หนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Amazing Spider-Man มีภาคต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เข้าฉายในหลายประเทศก่อนบ้านเราอยู่หลายวัน แต่ในที่สุดก็เข้ามาฉายในประเทศไทยจนได้ ‘The Amazing Spider-Man 2’ นั้นมีชื่อเรียกแบบเต็มๆ ที่จะใช้กันในบางประเทศว่า ‘The Amazing Spider-Man 2: Rise of Electro’ มีชื่อภาษาไทยว่า ‘ผงาดจอมอสุรกายสายฟ้า’ แต่แน่นอนว่า ใครก็เรียกมันแค่ ‘สไปเดอร์แมน ภาคสอง’
หนังเริ่มที่จัดฉายรอบพิเศษกันไปตั้งวันจันทร์ที่ 28 เมษายน ก่อนจะเริ่มฉายกันตั้งแต่รอบเย็นๆ ของวันพุธที่ 30 เมษายน และเข้าฉายจริงในวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป
ภาคนี้ยังคงเป็น Sony ที่ผลิตตามเคย และยังคงกำกับโดย Marc Webb ตามเดิม ด้วยเรื่องราวที่ต่อเนื่องมาจากภาคแรก หนังเล่าเรื่องย้อนกลับไปในวันเก่าๆ อยู่บ้างเพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องในภายหลัง
การหายตัวไปของพ่อและแม่ของริชาร์ด ปาร์กเกอร์ (Andrew Garfield) ยังคงเป็นสิ่งที่คาใจในความรู้สึกของพ่อหนุ่มมนุษย์แมงมุมอยู่เรื่อยมา โดยที่ไม่มีใครเคยให้คำตอบได้น่าเชื่อถือ เหลือเพียงแต่เหตุผลที่ทำให้พ่อแม่ของเขาเป็นตัวร้าย…ก็เท่านั้น
เหตุการณ์ปัจจุบัน เขายังคงเป็นเพื่อนของเกว็น สเตซี่ (Emma Stone) ที่พยายามอย่างยิ่งที่จะอยู่ห่างจากเธอให้มากที่สุด ด้วยเหตุผลที่คอยหลอกหลอนเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ขณะที่ภารกิจช่วยเหลือผู้คนในเมืองก็ยังดำเนินต่อไปไม่เว้นว่าง แถมดูเหมือนภารกิจเหล่านี้ ตำรวจเองก็เห็นดีเห็นงามอยู่ไม่น้อย ไม่เหมือนตำรวจในหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นสักเท่าไหร่
แต่ก็ไม่วาย เกิดวายร้ายที่ร้ายกาจทัดเทียมกับเขาขึ้นมาจนได้
แม็กซ์ ดิลลอน (Jamie Foxx) พนักงานออสคอร์ปที่คลั่งไคล้เขาอย่างมากมาย แต่เมื่อวันเกิดเหตุร้ายทำให้เขากลายเป็น อิเล็กโตร และกลับกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของพ่อหนุ่มนักไต่ตึกไปเสียได้ ไม่พอ แฮร์รี่ ออสบอร์น (Dane DeHaan) ที่เป็นเพื่อนกันมา ก็เริ่มจะมีจิตคิดไม่ซื่อ (ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าวันหนึ่งเขาจะร้ายกาจ) ทั้งสองคนนี้ กลายเป็นศัตรูของสไปดี้ไปอย่างรวดเร็วเกินไปนิดนึง
รีวิวหนัง ‘The Amazing Spider-Man 2’
นับว่าผู้กำกับเขาคิดถูกนะที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ด้วยฟิล์ม ทำให้ภาพออกมาดูสวยสด เมื่อผสานเข้ากับซีจีที่ทำออกมาอย่างเนียน ด้วยมุมกล้องที่เหมาะสมมากกับการรับชมในแบบ 3 มิติ ทำให้คนดูเหมือนได้ลอยขึ้นลงและโยนตัวไปตามตึกต่างๆ
สไปเดอร์แมนในภาคนี้ก็ยังคงสไตล์กวนๆ ขี้เล่นที่เข้ากับแอนดริว การ์ฟิลด์ เป็นอย่างดี ขณะที่ตาสวยๆ ยิ้มหวานๆ ของ เอมม่า สโตน ยังคงเป็นเสน่ห์ที่หลงใหลได้ไม่แพ้ภาคก่อน สิ่งที่โดดเด่นของภาคนี้นอกเหนือไปจากงานภาพแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องของดนตรีประกอบที่ทำได้ดีพอควร หลายๆ ฉาก ดนตรีประกอบออกมาเพราะมากๆ ขณะที่ฉากต่อสู้นั้นก็ใช้สไต์ Dubstep มาผสานกับงานภาพ กลายเป็นลูกเล่นกวนๆ ที่น่าประทับใจในระดับหนึ่ง
ทีนี้ มาว่ากันถึงด้านเรื่องราวและตัวละครกันบ้าง ถ้าจะว่าไปแล้ว หลายคนคงเห็นพ้องต้องกันว่า ภาคนี้ของ The Amazing Spider-Man ค่อนข้างมีตัวละครเยอะเกินไปหน่อย ขณะที่การผูกปมก็ยังดูหลวมๆ เหมือนไม่เน้นมากนัก อาจต้องการเพียงให้เรื่องดำเนินไปยังจุดที่ต้องการก็เป็นได้ จุดเปลี่ยนของตัวละครบางตัวนั้นฉับไวเกินจนรู้สึกว่านี่ยังเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่สไตล์เด็กๆ อยู่ ตัวละครที่เป็นวายร้ายดูยังไม่มีน้ำหนักและความลึกมากพอจะทำให้คนดูเข้าถึงหัวจิตหัวใจของพวกเขาได้มากพอ
แต่ถ้าดูแบบเอาสนุก เรื่องนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ปล่อยผ่านไป สบายๆ
แต่ที่ผมว่า เขาทำได้ค่อนข้างดีก็คือ โหมดดราม่าและโรแมนติก ชีวิตเบื้องหลังของครอบครัวปาร์กเกอร์ที่ถูกเก็บงำมาเนิ่นนาน ดูสมเหตุผลน้อยไปนิดที่มันถูกปล่อยให้ยืดเยื้อมาจนป่านนี้ การ์ฟิลด์ทำได้ค่อนข้างดีแม้จะยังไม่มากนัก แต่บทบาทด้านโรแมนติกของหนังกลับโดดเด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเคมีของตัวละครสองตัว ปีเตอร์และเกว็นจะเข้ากันได้ดี ทำให้เราได้รู้สึกถึงความรักที่ทั้งสองคนมีให้กันอย่างเชื่อสนิทใจ (ส่วนหนึ่งอาจเพราะทั้งการ์ฟิลด์และสโตนเป็นแฟนกันจริงๆ) และตัวบทก็ยังวางไว้ให้สร้างอารมณ์ซึ้งๆ ได้อย่างดีอีกด้วย
โดยรวม หนังมีข้อที่อาจไม่สมบูรณ์นักในแง่ของหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูสนุก แต่หนังก็ไม่ได้เลวร้ายมากขนาดจะทำให้ความสนุกหดหายไปหมด งานภาพ งาน 3 มิติ งานดนตรีประกอบ และแง่มุมดราม่าโรแมนติกของสองตัวเอก มีดีพอจะทำให้ยังเป็นหนังที่น่าดูอยู่
มีน้ำตาซึมๆ ในเวลาดูหนังสไปเดอร์แมนก็โอเคนะ
ชื่อภาพยนตร์: The Amazing Spider-Man 2: Rise of Electro / ผงาดจอมอสุรกายสายฟ้า
ผู้กำกับภาพยนตร์: Marc Webb
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Alex Kurtzman (screenplay), Roberto Orci (screenplay), Jeff Pinkner (screenplay)
นักแสดงนำ: Andrew Garfield, Emma Stone, Jamie Foxx, Dane DeHaan
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
ความยาว: 142 นาที
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 1 พฤษภาคม 2557
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Marvel Enterprises, Avi Arad Productions, Columbia Pictures