ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดความชอบส่วนตัวในบรรยากาศของหนังญี่ปุ่น ไม่ว่าเป็นโลเกชันบ้านเมือง ฟีลลิ่งหรือเสียงเพลงประกอบ แต่อีกส่วนสำคัญก็คงเป็นเพราะนักแสดงนั่นแหละ เรื่องนี้ มีทั้งงักกี้ รักแรกแห่งชาติญี่ปุ่น และน้องโฮโจ จากซีรีส์ที่เพิ่งได้ดูไปไม่นาน วันนี้ นายแพทจึงได้พาตัวเองมาพบกับหนังญี่ปุ่น ‘Worlds Apart’ หรือชื่อไทย ‘ฮีลหัวใจอินโทรเวิร์ต’ เรื่องนี้
คิดเห็นเช่นไรกับหนังเรื่องนี้?
หนังญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องชีวิตธรรมดาของสองน้าหลานที่แม้เป็นญาติแต่ก็มีความขัดแย้งภายในใจ น้านักเขียนอินโทรเวิร์ตที่จำเป็นต้องรับเลี้ยงหลานสาวแม้เธอจะเกลียดชังแม่ของเด็ก แต่การได้มาอยู่ร่วมกัน กลับกลายเป็นเรื่องดี เมื่อต่างคนต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน ต่างพยายามปรับตัวเข้าหากัน และเมื่อรู้จักกันมากขึ้น ก็ค่อยๆ พูดความในใจกันออกมา หนังที่เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ราวกับจะไม่มีวันจบ แต่ก็เก็บเอาแง่มุมดีๆ มาเรียงร้อยใส่เอาไว้
และด้วยเสน่ห์และความสามารถของ ยูอิ อารางากิ ความน่ารักของ อิโคอิ ฮายาเสะ พร้อมด้วยนักแสดงคนอื่นที่เข้ามาเติมสีสัน ทำให้หนังที่ดูเรื่อยเปื่อยๆ เรื่องนี้ไม่ชวนให้ง่วงเลยสักนิด ดูเพลินมากจ้า
เรื่องย่อหนัง ‘Worlds Apart’
เมื่อพี่สาวที่เกลียดมากเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ มาคิโอะ (ยูอิ อารางากิ จากหนัง ‘Sky of Love’) นักเขียนสาวอินโทรเวิร์ต จึงเอ่ยปากชวน อาสะ (อิโคอิ ฮายาเสะ จากซีรีส์ ‘แกล้งนักรักนะรู้ยัง’) ลูกสาวของพี่สาวมาเลี้ยงอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ได้แต่บ่นว่า “พูดไม่คิด ชีวิตเปลี่ยนเลย” ถึงแม้ว่าเริ่มต้นมันจะเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน แต่ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นทุกที
เพื่อนหนุ่มของเธอ เคยบอกว่า “เหมือนเห็นตัวเธอในอดีต” บางสิ่งที่เธอผ่านมาคงมีอะไรที่เหมือนกับเด็กคนนี้สินะ หรืออาจเป็นสิ่งนี้ที่ฮีลใจทั้งเธอและเด็กสาวไปพร้อมๆ กันก็เป็นได้
รีวิวหนัง ‘ฮีลหัวใจอินโทรเวิร์ต‘
ความจริงแล้ว หนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากการ์ตูนฮีลใจที่ชื่อ ‘Ikoku Nikki’ ผลงานของ อ.ยามาชิตะ โทโมโกะ ที่ลงต่อเนื่องในนิตยสารการ์ตูน Feel Young ก่อนจะได้รับทั้งความนิยมและรางวัลต่างๆ และวันนี้ มันก็กลายมาเป็นหนังคนแสดงให้เราได้ดูกัน โดยให้ Natsuki Seta คนที่เคยกำกับเรื่อง ‘PARKS’ ให้เราประทับใจกันมาก่อนแล้วนั่นเอง
เริ่มต้นเรื่องมา เราคนดูก็คงคิดเหมือนกับอาสะนั่นแหละ ในวันที่เพิ่งสูญเสียทั้งพ่อแม่ไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ จู่ๆ คุณน้าก็เอ่ยปากจะชวนอาสะไปอยู่ด้วย คุณน้าไม่ยอมบอกว่าเพราะอะไรจึงเกลียดชังแม่ของเธอ แถมเกลียดขนาดนี้ ทำไมถึงคิดจะรับเลี้ยงเธอกันล่ะ แม้เมื่อเวลาผ่านไป น้ากับหลานได้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว แต่ก็ไม่เคยปริปากบอกสาเหตุของความเกลียดชังนี้สักที
มันเป็นหนังสไตล์ slice of life นั่นแหละ เพราะมันหยิบชีวิตปกติธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญ เรื่องของน้ากับหลานที่มีทั้งความเป็นญาติและความขัดแย้งในใจต่อกัน หากมันกลับเป็นเรื่องที่จับต้องได้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย จึงกระทบกับจิตใจของคนอ่านคนดูได้ง่ายอย่างนั้นมั้ง
เส้นทางของคนสองคนที่คล้ายจะต่างขั้ว คนนึงเป็นนักเขียนที่ชอบอยู่กับบ้าน แถมไม่ชอบจัดห้อง ชีวิตของเธอต้องมาบรรจบกับเด็กสาววัยสิบห้าที่เพิ่งสูญเสียพ่อแม่ไปอย่างกะทันหัน แถมคนแรกยังเกลียดชังแม่ของเด็กสาวอีกต่างหาก แต่ทั้งสองกลับได้มาอยู่ร่วมกัน ได้โอกาสในการปรับตัวปรับใจเข้าหากัน ได้เรียนรู้และเยียวยาแผลใจของกันและกัน
เท่าที่รู้สึก ผมว่าต่างคนต่างก็เป็นคนนิสัยดีเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว มาคิโอะ แม้จะเป็นนักเขียนที่ชอบอยู่กับบ้าน อยู่กับตัวเอง แต่การเปิดรับหลานสาวเข้ามาอยู่ร่วมกัน ก็แค่การปรับตัวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งเท่านั้น หากสิ่งที่ทำให้มันยากขึ้นก็เพราะนี่คือลูกของพี่สาวที่เธอเกลียดชัง สร้างความกระอักกระอ่วนใจ จะมารับมาเลี้ยงก็ไม่ได้เพราะอาสะไม่เหลือใคร แต่เมื่อได้มาอยู่ร่วมกัน ก็เหมือนมาคิโอะจะได้ค้นพบสิ่งที่ดีจากมัน อาสะดันเป็นคนที่ชอบทำงานบ้านและชอบทำอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบหรือทำได้ไม่ดี ขณะเดียวกัน มันก็เปิดเผยความเกลียดชังที่เธอไม่อยากพูดถึง ให้มันได้คลี่คลาย
ตัวหนังดูไม่เร่งร้อนอะไรมากนัก บางฉากยังใช้วิธีปล่อยให้นักแสดงได้เล่นกันยาวๆ ส่งออกเคมีให้เปล่งประกายมากที่สุดอีกต่างหาก เรื่องราวในนั้น มีหลายแง่มุมเล็กน้อยที่ชวนให้ซึมซับ มีตัวละครรองๆ ที่บทไม่เยอะนักแต่ก็มีมุมที่ช่วยเสริมกัน ไม่ว่าจะเป็น นานะ ไดโกะ (คาโฮะจากหนัง ‘Our Little Sister’) เพื่อนสนิทที่เต็มไปด้วยพลังบวกของมาคิโอะ, ชินโกะคาซามาจิ (โคจิ เซโต้ จากหนัง ‘Kamen Rider Kiva’) ชายหนุ่มคนพิเศษของมาคิโอะ หรือจะเป็น เอมิริ (รินะ โคมิยามะ จากหนัง ‘Sayonara, Girls.’) เพื่อนของอาสะ
แม้ว่าหนังเรื่องจะค่อนข้างยาวอยู่สักนิด 2 ชั่วโมง 19 นาที กับเรื่องราวที่เป็นชีวิตประจำวัน ไม่ได้มีจุดสูงสุดต่ำสุด ปมในนั้นก็ไม่ได้ถึงกับยิ่งใหญ่มากมาย แม้บางทีก็รู้สึกว่า หนังยังไม่ถึงส่งความอินโทรเวิร์ตของมาคิโอะออกมาสักเท่าไหร่ แต่ด้วยเสน่ห์ของนักแสดง ความน่ารักของทั้งงักกี้ ฮายาเสะและอีกหลายคน ที่ทำให้แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนว่า ไม่รู้สึกง่วงระหว่างดูเลย มีความรั่วๆ แต่น่ารัก จนทำให้เป็นหนังที่ดูเพลินว่างั้นเถอะ
โดยรวม หนังมันทำให้ได้เห็นถึงความอบอุ่นที่เกิดกับหัวใจสองดวงที่มีบาดแผล น้ากับหลานที่ต่างก็มีเรื่องฝังใจที่ได้มานั่งปรับทุกข์กัน และยิ่งได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ก็ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น อันที่จริง ชีวิตคนเราก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่า การที่มีคนมองเห็นค่า ความสำคัญ เข้าใจและยอมรับในความเป็นเรา เพราะมันคือแรงพยุงที่พาให้เรายังมีแรงก้าวเดินต่อไปนั่นเอง
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Worlds Apart / ฮีลหัวใจอินโทรเวิร์ต / 違国日記 |
กำกับ | Natsuki Seta |
เขียนบท | Natsuki Seta, Tomoko Yamashita |
แสดงนำ | Yui Aragaki, Ikoi Hayase, Kôji Seto, Kaho, Rina Komiyama |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
เรท | |
ความยาว | 139 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 7 พฤศจิกายน 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Showgate, Tokyo Theaters Company, มงคล เมเจอร์ |
คะแนนหนัง ฮีลหัวใจ อินโทรเวิร์ต
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 6.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชั่น - 6.8
7
Worlds Apart
หนังญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องชีวิตธรรมดาของสองน้าหลานที่แม้เป็นญาติแต่ก็มีความขัดแย้งภายในใจ น้านักเขียนอินโทรเวิร์ตที่จำเป็นต้องรับเลี้ยงหลานสาวแม้เธอจะเกลียดชังแม่ของเด็ก แต่การได้มาอยู่ร่วมกัน กลับกลายเป็นเรื่องดี เมื่อต่างคนต่างส่งเสริมซึ่งกันและกัน ต่างพยายามปรับตัวเข้าหากัน และเมื่อรู้จักกันมากขึ้น ก็ค่อยๆ พูดความในใจกันออกมา หนังที่เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ราวกับจะไม่มีวันจบ แต่ก็เก็บเอาแง่มุมดีๆ มาเรียงร้อยใส่เอาไว้ และด้วยเสน่ห์และความสามารถของ ยูอิ อารางากิ ความน่ารักของ อิโคอิ ฮายาเสะ พร้อมด้วยนักแสดงคนอื่นที่เข้ามาเติมสีสัน ทำให้หนังที่ดูเรื่อยเปื่อยๆ เรื่องนี้ไม่ชวนให้ง่วงเลยสักนิด ดูเพลินมากจ้า