ตั้งแต่เกิดมาจนมีชีวิตถึงทุกวันนี้ คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเราคนไทยจะได้สัมผัสกับตำนานไซอิ๋วมาหลายหนหลากรูปแบบ จนถึงทุกวันนี้ มนุษย์โลกก็ยังคงสร้างอภิมหากาพย์เรื่องนี้ออกมาให้เราได้รับชมกัน อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Wukong’ หนังเรื่องใหม่ในปี 2017 ที่เนื้อเรื่องเน้นไปที่หงอคงแต่เพียงผู้เดียว
หนังมีชื่อไทยว่า ‘หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร’ เรื่องราวที่ไม่มีความข้องเกี่ยวกับการอัญเชิญพระคัมภีร์อีกแล้ว แต่เน้นเล่าเรื่องราวการถือกำเนิดขึ้นของวานรผู้มีอิทธิฤทธิ์และคำนองถึงขั้นต่อกรกับสวรรค์
แต่ยังไงก็คงโดนใจคอไซอิ๋วกันแหละ
เรื่องย่อหนัง ‘Wukong’
หนังย้อนเล่าไปถึง หงอคง (Eddie Peng) ราชาวานรผู้เติบโตอยู่ในหุบเขาฮั้วกั้วะ ต้นกำเนิดของหงอคงนั้นมีความเกี่ยวกับสวรรค์เหลือหลาย และนั่นเป็นสาเหตุให้เขาหมายแก้แค้นต่อสวรรค์ ส่งผลให้ถูกหมายปองชีวิตโดยฮั้วจี (Feihong Yu) ผู้เป็นแม่ทัพสวรรค์
หงอคงได้รับการช่วยชีวิตจากพระโพธิ์สัตว์ หงอคงจึงกลายเป็นศิษย์ของเขา
ในวันที่เขาขึ้นมาถึงสวรรค์ เขากลับได้พบกับจื่อเซี่ย (Ni Ni) ลูกสาวของแม่ทัพสวรรค์ แต่ทั้งคู่ดูเหมือนจะปิ๊ง หากภารกิจล้างแค้นก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า
ในศึกครั้งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่หงอคงต้องได้พบกับคู่ปรับที่ฝีมือสูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นอย่าง หยางเจียน (Shawn Yue) ที่ฮั้วจีมอบหมายให้สังหารจื่อเซี่ยที่เขาหลงรักเพื่อแลกกับตำแหน่งในสรวงสวรรค์ กับอีกคน คือ เทียนเผิง (Ou Hao) องค์รักษ์ของฮั้วจี
ที่ออกตามสืบหาหงอคงถึงยังหุบเขาฮั้วกั้วะ
รีวิวหนัง ‘Wukong’
ด้วยหนังที่นายแพทได้ชมจะเป็นหนังพากย์ไทยโดยทีมงานพันธมิตร เพราะฉะนั้น หนนี้ จึงมิใช่หนังซับไทยอย่างที่คุ้นเคยมา สะดวกดีตรงที่ไม่ต้องอ่านซับ แต่อรรถรสดั้งเดิมก็น่าจะหายไปบ้างแหละ
มีทั้งโรแมนซ์และแฟนตาซี ที่ยังตัดต่อไม่ลงตัว
ในเวอร์ชั่นนี้ เราจะได้เห็นหงอคงในแบบที่หล่อโดนใจสาวๆ อาจจะมีเครารุงรังบ้าง แต่มีช่วงที่หงอคงต้องเข้าฉากโรแมนติกกับนางเอกที่เป็นลูกสาวของแม่ทัพสวรรค์ ขณะเดียวกัน องครักษ์เทียนผิงก็จะได้มีฉากหวานๆ กับสาวสวยอีกคน อาเยว่ (Zheng Shuang)
ทำให้หนังภาคนี้ค่อนข้างมีความโรแมนติกมากอยู่สักหน่อย
แม้หนังจะมุ่งเน้นในด้านงานสร้าง ด้วยเพราะเป็นหนังแอ็คชั่นแฟนตาซี คอมพิวเตอร์กราฟิกจะเข้ามามีบทบาทสูงมาก แต่ก็ถือว่าเขาทำได้ดีพอตัว รวมไปถึงส่วนของโปรดักชั่นงานสร้างฉากที่เห็นได้ชัดว่าดูตั้งใจทำ กลายเป็นส่วนดีของหนังที่น่าชื่นชม
หากแต่การมุ่งเน้นทางสองทางทั้งโรแมนซ์และแฟนตาซีก็ทำให้หนังมีความเสี่ยงในการจัดสรรที่ไม่ลงตัวในระหว่างได้ง่าย
ในบางช่วงของหนัง มีความเยิ่นเย้อและชักช้าเพราะหันไปเล่าในพาร์ทของโรแมนติก ทั้งที่มันเป็นช่วงเวลาที่ควรจะเน้นแอ็คชั่น และในบางช่วงของหนังก็เน้นการเล่าเรื่องและสนทนามากจนเกินไปทำให้ดูดร็อปลงไปบ้าง ขณะที่บางช่วงก็ลุกขึ้นเดินเรื่องเร็ว ใส่ฉากแอ็คชั่นที่ดูตื่นตา
จึงปลุกความเฉื่อยชาให้กลายมาเป็นหนังที่น่าตื่นเต้นไปด้วยได้
หนังหงอคงที่มีแต่ความหล่อและสวยมาทำให้ปัง
ถือเป็นการหยิบเอาตำนานไซอิ๋วที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว มาสร้างเป็นเรื่องราวในมุมมองใหม่ๆ ผสานกับจินตนาการงานสร้างในแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะการใส่เรื่องรักและดราม่าลงไปในหนังแฟนตาซี
ในหนังจะมีจุดเล็กจุดน้อยให้พอรู้สึกถึงแง่มุมด้านลึกของบทหนังอยู่บ้าง
บางมุมหนังก็นำเสนอมุมของคนที่เฝ้ารอคนรักมานานแสนนาน รักของคนที่ต่างชนชั้นต่างศักดิ์กันมักถูกกีดกั้นให้กลายเป็นรักต้องห้าม แต่มันกลับเป็นที่บริสุทธิ์ชวนซึ้งกินใจ ต่างกับความรักในอำนาจที่หลายครั้งมันถูกให้น้ำหนักมากเกินกว่าความรักของคนในครอบครัว
และหลายครั้งก็นำพาแต่เรื่องน่าเศร้าเข้ามาแทน
โดยรวมของ ‘หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร’ จึงมีจุดเด่นที่การเขียนเรื่องราวให้กับหงอคงให้มุมใหม่ๆ ผสานกับโปรดักชั่นการสร้างและซีจีที่ดูดีมีความโดดเด่น แต่การผสมที่ไม่ลงตัวของบท ระหว่างความดราม่าโรแมนติกและความแอ็คชั่นแฟนตาซี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังพูดได้ไม่เต็มว่าน่าสนุก
แต่สำหรับใครที่อยากดูหงอคงสุดหล่อ ดูเทียนเผิงและหยานเจียงที่ปังได้ไม่แพ้กัน ขณะที่ฝ่ายสาวๆ ผมต้องขอยกให้เจิ้งส่วงที่พบว่าปังกว่าหนีนีเสียอีก
นี่อาจจะเป็นหนังสไตล์ไซอิ๋วที่หงอคงหล่อที่สุดก็ว่าได้
ชื่อภาพยนตร์: Wukong / Immortal Demon Slayer / หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร
ผู้กำกับภาพยนตร์: Chi-kin Kwok (as Derek Kwok)
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Hai Huang, Hezai Jin
นักแสดงนำ: Eddie Peng (เอ็ดดี้ เผิง), Shawn Yue (ชอว์น ยู), Ni Ni (หนีนี), Ou Hao (โอวหาว), Zheng Shuang (เจิ้งส่วง), Feihong Yu (เฟยหง ยู่)
ดนตรีประกอบ:
ความยาว: 130 นาที
แนว/ประเภท: Action, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 27 กรกฎาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: New Classics Media, M Pictures
หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร
Wukong - 6
6
Wukong
โดยรวมของ 'หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร' จึงมีจุดเด่นที่การเขียนเรื่องราวให้กับหงอคงให้มุมใหม่ๆ ผสานกับโปรดักชั่นการสร้างและซีจีที่ดูดีมีความโดดเด่น แต่การผสมที่ไม่ลงตัวของบท ระหว่างความดราม่าโรแมนติกและความแอ็คชั่นแฟนตาซี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังพูดได้ไม่เต็มว่าน่าสนุก