ทิ้งช่วงไม่ช้าไม่นาน นายแพทก็เดินเข้าโรงหนังอีกแล้ว ชีวิตของเราไม่พ้นโรงหนังจริงๆ คราวนี้เปลี่ยนไปดูไกลถึงเอกมัยอีกครั้ง เพื่อชมภาพยนตร์เกี่ยวกับลิงๆ วานรๆ เมื่อผู้สร้างคิดย้อนกลับไปเล่าที่มาของพิภพวานรเสียอย่างนั้น มันจึงกลายเป็น ‘Rise of the Planet of the Apes / กำเนิดพิภพวานร’ ให้ผมไปชมในวันนี้ไง
แน่นอน ว่าเกือบทุกครั้งก่อนเข้าโรง ผมย่อมต้องเติมท้องด้วยอาหารมื้อเย็นเพื่อป้องกันความหิวยามดูหนัง ซึ่งบางครั้งก็รีบร้อนจนไม่อิ่มพอ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ผมอิ่มเพียงพอที่จะดูหนังโดยไม่ต้องพะวงกับเสียงท้องร้องของตัวเอง แล้วผมก็เริ่มต้นการย้อนอดีตสู่ต้นกำเนิดของ “พิภพวานร”
รีวิวหนัง ‘Rise of the Planet of the Apes’
ที่มาที่ไปของพิภพวานรที่เราเคยได้รู้จักว่า มีแต่กลุ่มชนผู้มีหน้าตาเหมือนลิง แต่มีสมองที่พัฒนาเท่าเทียมหรืออาจสูงกว่ามนุษย์ มีการปกครอง และมีความขัดแย้ง ไม่ต่างจากที่มนุษย์ผู้เคยครองโลกมาก่อนเป็น พวกเขาเหล่านั้น คือ มนุษย์วานร อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นภาคกำเนิด แต่นี่ก็คือการรีบูตเรื่องราวใหม่อีกครั้งด้วยเค้าโครงเดิม ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อซ่อมแซมสมอง การฟื้นฟูของตัวยาที่ทดลองในลิงเริ่มไปไกลกว่านั้น พวกมันมีพัฒนาการทางสมองในขั้นที่น่าทึ่ง จนบางคนที่หากินกับเรื่องนี้ ตาลุกวาวด้วยมองเห็นผลประโยชน์มหาศาลในภายภาคหน้า แต่หารู้ไม่ว่า มันกำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
เมื่อการทดลองต้องหยุดชะงัก เพราะการอาละวาดของหนึ่งวานร ส่งผลให้พวกเขาสั่งฆ่ามันทั้งหมด โดยไม่มีใครรู้ว่า วานรตัวหนึ่งให้กำเนิดลูกน้อย และ Will Rodman (James Franco จาก ‘127 Hours’) พระเอกของเราเลือกที่จะเลี้ยงดูมันไว้ ก่อนจะพบว่า มันได้ยีนที่มีพัฒนาการมาจากแม่ของมันด้วย
มันถูกให้ชื่อว่า “ซีซาร์”
เขาและ Caroline Aranha (Freida Pinto จาก ‘Slumdog Millionaire’) แฟนสาวที่เป็นสัตวแพทย์ ดูแลมันอย่างดี แต่พวกเขาก็รู้ว่าวันหนึ่งมันก็ต้องโต และพวกเขาอาจไม่สามารถดูแลมันได้ตลอดไป ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ซึ่งอาจใหม่เกินมันจะเข้าใจ ประกอบกับที่มาอันน่าขมขื่นของตน ปฏิบัติการแก้แค้นจึงบังเกิดขึ้น
เท่าที่ดู ถือว่า ‘Rise of the Planet of the Apes’ ดำเนินเรื่องได้สนุก เน้นหนักไปที่พัฒนาการและความนึกคิดของมนุษย์วานรอย่าง ซีซาร์ เสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ไม่ค่อยใส่ใจกับมนุษย์ธรรมดามากนัก ส่วน CG นั่น ทำได้ระดับยอดเยี่ยมในเกือบทุกช็อต โดยเฉพาะมุมกล้อง ที่พาเราไปพบเห็นทุกมุมมองของมัน ไม่ว่าจะปีนต้นไป ห้อยโหนบนสะพาน หากแต่การจบนั้น ไม่เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่
‘กำเนิดพิภพวานร’ อาจมีปัญหาในเรื่องจำนวน และพฤติกรรมเล็กน้อย หากมองข้ามไปบ้าง หนังก็ไม่มีไรต้องบ่นมากนัก
หนังทำให้เข้าใจที่มาของโลกที่เต็มไปด้วยมนุษย์หน้าขน ที่ต้องยกความดีความชอบส่วนใหญ่ให้กับทีม WETA Digital ที่ทำสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ในด้าน Motion Capture ออกมาได้อย่างสมจริง และความสามารถของผู้แสดงเป็นซีซาร์อย่าง Andy Serkis (ผู้เคยเล่นเป็นทั้ง กอลลัม, คิงคอง และเตรียมพบกับเขาในบท Captain Haddock ใน ‘The Adventures of Tintin’) นั่นเอง
ชื่อภาพยนตร์ : Rise of the Planet of the Apes / กำเนิดพิภพวานร
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Rupert Wyatt
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Pierre Boulle (suggested by novel “La planete des singes”), Rick Jaffa, Amanda Silver
นักแสดงนำ : James Franco, Andy Serkis, Freida Pinto, John Lithgow, Tom Felton
แนว/ประเภท : Action, Drama, Sci-Fi
เรท : USA/PG-13, ไทย/-
ความยาว : 105 นาที
วันที่เข้าฉายในไทย : 4 สิงหาคม 2554
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย : Twentieth Century Fox, Chernin Entertainment
ประเทศ : สหรัฐอเมริกา
กำเนิดพิภพวานร
Rise of the Planet of the Apes - 8
8
Rise of the Planet of the Apes
เท่าที่ดู ถือว่า 'Rise of the Planet of the Apes' ดำเนินเรื่องได้สนุก เน้นหนักไปที่พัฒนาการและความนึกคิดของมนุษย์วานรอย่าง ซีซาร์ เสียเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ไม่ค่อยใส่ใจกับมนุษย์ธรรมดามากนัก ส่วน CG นั่น ทำได้ระดับยอดเยี่ยมในเกือบทุกช็อต โดยเฉพาะมุมกล้อง ที่พาเราไปพบเห็นทุกมุมมองของมัน ไม่ว่าจะปีนต้นไป ห้อยโหนบนสะพาน หากแต่การจบนั้น ไม่เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่