รีวิวหนัง Sucker Punch | อีหนูจินตนาการสูงวิ่งสู้ฟัด

หลายครั้งครับ ที่ แพทโซนิค เลือกเข้าโรงหนังเพื่อชมภาพยนตร์ที่สนใจ โดยไม่ได้สนเสียงรอบข้าง นั่นเพราะส่วนใหญ่นั้น หนังที่เลือกจะเข้าไปดู มักจะไม่สร้างความผิดหวังให้ผม จะมีบ้างก็เป็นส่วนน้อย ทำให้ยังเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเองได้อยู่ สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ รสนิยมความชอบเป็นเรื่องประจำตัว ที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน อาทิตย์นี้ ความรู้สึกบอกผมว่าอยากดู ‘Sucker Punch’

หลังดูตัวอย่างหลายรอบ ชักเริ่มสนใจ สอบถามจากคนใกล้ตัว ฟังไว้เป็นข้อมูล แต่ก็ยังมีความรู้สึกอยู่ว่า ยังอยากไปดู แล้ววันนั้นก็มาถึง น่าเสียดาย เพราะอยากดูโรงที่เป็น Digital 3D หาไม่เจอที่ Paragon Cineplex จึงเลือกดูโรงธรรมดาแทน

ด้วยตัวอย่างหนังที่ดูแปลก แต่ชอบใจในฉากต่อสู้ที่สวย เท่ เลยต้องขอจัดซะหน่อย แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ

รีวิวหนัง ‘Sucker Punch’

แบกป็อปคอร์นไปหนึ่งบักเก็ตใหญ่ๆ นั่งดูอย่างลุ้น เริ่มเรื่องอาจจะงงว่าอะไรคืออะไร แต่ก็ตามกันไม่ยาก ด้วยเสียงเพลงร็อกที่ร้องด้วยเสียงผู้หญิงที่เล่าเรื่องต้นสายปลายเหตุของการเข้าไปอยู่ในสถานบำบัดจิตของตัวนางเอกสาวร่างน้อยหน้าใส ภาพสโลว์โมชั่นกับดนตรีร็อกนี่มันช่างเท่บาดใดอะไรเช่นนี้ก็ไม่รู้สินะ

เมื่อผู้เป็นแม่ตายไป เหลือเพียงพ่อเลี้ยงที่ดูจะมีความสุขกับการตายของภรรยา เหตุการณ์พาไปถึงความพลั้งมือฆ่าน้องสาวตัวเองของสาวน้อย จนถูกพ่อเลี้ยงจับส่งเข้าคุก ที่เรียกว่า สถานบำบัดจิต สาวน้อย ที่ต่อมาถูกเรียกว่า Baby Doll ผู้ยังไม่ทันจะปรับตัวเข้ากับสถานที่แห่งใหม่ ก็คิดการใหญ่ทันควัน

ฉันต้องการจะออกไปข้างนอกให้ได้!

ด้วยการสมคบคิดกับสาวสวยที่เคยอยู่มาก่อน ทั้งสวีทพี, ร็อคเกต, บลอนดี้ และแอมเบอร์ ผสานเข้ากับจินตนาการอันแปลกประหลาดของสาว Baby Doll สาวสวยทั้งห้าจึงร่วมมือค้นหาสิ่งของ 4 ชิ้นเพื่อนำพาทั้งกลุ่มออกไปข้างนอกให้สำเร็จ และยังทิ้งปริศนาสิ่งของชิ้นที่ห้าที่เธอต้องค้นหาด้วยตัวเองเท่านั้น

หนังผสานเอาหลายๆ สิ่งเข้าไว้ในเรื่องเดียวกันได้อย่างแปลกประหลาด

มีความแฟนตาซีในส่วนที่ Baby Doll (Emily Browning) สร้างขึ้นว่าเป็นภารกิจในการต่อสู้ในสถานการณ์ต่างๆ มีทั้งฉากที่เป็นนักรบซามูไรยักษ์ ซากเมืองปรักหักพังจากการสู้รบ สัตว์ประหลาดอย่างมังกรยักษ์พ่นไฟ และรถไฟไฮเทคที่วิ่งเข้าเมืองด้วยรางลอยฟ้า ทุกครั้งที่เธอจินตนาการ มันคือช่วงเวลาที่เสียงเพลงดังขึ้น และเธอกำลังร่ายรำให้ใครสักคนในคุกแห่งนั้นได้ดู

มีความเป็นจริงอันฉ้อฉลที่เกิดขึ้นได้เสมอๆ ในโลกแห่งความจริง การที่ฉากหน้าขององค์กรสักแห่งหนึ่ง จะมีฉากเบื้องหลังที่ผิดกับฉากหน้าอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ฉากหลังที่เหลวเละไปด้วยการตอบสนองตัณหาของผู้ชาย ใช่แล้ว และกลุ่มของนางเอกก็คือ ฝ่ายของผู้หญิงที่ทำได้เพียงปรนเปรอตามความต้องการของอีกฝ่ายนั่นเอง

เหมือนหนังจะบอกถึง ความต้องการของผู้หญิงที่หวังจะหนีออกไปจากความต้องการอันเหมือนกรงขังจากผู้ชาย… ผมมองอย่างนั้นนะ

บางคนอาจจะออกมาจากโรงแล้วบอกว่า หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไร ฉาก CG สวยดีก็เท่านั้น ดูเอาสนุก แต่สำหรับผม หลังจากไปดูมาแล้ว ถ้าจะดูเอาเนื้อหา ดูเอาแง่คิดมันก็มีอยู่มากพอดูนะ เปิดดูเครดิตผู้กำกับฯ Zack Snyder นี่มันผู้กำกับฯ ‘Watchmen’, ‘300’ นี่นา

หนังเริ่มต้นของคำพูดยาวๆ ของ Baby Doll และจบด้วยคำพูดที่ต่อจากตอนต้นเรื่อง ทำให้ได้มองเห็นอีกแง่มุมหนึ่งที่หนังใช้เรื่องราวทั้งหมดมาตั้งคำถามเอากับคนดู ทำให้หลายคนรำพึงใน timeline ว่า เป็นหนังตอนดูอาจจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก แต่ดูจบกลับออกมาจากโรงแล้ว กลับรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในหัว

เหมือนหนังจะไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้ว มันก็มี “อะไร” นะครับ

ชื่อภาพยนตร์ : Sucker Punch / อีหนูดุทะลุโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Zack Snyder
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Zack Snyder (screenplay), Steve Shibuya (screenplay),
นักแสดงนำ : Emily Browning, Vanessa Hudgens, Abbie Cornish, Jena Malone, Jamie Chung
แนว/ประเภท : Action,Fantasy, Thriller
เรท : USA/PG-13, ไทย/น13+
ความยาว : 109 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย : Warner Bros Pictures, Legendary Pictures
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 24 มีนาคม 2554
ปี : 2011