ปกติ หนังเข้าใหม่ก็มักจะไม่วันพุธก็พฤหัสบดี แต่หนังเรื่องแปลกหน่อยที่เข้าโรงวันศุกร์ หนังซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจของคนทั้งโลกที่มีคนจับตาและรอคอยมาตลอดช่วงแห่งการโปรโมต ค่ายหนังทะยอยปล่อยคลิปและตัวอย่างหนังออกมาเรื่อยๆ เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ต่อภาพยนตร์ภาคใหม่ที่กลับไปเริ่มต้นเล่าใหม่อีกครั้งโดยสตูดิโอค่ายหนังเจ้าเดิม
มันคงเป็นภาพยนตร์เรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจาก ‘The Amazing Spider-Man’ ที่ผมเพิ่งไปชมมาแบบสดๆ หมาดๆ เมื่อ 2-3 ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง
การกลับไปที่จุดเริ่มอีกครั้ง ที่คราวนี้ Marc Webb ผู้กำกับที่โด่งดังจากหนังรอมคอมอย่าง ‘(500) Days of Summer’ (2009) เข้ามารับหน้าที่กำกับหนังซูเปอร์ฮีโร่เป็นครั้งแรก แสดงว่าทางโซนี่ เจ้าของโปรเจ็กต์นี้ก็คงเห็นอะไรในตัวผู้กำกับคนนี้ไม่น้อยจึงเลือกเขามาทำ
รีวิวหนัง ‘The Amazing Spider-Man’
ข้อมูลเล่าว่า ‘ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน’ ของมาร์ก เวบบ์ หยิบมาจากจักรวาลใหม่ๆ ของ Spider-Man ที่เล่าเรื่องราวของสไปเดอร์แมนในโลกปัจจุบัน ผสมผสานเข้ากับส่วนประกอบจากหนังสือการ์ตูนสไปเดอร์หลายๆ เล่ม เล่าย้อนไปมากกว่าที่หนังฉบับใดๆ เคยหยิบมาเล่า เขาย้อนไปถึงวัยเด็กของ Peter Parker (Andrew Garfield) สมัยที่เขายังมีพ่อ – Richard Parker และแม่ -Mary Parker ให้เราได้รู้จักกับเขาตั้งแต่เป็นนักเรียนไฮสกูล ได้พบรักกับสาวคนแรก Gwen Stacy (Emma Stone) และเหตุการณ์พลิกผันให้เขากลายมาเป็นไอ้หนุ่มสวมชุดและหน้ากาก ห้อยโหนโจนทะยานอย่างที่เราๆ คุ้นเคยกันนั้น
สิ่งที่สัมผัสได้อย่างแรกเลย คือ หนังดำเนินเรื่องอย่างสมดุล ทุกอย่างค่อยๆ เป็นไปตามวันเวลาและประสบการณ์ ทำให้เชื่อว่ามันดูจริงมาก ประกอบกับบทที่พยายามจะสอดประสานปมต่างๆ ระหว่างตัวละครทั้งตัวดีตัวร้ายตัวประกอบ ส่วนผสมของความเป็นดราม่าที่ใส่เข้ามาอย่างกลมกลืน จนอดไม่ได้ที่น้ำตารื้นไปกับหลายๆ ฉากในเรื่อง
นี่มันหนังซูเปอร์ฮีโร่ใช่มั้ย?
แต่ผมยังรู้สึกตะหงิดๆ ในบทสรุปของบางส่วนหนังที่ยังไม่เคลียร์และดูง่ายไปนิด จนคิดว่า น่าจะเพิ่มรายละเอียดบางอย่างเข้าไประหว่างทาง เพื่อให้คนดูเชื่อในการกระทำของตัวละครให้มากขึ้น มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่สังเกตพบ คือ ผมเกิดความสงสัยข้างในลึกๆ ว่า ทำไมคุณภาพความน่าตื่นตาของ 3 มิติในวันที่ผมได้ชมตัวอย่างยาว 4 นาทีในโรงวันนั้น จึงดูดีกว่า 3 มิติบนจอวันนี้จนเห็นได้ชัด อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ
ก่อนเข้าโรง ผมใช้เวลาในการนั่งรออยู่เป็นชั่วโมง เรียกได้ว่า ง่วงอย่างเต็มตัว แต่เมื่อเข้าโรงหนังและนั่งชม ผมพบว่าอาการหาวกลับไม่เกิดขึ้นเลยแม้สักครั้งเดียว แม้ว่าบางช่วงหนังจะให้เวลากับการเล่าเรื่องอยู่บ้างก็ตาม
จุดที่น่าชื่นชมก็คงเป็นดนตรีประกอบจากฝีมือของ James Horner ที่เยี่ยมยอดมาก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่อง ขณะที่ในภาคของ CG ก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เนียนกริ๊บทีเดียว ไม่พักต้องพูดถึงเคมีที่ผสมเข้ากันอย่างลงตัวระหว่างสองพระนาง Andrew Garfield ในบทบาท ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ และ Emma Stone ในบทบาทของ เกวน สเตซี่ นอกจากนี้ ถ้าสังเกตดี คุณจะพบว่า Stan Lee ผู้สร้างสไปเดอร์แมนก็มาร่วมแจมแสดงด้วยนะ ฉากนั้นฮามาก
อย่าเพิ่งรีบลุกออกจากที่ รอหลังเครดิตชื่อผู้แสดงและทีมงานคนสำคัญ ยังมีเรื่องราวที่จะบอกในภาคถัดไป
ชื่อภาพยนตร์: The Amazing Spider-Man / ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Marc Webb
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: James Vanderbilt (screenplay), Alvin Sargent (screenplay), Steve Kloves (screenplay), James Vanderbilt (story), Stan Lee (Marvel comic book), Steve Ditko (Marvel comic book)
นักแสดง : Andrew Garfield, Emma Stone, Rhys Ifans, Denis Leary, Martin Sheen, Sally Field
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
เรท: ไทย/ท , USA/PG-13
ความยาว: 136 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Columbia Pictures, Laura Ziskin Productions, Marvel Enterprises
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 มิถุนายน 2555
PatScore: 4/5
ผมติดตามพี่แพทมานาน วันนี้มีสิ่งดีๆมาใหม่เรื่อยเลย ขอบคุณมากครับ
3ภาคแรกดีมากดูหลายรอบ ภาคนี้ไม่พลาดแน่