ็คต์ต่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาเปลี่ยนอดีต แต่ปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนไปด้วย ยิ่งแก้ ทุกอย่างก็ยิ่งเปลี่ยน แต่ร่างกายของเขาจะทนรับได้กับความทรงจำใหม่ๆ ที่พุ่งเข้ามาใส่ในหัวเขาไปได้สักแค่ไหน เขาจะเป็นอย่างพ่อหรือเปล่าที่กลายเป็นคนบ้าไปแล้ว…
ผมว่า สนุกดีครับ หนังมีอะไรให้ลุ้นตลอด พอกลับไปแก้เรื่องนั้น เหตุการณ์ก็ผันเปลี่ยนเป็นเรื่องโน้น บางช่วงก็ทำเป็นจะหักมุมชวนคนดูหลงไปอีกทาง สนุกดี ดูกลางๆ เรื่องนี่เดาตอนจบไม่ได้ ถึงเดาได้ก็คงไม่ตรง
ใครที่แสวงหา พล็อตเรื่องสนุกๆ เรื่องนี้ ผมขอแนะนำ
Credit
Director: Eric Bress, J. Mackye Gruber
Cast: Ashton Kutcher, Melora Walters, Amy Smart
Shooter กับชื่อไทย “คนระห่ำ ปืนเดือด”
แอ็คชั่นกระหึ่มโลกด้วยพล็อตมันๆ แบบนี้สิน่าดู Mark Wahlberg กับบท บ็อบ ลี สแว็กเกอร์ นักแม่นปืนที่ถูกส่งไปประจำการในประเทศหนึ่งกับคู่หูรู้ใจ แต่กลับถูกทรยศหักหลัง พวกเขาถูกทิ้งไว้ที่นั่น คู่หูตายไปต่อหน้าต่อตา เขาจึงใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวกับสุนัขของเขา ตัดขาดจากผู้คน
แต่จู่ๆ ก็มีผู้พันเกษียณแล้ว มาติดต่อขอให้เขากลับไปรับใช้ชาติ เพราะมีคนหมายปองชีวิตของประธานาธิบดี เมื่อจี้ถูกจุด เขารับงาน แต่กลับกลายเป็นว่า เขากลับถูกใส่ข้อหาร้ายแรงนี้เสียเอง และเหตุการณ์เกินคาดก็ทำให้เขาต้องทำทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้ร้าย …
แต่สแว็กเกอร์ ก็ยังโชคดี เมื่อเขาค้นพบผู้ที่ช่วยเหลือเขา อย่างม่ายสาวผู้เคยเป็นเมียคู่หูของเขา กับ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอหน้าใหม่ที่สงสัยว่าเขาจะบริสุทธิ์ เหตุการณ์ช่วงหลัง เรียกได้ว่าเป็นการเอาคืนที่สาสมและสะใจผู้ชมยิ่งนัก
มันใช้ได้เลยล่ะครับ
Credit
Director: Antoine Fuqua
Cast: Mark Wahlberg, Michael Peña, Kate Mara
The Prestige ชื่อไทย “ศึกมายากลหยุดโลก”
“คุณดูดีๆ หรือยัง” คงเป็นคำถามที่ได้ยินกันตลอดเรื่อง กับพล็อตที่ไม่เหมือนใคร หยิบเอาเรื่องราวของนักมายากล 2 คน ผู้เคยมีเส้นทางที่เดินด้วยกัน แต่วันนึง พวกเขากลับต้องอยู่คนละขั้ว และฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ด้วยมายากลอันเป็นวิชาชีพของพวกเขาเอง
การเชือดเฉือนกันระหว่าง โรเบิร์ต แองกิเออร์ (ฮิวจ์ แจ็กแมน) และ อัลเฟร็ด บอร์เดน (คริสเตียน เบล) เริ่มต้นขึ้นจากวันที่บอร์เดนก่อเหตุในวันแองกิเออร์แสดงมายากล เขามัดเชือกนักแสดงสาวที่เป็นคนรักของแองกิเออร์ด้วยเงื่อนที่ต่างออกไป จนทำให้เธอเสียชีวิตในถังน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ในการแสดง นับแต่วันนั้น มิตรภาพความเป็นเพื่อนที่เคยมีก็แปรเปลี่ยนเป็นความเคียดแค้น ต่างฝ่ายต่างทุมเทกำลังในการเป็นยอดนักมายากล ขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะทำลายอาชีพของอีกฝ่าย รวมทั้งทำลายชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย
การเชือดเฉือนเป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง สนุก เดาไม่ได้ แต่ก็หวั่นๆ ในใจ ว่า “นี่เล่นขนาดนี้เลยหรือ?” เขียนบทและดำเนินเรื่องได้ดีมากๆ หลอกคนดูอย่างเราเสียอยู่หมัด นี่คงเป็นครั้งแรกได้ดูหนังเกี่ยวกับมายากล แถมรวมแนวอื่นๆ เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นหนังพีเรียด หนังดราม่า หนังไซไฟ และหนังระทึกขวัญ เอาหมด
โปสเตอร์เวอร์ชั่นญี่ปุ่นสวยดีนะ?
Credit
Director: Christopher Nolan
Cast: Hugh Jackman, Christian Bale, Michael Caine, Scarlett Johansson
——————————-
อยากดูเรื่องไหนกันบ้างครับ?
อยากดูเรื่อง 1 กับ 3 ค่ะ
butterfly effect นี่สนใจตั้งแต่อ่านการ์ตูนเรื่อง http://en.wikipedia.org/wiki/XxxHolic นี่แหละ
The Prestige นี่ก็อยากดูมานานแล้ว
หนังแอคชั่นนี่ไม่ใช่แนวค่ะ ไปดูหนังเรื่องอื่นแล้วมีฉากแอคชั่น จะหลับๆทุกที ท่ามกลางเสียงปึงปังนั่นแหละ :P
Nice
เมื่อวานดูเรื่อง Being John Malkovich
เพิ่งเคยดูเป็นครั้งแรกครับ เจ๋งดีนะ ทั้งตลกและหดหู่ แนวหลุด ๆ
ผมไม่เคยดู The Butterfly Effect นะ แต่ชอบ Vanilla Sky อะ
ถ้าแนว ๆ นี้อีกเรื่องก็ Eternal Sunshine of The Spotless Mind อารมณ์คล้าย ๆ กัน
ไว้เดี๋ยวไปหา The Butterfly Effect มาดู
Being John Malkovich ยังไม่ได้ดูเลยครับ ว่างๆ จะลองหามาดู ส่วน Eternal Sunshine ได้ดูแล้ว หนังทำได้ดีอีกเรื่องเลยครับ
Butterfly effect นี้ดูภาคแรกแล้ว โดนสุดๆ ว่าจะหาภาถสองมาดูอีกต่อครับ ไม่รู้จะสนุกเท่าเก่าหรือเปล่า
The Prestige นี่สุดตีนจริงๆ ดูเรื่องนี้แล้วบทสรุป
สามารถตอบทุกคำพูดที่ตัวละครกล่าวมาไว้ตลอดได้จริงๆ
ให้คะแนนเต็มกับบทภาพยนตร์
สามเรื่องนี้ ไม่เคยดู shooter เรื่องเดียวค่ะ
ผีเสื้อนั้น ดูในโรงแล้วก็ชอบๆ เลยล่ะ เป็นหนังที่ไม่นึกว่าจะสนุกและน่าสนใจได้อย่างที่ได้จริงๆจากการดู
ส่วน มายากล นี่มันสุดยอดของสุดยอดจริงๆ ดูจบแล้วแต่อารมณ์และความคิดยังไม่จบ ฉากท้ายก็ยังตามมาหลอกหลอนได้อยู่ เยี่ยมมากค่ะ เรื่องนี้ดูใน dvd เหมือนคุณแพทค่ะ
กำลังจะหา ๑ – ๓ มาดูอยู่เลย ส่วน ๒ ดูแล้วมันดี ยิ่งกันสนั่น
กำลังจะหา ๑ – ๓ มาดูอยู่เลย ส่วน ๒ ดูแล้วมันดี ยิ่งกันสนั่น