รีวิวหนัง The Butler เกียรติยศพ่อบ้านบันลือโลก | ปรากฏการณ์ ประวัติศาสตร์ ประธานาธิบดี

ห่างหายจากการเข้าโรงหนังแล้วหยิบหนังรอบพิเศษๆ มาเล่าสู่กันฟันไปหลายวันทีเดียว สัปดาห์นี้เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้าโรงหนังก็วันนี้ กับหนังที่เรียกได้ว่า เห็นชื่อ ได้ยินกิตติศัพท์ ก็เกิดความอยากดูอยากชมขึ้นมา หนังที่มีโอกาสในการเข้าชิงและมีสิทธิได้สักรางวัลบนเวทีออสการ์ เรื่องราวของพ่อบ้านผิวดำในทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ชื่อของหนังแบบเต็มๆ คือ ‘Lee Daniels’ The Butler’ หรือในชื่อไทย ‘เกียรติยศพ่อบ้านบันลือโลก’

มันเป็นหนังดัดแปลงจากบทความของวอชิงตัน โพสต์ ที่ชื่อ ‘A Butler Well Served By This Election’ เรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลจากเรื่องจริงที่บอกเล่ากับเราในหลายๆ อย่างโดยเฉพาะเรื่องของการต่อสู้ด้านสิทธิพลเมือง

ย้อนกลับไปยังดินแดนอเมริกายุคที่คนผิวดำยังได้รับการเหยียดหยามจากคนผิวขาว พวกเขาเป็นได้เพียงแค่คนงานในไร่ฝ้าย และที่นั่นคือจุดเริ่มต้นของพ่อบ้านทำเนียบขาวผิวดำคนนี้ เซซีล เกนส์ (Forest Whitaker) ในวัยเด็กเขาต้องสูญเสียพ่อไปอย่างน่าเศร้าเพราะพ่อถูกคนขาวเจ้านายยิงตายโดยไม่ต้องรับความผิดใดๆ เขากลายเป็นคนรับใช้ในบ้านที่นายหญิงชรารักและเอ็นดูเป็นพิเศษ ก่อนที่ต้องตัดสินใจจากมาก่อนจะโดนยิงตาย

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเขาได้ย้ายก้นจากแดนใต้ที่คุกรุ่นมาอยู่ในเขตที่น่าจะสงบที่สุด “ทำเนียบขาว”

ในยุคสมัยนั้น การเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมระหว่างคนต่างสีกันนั้นค่อนข้างรุนแรงกว่าที่เราเห็นในสมัยนี้เยอะแยะ หนังแตะเรื่องนี้อยู่พอสมควร แต่เลือกที่จะเล่าประเด็นในบ้านของพ่อบ้านคนนี้เสียมากกว่า เราเลยได้เห็นความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันไปมาระหว่างบุคคลในครอบครัว ไม่ว่าจะตัวแม่ กลอเรีย เกนส์ (Oprah Winfrey) ที่เสียศูนย์ไปพักใหญ่เพราะลูกชายคนโตอย่าง ลูอิส (David Oyelowo) หายหน้าไปร่วมขบวนการเรียกร้องสิทธิซึ่งเป็นสิ่งที่เซซิลไม่เคยเห็นด้วยเลย ขณะที่ลูกชายอีกคน ชาร์ลี (Isaac White) เขาก็เลือกจะทำอีกทางกับพี่ชาย หรือจะเป็นลุงของเด็กๆ อย่างฮาว์เวิร์ด (Terrence Howard) ที่มาเป็นตัวป่วนในบ้านหลังนี้อยู่บ่อยๆ

แต่ละคนนั้นมีจุดมุ่งหมายเหมือนๆ กัน แต่เลือกที่จะทำแตกต่างกันออกไป

รีวิวหนัง ‘The Butler’

หนังเลือกที่จะเล่าเหตุการณ์ชีวิตตั้งแต่เด็กไปยันแก่ชราของพ่อบ้านผิวดำคนหนึ่งที่กลายเป็นคนในประวัติศาสตร์ของแดนลุงแซมไปเรียบร้อย พ่อบ้านคนหนึ่งจะต้องอยู่ทำงานในทำเนียบขาวไปจนแก่เฒ่า มีเพียงประธานาธิบดีเท่านั้นที่จะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ แต่ต่างคนก็ต่างสไตล์ เราจึงได้เห็นหน้าค่าตาของผู้ประเทศนี้หลายต่อหลายคน แต่ไม่ได้เห็นพวกเขานานนักนั่นเอง

แต่แต่ละคนที่มารับบทบาทประธานาธิบดีสหรัฐ ต่างก็เป็นคนที่คุณๆ รู้จักกันทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะ John Cusack, Alan Rickman, Robin Williams, James Marsden ทายกันเอาเองว่าเขาจะเล่นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนไหน

ดูผู้กำกับฯ แกพยายามจะเล่าประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนผิวสีมากพอสมควร แต่ถ้าดูดีๆ ก็ไม่ได้เล่าอย่างลึกมากนัก ก็อย่างที่บอก ศูนย์กลางของเรื่องมันคือบ้านของตระกูลเกนส์นั่นเอง เวลาที่เหลือเขาก็ไปเล่าเหตุการณ์ในทำเนียบขาว เหตุการณ์ที่ดูลักลั่นย้อนแย้ง เมื่อคนผิวดำที่รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่ำเพราะสังคมและกฏหมายเลือกเข้าข้างคนผิวขาว แต่พวกเขากลับเลือกจะทำงานรับใช้คนผิวขาวอยู่ในทำเนียบ

หารู้ไม่ว่า การเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างก็เกิดขึ้นจากคนผิวดำที่ยืนรับใช้คนขาวพวกนี้อย่างคาดไม่ถึง

แน่นอน หนัง ‘เกียรติยศพ่อบ้านบันลือโลก’ สร้างจากเรื่องจริง ส่วนจะใส่ไข่ใส่สีตรงไหนนั้น ผมก็ไม่อาจจะรู้ได้ หากแต่หนังก็ดำเนินเรื่องไปอย่างเรื่อยๆ ไม่มีจุดไหนให้ตื่นเต้นมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้หาวแล้วหาวอีก หนังตัดสลับกันไปมาระหว่างเรื่องราวในครอบครัวเกนส์ที่ต่างคนต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มาในสิทธิที่เท่าเทียมสำหรับคนผิวดำ(ด้วยวิธีที่แตกต่างแต่เกื้อหนุนกันและกัน) กับบทบาทหน้าที่ที่เขาทำได้ดีในฐานะพ่อบ้านแห่งทำเนียบขาว ประธานาธิบดีแต่ละคนแสดงบทบาทได้ดีแม้จะมากันคนละนิดคนละหน่อย การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Forest Whitaker และ Oprah Winfrey ตรึงให้เราอยู่กับหนังไปจนจบ อาจมีหลายเรื่องให้ต้องเล่าเยอะไปหน่อย แต่หนังก็ขยี้ในส่วนดราม่าเรียกน้ำตาได้ไม่น้อย ต้องเช็ดน้ำตากันป้อยๆ ในโรง

ถึงหนังจะทำได้ดีพอใช้ในการเล่าเรื่อง แต่ก็สามารถสะกดคนให้คล้อยตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ชื่อภาพยนตร์: Lee Daniels’ The Butler / เกียรติยศพ่อบ้านบันลือโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Lee Daniels
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Danny Strong, Wil Haygood (article)
นักแสดงนำ: Forest Whitaker, Oprah Winfrey, John Cusack, Terrence Howard, Alan Rickman, Robin Williams, James Marsden, David Oyelowo
แนว/ประเภท: Biography, Drama
เรท: ไทย/น13+ , USA/PG-13
ความยาว: 132 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Follow Through Productions, Salamander Pictures, Laura Ziskin Productions
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 10 ตุลาคม 2556