ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Yesterday | เยสเตอร์เดย์ วันที่โลกไม่รู้จักสี่เต่าทอง

หนังที่หยิบเอาวงดังในตำนานมาเล่าขานในสไตล์แฟนตาซีดราม่าโรแมนติก

จะเป็นยังไงถ้าโลกนี้ไม่เคยมีบางสิ่ง ถ้าเกิดปาฏิหาริย์ เกิดปรากฏการณ์พิเศษ ที่ทำให้บางสิ่งหายไป แล้วโลกมันจะแตกต่างไปอย่างไรจากที่ควรจะเป็นเมื่อสิ่งนั้นยังมีอยู่ ก็เป็นคำถามที่น่าคิดนะครับ วันนี้มีหนังเรื่องหนึ่งที่หยิบเอาประเด็นแบบนั้นมาสร้างเป็นเรื่องราว และมันคือ ‘Yesterday’

Lily James และ Himesh Patel ในหนัง ‘เยสเตอร์เดย์’

หนังที่หยิบเอาเพลงของ The Beatles วงดังสมัยก่อนโน้นมาเล่าในมุมใหม่ๆ โดยให้ Richard Curtis คนที่เคยเขียนบทให้กับ About Time และ Love Actually มาทำหน้าที่เขียนบทเรื่องนี้ ทั้งยังได้ผู้กำกับมือดีอย่าง Danny Boyle มารับหน้าที่กำกับอีกด้วย


เนื้อเรื่องย่อ ‘Yesterday’

เมื่อวาน แจ็ค (Himesh Patel) ยังเป็นแค่คนที่มีชีวิตแสนธรรมดา เป็นคนที่ทำงานในสโตร์ที่ชอบแต่งชอบร้องเพลง เขามีผู้จัดการส่วนตัวเป็นสาวสวยอาชีพคุณครู เอลลี่ (Lily James จาก ‘Baby Driver’, ‘Cinderella’) ผู้คอยติดสอยห้อยตาม หางานโชว์เล็กงานน้อยให้ทำอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ไปถึงไหนสักที

จนมาวันหนึ่ง

เกิดปรากฏการณ์ประหลาด ไฟดับทั่วบ้านทั่วเมือง ลามไปยังทุกที่บนโลกด้วย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแจ็ค นอกจากทำให้เขาฟันหักไปสองซี่แล้วเขายังพบว่าโลกที่เขายืนอยู่นี้ ไม่มีผู้ใดรู้จักเพลงของเดอะบีเทิลส์เลย แจ็คต้อง “ตกกระไดพลอยโจน” เมื่อใครก็เชื่อว่าเขาแต่งเพลงได้ไพเราะและเป็นอัจฉริยะคนใหม่ของวงการ

ตัวอย่างหนัง ‘เยสเตอร์เดย์’ (ซับไทย)

ความโด่งดังของแจ็คมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึง มันไปเตะตานักร้องดังอย่าง เอ็ด ชีแรน (Ed Sheeran) และผู้จัดการส่วนตัวของเอ็ดเข้า แจ็คจึงได้เข้าห้องอัดและนำเพลงของเดอะบีเทิลส์ที่เลยตามเลยรับเป็นคนแต่งเรื่อยมา จนในที่สุด เขาก็กลายเป็นคนดัง

ดังด้วยเพลงที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อน


รีวิวหนัง ‘เยสเตอร์เดย์’

ตอนเริ่มเรื่องนั้น หนังมันมีความแฟนตาซีเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น ปรากฏการณ์ไฟดับที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วเมื่อแจ็คตื่นขึ้นมาเขาก็ได้รับรู้ว่า โลกของเขากลายเป็นโลกใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักวง The Beatles ที่เขารักอีกต่อไป ทุกเพลงที่เขาร้องคือเพลงใหม่ และกลายเป็นว่าทุกคนคิดว่าเขาแต่งเอง แล้วมันก็เลยเถิดไปถึงขั้นเขากลายเป็นนักแต่งเพลงชื่อดัง

ทั้งที่เขารู้อยู่ในใจว่ามันไม่ใช่ผลงานของเขาเลย

ถ้าโลกนี้ไม่มีสี่เต่าทอง

พล็อตเรื่องที่ดูน่าสนใจ ถ้าโลกนี้ไม่มีเดอะบิเทิลส์ แต่มีคนบางคนที่หยิบมันมาร้อง มันจะยังดังจับใจคนฟังยาวนานได้อยู่มั้ย แต่คนเขียนบทเขาก็ไม่ได้มุ่งประเด็นอยู่แต่เฉพาะกับเพลง วงการ และความโด่งดัง เพราะเขาหยิบเรื่องความรักความสัมพันธ์ส่วนตัวของพระเอกมาเล่าร่วมไปด้วย

โปสเตอร์หนังเวอร์ชันไทยของ ‘เยสเตอร์เดย์’

เอลลี่นั้น ถึงแม้จะเป็นเพียงคุณครูสอนเด็กๆ แต่เธอก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของแจ็ค หากในวันที่เขากำลังโด่งดังก้าวไปไกล เธอกลับไม่อาจทิ้งเด็กๆ และตามเขาไปได้ นับวันเธอยิ่งไกลห่างจากเขาไปทุกที ทั้งไม่เคยบอกความในใจไปเลยสักครั้งตลอดครึ่งชีวิตที่ผ่าน

พล็อตโดยรวมนั้นน่าสนใจ หากเมื่อมาเป็นหนังหลายจุดยังดูแปร่งๆ ไปนิด

เป็นหนังที่เพลินไปกับเพลงเพราะๆ ผสมกับมีมุกน่ารักพอหัวเราะคิกคักไปได้ตลอดทั้งเรื่อง บางช่วงเหมือนจะตัดต่อรวบรัดไปบ้าง อาจเพราะเรายังไม่เห็นความสัมพันธ์ที่มากพอระหว่างพระนางแต่จู่ๆ ก็ถูกผลักให้ไปรับรู้ความลับที่เก็บซ่อนไว้อย่างปัจจุบันทันด่วน หรือบางจุดหนังก็สร้างความขัดแย้งให้ตัวเองด้วยบทบาทของตัวละครสมทบบางตัวที่พางงๆ ระหว่างรับชม

หยิบเพลงในตำนานมาเรียบเรียงใหม่

ภายในหนังอาจพบเพลงเพราะๆ ของสี่เต่าทองมากมาย แต่กลับไม่ได้มีเพลงดังที่คนฟังเพลงทั่วไปจะคุ้นหูมากนัก ถ้าเป็นแฟนเพลงหรือคนที่อยู่ในวงการน่าจะชื่นชอบยิ่งกว่า เพราะเขาเอาหลายเพลงมาเรียบเรียงใหม่ ทั้งเพลงที่แจ็คร้อง ทั้งเพลงที่ประกอบอยู่ในหนัง แฟนสี่เต่าทองย่อมเต็มอิ่มแต่คนทั่วไปอาจรู้สึกแห้งแล้งนิดหน่อย

ภาพจากหนัง ‘เยสเตอร์เดย์’

สิ่งที่ชื่นชอบใน ‘เยสเตอร์เดย์’

ส่วนตัวชอบการเล่นกับมุกเมื่อวาน เมื่อวานคนยังรู้จักเพลงของสี่เต่าทองอยู่เลย วันนี้ คนกลับไม่รู้จักกันเสียแล้ว อีกสิ่งที่ชอบก็คือมุมมองของยาพิษ ทุกสิ่งมันมีแง่มุมทั้งดีและร้าย ความมีชื่อเสียงและความรุ่งเรืองในวงการเพลงก็ไม่ต่าง อีกจุดที่คิดว่าทำให้หนังมีสีสันก็คือ การมี Ed Sheeran นักร้องนักดนตรีนักแต่งเพลงชื่อดังก้องโลกที่มาอยู่ในตัวหนัง เป็นตัวขโมยซีนและทำให้ยิ้มได้ไม่มีหยุด นอกจากนั้น หนังก็ยังมีเซอร์ไพรส์ที่มาแบบนึกไม่ถึงให้ได้ยิ่มอิ่มเอมอีกด้วย

อีกสิ่งที่ชอบในหนังก็คือการมุมมองของภาพเคลื่อนไหวที่สวย เท่ ไม่เหมือนใคร

ทั้งที่ทั้งเรื่องดูเหมือนจะมีสิ่งดีๆ อยู่มากมายหากแต่เมื่อดูหนังไปแล้วกลับยังไม่พบสิ่งที่พีคสุดๆ ของหนัง น่าแปลกที่เหมือนยังมีบางสิ่งที่ขาดหายไป ส่วนหนึ่งอาจจะมาตัวพระเอกที่ขาดแคลนซึ่งเสน่ห์มากไปนิด แม้จะเข้าใจดีว่าหนังคงไม่ได้ต้องการให้เรามองเพียงภายนอกของคนๆ หนึ่ง แต่สิ่งที่เลือกจะเป็นตัวสะท้อนตัวตนและมุมมองของเขาเอง

อิ่มเอมในตอนท้าย เพลงตอนจบ มันเพราะมากกกกกก


ชื่อภาพยนตร์: Yesterday / เยสเตอร์เดย์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Danny Boyle
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jack Barth (story by), Richard Curtis (screenplay)
นักแสดงนำ: Himesh Patel, Lily James, Sophia Di Martino, Ellise Chappell
ความยาว: 116 นาที
ปี: 2019
แนว/ประเภท: Comedy, Fantasy, Music 
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 สิงหาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Decibel Films, Etalon Film, Working Title Films, UIP

เยสเตอร์เดย์

พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 7.2
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7.5
ความสนุก/การดำเนินเรื่อง - 7
งานภาพ - 8

7.4

Yesterday

หนังฟีลกู้ดที่ชวนให้หัวเราะคิกคักตามไปด้วย งานภาพแจ่มมีมุมมองสวยๆ เต็มเรื่อง มีเอ็ด ชีแรน มาขโมยซีน มีเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง มีนางเอกที่สวยน่ารักน่าทะนุถนอม มีเพลงเก่าของสี่เต่าทองที่เรียบเรียงและร้องใหม่ให้ได้อิน เยสเตอร์เดย์ เป็นหนังที่มีดีหลายสิ่งอยู่เหมือนกัน แต่เหมือนหนังจะยังขาดบางสิ่งไป จึงทำให้มันดูไม่สุด ไม่พีค อย่างที่ควรจะเป็น

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ